เรื่อง(ไม่)ลับกับความฉาวถึงค(ร)าวซุปตาร์เอาตัวรอด

 ในยุคสมัย ที่ดาราต้องมาพร้อมกับข่าวค(ร)าวที่ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด สำนวนที่ว่า "รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"

 คงใช้ได้กับข่าวฉาวที่ดาราไม่อาจจะหนีพ้น หากลองสังเกตกันดูดีๆ จะพบว่าการหากลเม็ดเคล็ดลับของคนบันเทิงมาใช้รับมือกับเรื่องฉาวๆ นั้นเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง อึ้ง!! ไม่คิดว่าจะ(กล้า)ทำไปได้ แต่จะมีประเด็นเด็ดอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย...

ยาเสพติด

          ดารานักแสดงเป็นอาชีพที่ควรระลึกไว้อยู่เสมอว่าต้องเป็นต้นแบบที่ดีต่อเยาวชนอยู่เสมอ (ถูกต้องมั้ยคะ) แต่หากในยามใด ที่ต้นแบบเหล่านั้นตกเป็นจำเลยสังคมในข้อหา เสพ ค้า มีไว้ครอบครอง ยานรก ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถึงอย่างไรเหล่าดารา นักร้อง นักแสดง ที่ตกเป็นข่าว หรือเข้าข่ายต่างก็เอาตัวรอด อย่างที่เคยประสบพบเจอคือ วิธีแรกตีหน้ามึน และไม่ยอมรับเข้าไว้ (คิดว่ายังไงก็ไม่ยอมติดตะรางง่ายๆ แน่นอน) หรือไม่บอกออกไปว่าไม่รู้เรื่อง จากนั้นอาจจะเบี่ยงเบนข้อกล่าวหาทั้งหมด ให้บุคคลที่ 3 4 5 จัดการต่อไป และท้ายสุดเป็นไม้ตายเด็ด หากหลักฐานทั้งหมดมัดตัวจนดิ้นไม่หลุด หรือจนมุมจริงๆ ก็ต้องขอคุยกับทนาย และปล่อยให้ฝ่ายกฎหมายเป็นคนดูแลเรื่องราวทั้งหมดต่อไป ส่วนเจ้าของเรื่องราวก็หายตัวไปจากวงการทันที...แต่เมื่อถึงเวลาอันสมควรค่อยกลับมาอีกครั้ง เพราะคิดเองเออเองว่าคนคง "ลืม" ไปหมดแล้ว บางรายอาจจะกลับตัวกลับใจล้างมือในอ่างทองคำเป็นคนดี(จริงๆ)

รัก-เลิก-มือที่สาม

          เรื่องความรักของคนในวงการมันช่างน่าปวดหัว และไม่เคยเข้าใครออกใครจริงๆ คนที่ไม่ได้มาสัมผัสกับงานข่าวในวงการบันเทิงอย่างจริงจัง คงจะไม่เข้าใจว่าสมัยนี้ทำไมมีแต่ข่าวรักๆ เลิกๆ ของดาราอยู่เต็มพื้นที่สื่อ มาว่ากันด้วยเรื่องข่าวความรักดีกว่า ในยามที่ดาราคบหาดูใจกันนั้น ส่วนมากร้อยละ 99.99 เปอร์เซ็นต์ จะบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทที่สุดพร้อมทำท่าเขินอายบ้างพองาม ถ้าเป็นผู้หญิง ก็โบ้ยให้ไปถามฝ่ายโน้นเอาเอง แหม...น่ารักเชียว แต่พอตอนน้ำต้มผักไม่หวานเหมือนเก่า จะเล่าให้ใครฟัง ก็ไม่ได้ว่าเลิกกันแล้ว เพราะกลัวเสียฟอร์ม แถมเวลาสื่อจับได้ไล่ทัน กลับยอมรับเอาดื้อๆ ซะงั้น บางรายจบแบบไม่ดี แต่พอถามหาเหตุ ยิ่งปฏิเสธหลังชนฝา ที่หนักไปกว่านั้นเมื่อมีบุคคลที่ 3 ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องราวความรัก-เลิก แต่ส่วนมากแล้วไม่มีใครจะเดินออกมาบอกตรงๆ หรอกว่าตัวเองเป็นคนที่มาแทรกแซงความรักของคนอื่นหรอก...จริงมะ

