แฉ !! โฉ่สมชื่อ ..

เห็นภาพ เอมี่ โชติรส สุริยะวงศ์ นั่งบีบน้ำตาในจอทีวีแล้ว

เจ๊เขียว ขอบอกตรงๆ ไม่สงสารซักนิด !!
จะว่าเจ๊ใจทมิฬชาติก็ยอมล่ะ
แต่ถ้าภาพนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ถูกข่างโจมตีเรื่อง ชุดเจ้าปัญหา
เจ๊ว่า ผลลัพธ์ คงดีกว่านี้
แต่สาวเอมี่เธอพยายาม ดิ้นรน ไถแถแก้ตัว น้ำขุ่นๆ ไปวันๆ
พอข่าวโจมตีเธอเรื่อง โนบรา และ โนลิง

เธอก็ออกมาแก้ตัวว่า ที่จริงเธอใส่ ตะปิ้ง ปิดโมะเธอไว้

วันแรกเอมี่ ก็โกหกซะแล้ว แถมยังสารภาพด้วยว่า วันที่เธอใส่ชุดแล้วบอกนักข่าวไปว่า โนลิง นั้น....
เอมี่โกหกเองค่ะ เพราะเอมี่สงสารพี่ๆนักข่าว อยากให้พี่ๆมีข่าวไปเขียน
โถ นังดอก เอ้ย !
พูดเอาบุญคุณนักข่าวอีกนะว่า ถ้าคุณเธอไม่โกหกว่าไม่ใส่กางเกงลิง นักข่าวก็คงไม่มีปัญญาหาข่าวเล่น
เหมือน ตบหน้า นักข่าวอย่างแรง !!

วันต่อมาหนังสือพิมพ์ก็เปิดประเด็นเสียวอีกว่า

มีคนตาดีเห็น เส้นหะมอย โผล่พ้นร่มผ้าออกมา
เอมี่ ผู้ไม่ยอมแพ้ ก็ออกมาสรรหาคำแก้ตัวอีกครั้งว่า รับรองว่า โนพรอมแพรม เพราะเธอจัดการ แว๊กซ์ เรียบร้อย

อ้าว วันก่อนพึ่งบอกว่า มีตะปิ้งปิดโมะ มาวันนี้มาบอกอีกแล้วว่า แว๊กซ์จนเกลี้ยงเกลา

แหม ถ้าเจ๊เป็นนักข่าวไปสัมภาษณ์วันนั้นนะ

จะสะกิดเข้าห้องน้ำไป ท้าพิสูจน์ กันให้รู้ดำรู้แดงไปเลยเชียว
ถ้าเห็น หะมอย แม้ซักเส้นล่ะก็ แม่จะเอาไปแช็กเผา ป่า ซะให้โล้นเลี่ยนเตียนโล่งเลยคอยดูซิเอ้า !

ข่าวหนังสือพิมพ์ละเลงข่าวสนุก จากเรื่อง ชุดที่ใส่ จนกลายเป็นเรื่อง จิ๋ม เธอไปได้

เรื่องของเรื่องก็เพราะจากคำกระล่อนปลิ้นปล้อน

แก้ตัวเอาตัว(ไม่)รอดของเธอนั่นแหละที่ชักนำให้ ต่ำลง จนเป็นเรื่อง ใต้สะดือ ไปซะฉิบ
นักข่าวเล่นข่าววนเวียนอยู่กับ จิ๋ม เรื่อง หะมอย อยู่ 2-3 วัน จนมหาวิทยาลัยที่เธอศึกษาอยู่ทนไม่ไหวออกมาแถลงข่าวในที่สุด

แรกๆอาจารย์ก็ยังปกป้องลูกศิษย์คนดังอยู่ว่า เอมี่ ไม่ได้ทำเสื่อมเสียชื่อเสียงอะไร ดังนั้นจึงยังคงได้รับปริญญาได้ตามปกติ

อย่างมากก็คงเพียงเรียกมาตักเตือนเท่านั้น

แต่ถัดมาอีกวันเดียวท่านอาจารย์ก็คงรู้ว่า กระแสสังคม มัน ชี้ทิศไหน ซึ่งแน่ๆ มันชี้ทิศตรงกันข้ามกับอาจารย์ชัดๆ
ดังนั้นจึงมีการเรียกลูกศิษย์คนดังมาพบ ปิดห้องพูดคุยกันนานร่วม 2 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่มหาวิทยาลัย

