อูทาดะ ฮิคารุ โกอินเตอร์รอบสอง

โกอินเตอร์ไปบุกตลาดอเมริกาเป็นรอบที่ 2 และดูเหมือนรอบนี้สาวจากแดนปลาดิบ "อูทาดะ ฮิคารุ" จะประสบความสำเร็จมากกว่าครั้งที่แล้ว

เพราะอัลบั้ม This Is The One ที่ปล่อยขายออนไลน์อยู่ตอนนี้ ทำให้เธอกลายเป็นศิลปินญี่ปุ่นคนแรกที่พางานเพลงขึ้นไปติดเป็น 1 ใน 20 อัลบั้มขายดีของไอจูน ออนไลน์ ที่สหรัฐ อเมริกา

ชื่อเต็มของสาวคนนี้คือ "อิวาชิตะ ฮิคารุ" และมีชื่อเล่นน่ารักๆ ให้เรียกว่า "ฮิกกี้" เกิด 19 มกราคม ค.ศ.1983 ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางเสียงเพลง

พ่อของเธอ "ทารุซาเนะ อูทาดะ" เป็นโปร ดิวเซอร์และนักดนตรีชื่อดัง ส่วนแม่ "จุนโกะ อูทาดะ" ก็เป็นนักร้อง

ยิ่งไปกว่านั้น ปู่ ย่า ตา ยาย ก็ล้วนเป็นคน ในแวดวงเสียงเพลง โดยเป็นนักดนตรีบ้าง นักร้องบ้าง


อูทาดะใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นไปมาระหว่าง 2 ซีกโลก นิวยอร์กและโตเกียว แต่ที่ที่เธอคุ้นเคยและเรียกมันว่าบ้านกลับกลายเป็นสตูดิโออัดเพลง

ตอนอายุ 11 ขวบ สาวน้อยฮิกกี้เริ่มแต่งและอัดเสียงเพลงแรกในชีวิต เมื่อจบชั้นประถม ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง อีเอ็มไอก็เซ็นสัญญาให้เธอเป็นนักร้องในสังกัด

Precious คืออัลบั้มภาษาอังกฤษอัลบั้มแรกในชีวิตที่ออกมาเมื่อปี 1998 แต่กลับไม่สามารถวางจำหน่ายได้เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจของค่ายขณะนั้น แต่ภายหลังอัลบั้มนี้ก็ได้วางขายในญี่ปุ่น

โดยตอนนั้นเธอใช้ชื่อในวงการว่า Cubic U

หลังย้ายกลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่นอย่างถาวร ฮิกกี้ก็เริ่มทำงานเพลงให้คนในถิ่นเกิดของเธอฟัง และออกอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นชิ้นแรก First Love เมื่อปี 1999 ซึ่งกลายเป็น 1 ในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของญี่ปุ่น

ในปี 2001 อูทาดะ ออกอัลบั้มที่ 2 ในชื่อ Distance ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการเพลงญี่ปุ่นต้องจารึก กับยอดขาย 3 ล้านก๊อบปี้ในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย

จากนั้นอีก 1 ปี ก็มีงานเพลงญี่ปุ่นชุดที่ 3 Deep River


ก่อนที่จะโกอินเตอร์ครั้งแรกกับอัลบั้ม Exodus ในปี 2004 โดยมีเพลงดังอย่าง Easy Breezy และ Devil Inside

จากนั้นก็มามีอัลบั้มเพลงญี่ปุ่น 2 อัลบั้ม Ultra Blue และ Heart Station ในปี 2006 และ 2008 ตามลำดับ

และตอนนี้เธอก็พร้อมแล้วกับงานเพลงภาษาอังกฤษอัลบั้มที่ 2 ในชื่อ This Is The One ซึ่งมีซิงเกิ้ลฮิต Come Back To Me จังหวะสนุกๆ มาให้แฟนๆ ได้โยกตามกันตั้งแต่ต้นปี แถมกำลังเป็นเพลงที่ฮอตฮิตในบ้านเราด้วย

ฮิกกี้กล่าวถึงงานเพลงในอัลบั้มนี้ให้ฟังว่า

"ฉันต้องการทำเพลงที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่ไม่ใช่อะไรที่ตลาด ซ้ำซากหรือดูโง่ๆ แต่เป็นอะไรที่สามารถดึงดูดคนฟังได้อย่างกว้างขวาง ฉันชอบสร้างผลงานที่ลึกซึ้งและมีมิติ ทำนองที่ติดหูและความหมายที่ลึกซึ้งคือสองสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันในการทำงานเพลง"

สำหรับ This Is The One ในรูปแบบซีดีมีวางขายเรียบร้อยแล้วที่ญี่ปุ่น และบ้านเรา ส่วนที่อเมริกามีกำหนดวางแผงกลางเดือนหน้า ซึ่งมีการคาดเดากันว่าเพลงน่าจะติดบิลบอร์ดชาร์ต อัลบั้มเพลงขายดีของชาวมะกัน


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์