ศัลยกรรม

          ความสวยความงามเป็นของคู่ควรกับเหล่าดาราแน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งยุคนี้เป็นยุคดาราหน้าใหม่แจ้งเกิดจนแทบจะล้นวงการ เรื่องเครื่องหน้าที่ไม่ต้องพูดถึงเพราะ เป๊ะ!! ทู้กคน อาจเป็นเพราะเด็กสมัยนี้ดูแลรักษาตัวเองมากขึ้น อะไรบนใบหน้า ยังมีไม่พอก็อาจจะเสริม เติม แต่ง จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา จะผ่านมากี่หมอ ก็ไม่มีใครว่าหรอก แต่ที่น่าเห็นใจคงเป็นคนที่วนเวียนอยู่ในวงการมานาน กาลเวลาต้องเปลี่ยนไป พร้อมกับใบหน้าก็เปลี่ยนตามไป (มากถึงมากที่สุด) บางคนออกมายืดอกรับแบบไม่แคร์สื่อว่าแต่งบ้าง เติมบ้าง เสริมตรงนั้นตรงนี้บอกแทบละเอียดเชียว แต่บางรายนี่สิแถบจะเปลี่ยนหน้าทู้ก...ปี พอโดนถามเข้ามากๆ ว่าไปทำอะไรมาหน้าถึงเปลี่ยนไป คำตอบที่ชอบได้รับส่วนมากจะบอกว่า ไปจัดฟัน หรือไม่ก็ลดน้ำหนักลงบ้าง อันนี้พอทำใจรับได้กับเหตุและผล แต่บางคนนี่สิบอกมาได้ว่าต่อมน้ำลายอักเสบ หน้าเลยเปลี่ยนไปบ้าง โถๆ คนอ่านจะเชื่อแบบสนิทใจมั้ยเนี่ย 

เกาเหลาชามโต

          ลิ้นกับฟันเป็นของคู่กัน มันต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่สำนวนนี้ใช้ไม่ได้กับเหล่าซุปตาร์แน่นอน เพราะบ่อยครั้งมักจะมีเรื่องราวข่าวของเหล่าดาราไม่กินเส้นกันสักเท่าไหร่ ถ้าจะให้สาธยายว่ามีกี่คู่ในวงการเห็นทีว่าจะไม่ไหว คงต้องพูดกันยาว แต่ความลับยังไงมันก็ไม่มีในโลกอยู่แล้ว เพราะบางคู่เกาเหลาเขามีวุฒิภาวะสามารถร่วมงานกันได้แบบไม่เคอะเขิน อันนั้นก็เป็นความสามารถในการแยกแยะเรื่องส่วนตัว และเรื่องงานของแต่ละบุคคลได้ แต่บางคู่นี่สิเข้าขั้นถึงตายคงไม่ไปเผาผีกันแน่นอน แถมยังหลีกเหลี่ยงการเผชิญหน้ากันอย่างชัดเจนจนเห็นได้ชัด แต่ไม่รู้ทำไมเวลาออกสื่อแล้วโดนถามจะต้องบอกว่าไม่มีอะไร เป็นเรื่องเข้าใจผิด ทู้กที แถมยังประกาศอีกว่ายินดีและพร้อมร่วมงานกันได้เสมอ แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้ว กลับไม่มองหน้ากันซะงั้น    

ภาพ-คลิป หลุด!!

          เรื่องภาพ หรือ คลิปหลุด ของดารานี่ถือเป็นของหายากในปัจจุบัน เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีบุคคลที่พลาดท่าเสียที หรือ พลาดพลั้งด้วยน้ำมือของตัวเอง ไม่บ่อยครั้งนักที่ภาพ หรือ คลิปหลุดเหล่านี้ถูกเปิดเผย แต่พอถูกเผยแพร่ออกมาก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องดีสักเท่าไหร่ เพราะบางทีภาพเหล่านั้นอาจจะคาดเคลื่อนหรือไม่ชัดเจน จนสามารถทำให้เหล่าผู้ที่ถูกกล่าวหาใช้ช่องทางปฏิเสธเรื่องนี้ไปได้ แต่บางคนนี่สิหลักฐานแจ่มแจ้งแดงแจ๋ชนิดที่ว่าดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด หนทางของการเอาชีวิตรอดในวงการก็ช่างริบหรี่เสียนี่กระไร ซึ่งหนึ่งหนทางที่ตอบคือการยอมรับทุกข้อกรณีและขอโทษสังคมอย่างนอบน้อมเพื่อยุติเรื่องราวและทุกอย่างก็จะเลื่อนหายไปตามการเวลา ส่วนกรณีที่ 2 นั้นคิดว่าคงเป็นทางออกที่ดี (หรือเปล่า ?)นั่นคือการหายไปจากวงโคจรของสื่อมวลชน ดีไม่ดีก็หาทางออกไปนอกประเทศแบบทันควัน แบบไร้ร่องรอยไปเลย จะว่าไปวิธีนี้ก็ถือว่าเป็นการยอมรับแบบกลายๆ นะ เห็นด้วยมั้ยจ๊ะ

เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.facebook.com/teeneedotcom