สรุปก็คือทางมหาวิทยาลัย เห็นว่าชุดที่เอมี่ใส่ได้มีการ เซฟ แล้ว โดยด้านบนมีฟองน้ำ มีซิลิโคน และเทปกาวอีกรวม 3 ชั้น ส่วนด้านล่างก็มี ชั้นใน ที่ติดอยู่กับชุด

ดังนั้นจึงสรุปว่า ถึงจะโป๊เกินไป แต่ก็ไม่ผิด

สงสัยคงต้องให้ถึงขั้น ชีเปลือย เลยละมั้ง ?!
แต่ก็เอาเถอะ เพราะที่อาจารย์ท่านอ้างว่า การพิจารณาคดีนี้ ได้ใช้บรรทัดฐานของความเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์ จึงสมควรที่ ให้โอกาสแก้ตัว

ที่สำคัญก็คือ เอมี่ ตลอดมานั้น เข้าท่าที่สุดก็ตรงที่ กล่าวยอมรับผิด นี่แหละ
ยิ่งวันนั้นนั่งแถลงข่าวต่อหน้าสื่อ เธอบีบน้ำตา โห น่าสงสาร

แต่ขอโทษนะยะหล่อน มันช้าไปซะแล้ว !

ถ้าหล่อนกล่าวขอโทษซะตั้งแต่วันแรก ไม่ใช่ใช้วิธีหกตอแหล แหกตา นักข่าวเอาตัวรอดไปวันๆนั่นก็อาจให้อภัยได้

แต่การที่ออกมาร้องไห้สำนึกผิดอย่างนั้น เราจะเชื่อได้อย่างไรว่า ไม่ใช่เป็นการ เล่นละครตบตา เพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น

ถ้าเช่นนั้นนักข่าว รวมทั้ง สังคม ก็ถูกเธอหลอกลวงเหมือนครั้งก่อนอีกน่ะสิ!

ยิ่งดูจาก ปูมหลัง ของเธอแล้ว เจ๊ขอบอกว่าเอมี่คนนี้ ใช่ย่อย
ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแล้ว เธอได้ฉายาที่ได้จากเพื่อนๆที่ใช้เรียกชื่อว่า อีโฉ่ หมายถึงอะไรคงไม่ต้องแปล

เรื่องวีรกรรมของคุณเธอขึ้นชื่อลือชา เรียกว่าเรื่องอะไรที่จะทำให้ชั้นเด่นดังได้ล่ะก็ เธอทำได้หมดทุกอย่าง

แถมเรื่องผู้ชายยิ่งเด่นดัง เพราะจะมีรถโฉบมารับเธอถึงสถานศึกษาแบบ ไม่ซ้ำหน้า

ถึงขนาดร่ำลือกันไปต่างๆนานาว่า ยึดเป็น อาชีพ เลยทีเดียว !

ในบรรดาเรื่องแย่ๆที่เอมี่กระทำ ก็ยังมี ส่วนดี อยู่บ้าง เพราะอย่างน้อยเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็น บทเรียน ที่มีประโยชน์
ทั้งการออกมาแถลงข่าว แบนงานแสดง ของเอมี่ อย่างทันควันของเสี่ยเจียง สหมงคลฟิล์ม ก็เป็น ดาบแรก ที่ดาราทุกคนขยาด !

เพราะหากยังไม่เข็ด คิดลากชุดโป๊เปลือยมาแต่งแข่งขันกันอีกล่ะก็ คงได้เห็น ดาบสอง ตามมาแน่นอน!

อีกทั้งกำลังเป็นกระแสรุนแรงอย่างนี้

ถ้าดาราไหนก็ยังขืนกล้า หน้าด้าน อีกล่ะก็ มันคนนั้นคงถูกถล่มจมดิน ไม่ได้ผุด ไม่ได้เกิด

ขณะเดียวกัน เด็กและเยาวชน ซึ่งมองดูศิลปินดารา-นักร้องเป็น บุคคลตัวอย่าง ก็จะได้รู้จักสิ่งไหนดี และสิ่งไหนเลว

การกระทำหน้าที่ของ สื่อ ทุกวันนี้ เข้มแข็ง และ หนักหน่วง ขึ้นมาก

หากทำดีก็ยกยอซะเริ่ดเลอ

แต่ถ้าเผลอไผลไปทำชั่วล่ะก็ ตกสวรรค์ ได้ทันทีเหมือนกัน

พวกดาราหน้าด้านเจ้าประจำทั้งหลาย จะคิด ลองของ ก็เชิญ !

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

นิตยสารทีวีอินไซต์