และแล้วคากิก็มีพ่อ !!! (ฉาวในเนต)

ง่วงเหงาหาวนอนตั้งแต่เช้าไม่รู้เพราะอะไรถึงได้อยากจะนอนนัก เฮอะๆ สงสัยจะเป็นเพราะอากาศเย็นๆ ช่วงนี้ก็เป็นได้ แต่ยังไงซะหน้าที่เหนือสิ่งอื่นใดต้องรีบกุลีกุจอมาเม้าท์ให้หายคัน (อิอิ) ตามสไตล์ฉาวในเน็ตซักหน่อย

คันไม้คันมือตั้งแต่ต้นสัปดาห์ว่าจะไม่เขียนเรื่องนี้อีกแล้วน้า ก็แหมก่อนหน้านี้มหากาฬไตรภาคเรื่อง "ลูกใครหว่า" ถูกจับจองพื้นที่ข่าวมาเป็นเดือนๆ แต่เป็นเพราะอดดีใจกับ "ฑีฆายุ" หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า "คากิ" ไม่ได้ที่คราวนี้ได้ "พ่อ (บุญธรรม)" กับเขาซักที หลังจากวนเวียนอยู่กับการตรวจดีเอ็นเอตามหาพ่ออยู่นาน หวังว่าเรื่องนี้คงจบได้ซักที (หรือเปล่า 555)

ก็ต้องขอปรบมือให้กับคุณหมอใจบุญ "นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์" นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทยที่มาขอคากิเป็นลูกบุญธรรม แถมยังให้คำมั่นว่าจะส่งเสียคาเล่าเรียนให้จนจบอีก งานนี้เหล่าชาวไซเบอร์มือเลยเป็นระวิงเม้าท์กันใหญ่ว่า

"สังเกตตั้งแต่เกิดมาคากิทำให้คนรวยไปแล้วหลายคนเช่น แอนนี่จากตกงานตอนนี้รับงานไม่ไหว สรยุทธ วิทวัส รวยเละ เรตติ้งรายการพุ่งโฆษณาไหลมา , บอกได้คำเดียวว่าสงสารคากิมาก , สงสารแอนนี่เมื่อไหร่จะจบดังใหญ่แล้ว , คุณหมอจิตใจดีน่าเอาเป็นแบบอย่าง , ดีใจอย่างที่สุดที่คากิมีพ่อหมอและภรรยาที่แสนประเสริฐมาอุปการะ , ดังอีกแล้ว, เกาะกระแสดังเหรอค่ะคุณหมอ เด็กน่ารักน่าสงสารแต่ไม่น่าเวทนา, ถ้าไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อและไม่มีปัญญาเลี้ยงก็ยกให้เขาไปเถอะ, คากิโชคดีจริงน้า"

รู้แล้วก็น้ำตาจะไหลเพราะเราก็รักเด็กเหมือนๆ กัน นี่ถ้าไอ้คนที่เป็นพ่อยังไม่รู้สำนึกแล้วออกมารับก็น่าอายจริงๆ เมื่อสังคมไทยยังมีคนดีๆ ก็ถือเป็นโชคดีของเด็กที่เกิดมาแล้วมีคนรักคนเอ็นดู พวกที่รักสนุกดูเอาไว้เถอะ ถ้าไม่พร้อมก็อย่าริมี

มันจะกลายเป็นปัญหาสังคมที่ไม่มีที่สิ้นสุด...