นางเอกไฮโซ กับ รองมิสทีนฯ

เห็นว่า รองมิสทีนไทยแลนด์ 2007 ที่ชื่อ “นิกกี้” พานทอง เข็มทอง ขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็รู้สึกสมเพชค่ะ

อายุเพิ่งจะชึ้นเลข 2 แท้ๆ แต่อนาคตต้องมาดับวูบอย่างที่ไม่มีวันกู้กลับคืนมาได้ ก่อนจะเกิดคดีนี้ ต้องย้อนไปเมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ตามจับตัว นายฉัตรชัย นพพลกรัง เอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ได้ที่โรงหนังย่านถนนแจ้งวัฒนะก่อนจะพาไปค้นที่บ้านได้หลักฐานเพิ่มเติมมากมายรวมทั้งอาวุธปืนซึ่งซื้อต่อมาจากเพื่อนในวงการค้ายาบ้าด้วยกัน

ซึ่งงานนี้นายฉัตรชัย มีสิทธิติดคุกหัวโต่แน่นอน!

     คดีนี้ที่จริงมันก็น่าจะลงเอยแต่เพียงตรงนี้ ถ้านายฉัตรชัย ดันไม่เอ่ยปากเสนอเงินให้แก่เจ้าหน้าที่สอบสวนจำนวน 3 แสนบาท เพื่อแลกกับอิสระภาพ แทนที่จะดีใจกับเงินตรงหน้า เจ้าพนักงานสอบสวนกลับจับกุมหญิงสาวหน้าตาดีที่กำเงินมาให้ พร้อมแจ้งข้อหา “ติดสอนบนเจ้าพนักงาน”สาววัยรุ่นคนนั้นกับ นายฉัตรชัย ถึงกับตกใจหน้าถอดสี เพราะเพิ่งจะรู้ตัวว่าถูก “ซ้อนแผนจับกุม” ซะแล้ว

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหญิงสาววัยรุ่นกน้าตาดีผู้ต้องหารายนี้จึงรู้ว่าเธอชื่อ น.ส.พานทอง เข็มทอง หรือชื่อเล่นว่า “นิกกี้”

มีดีกรีเป็นถึง “รองอันดับ 1 มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2007”มิน่าล่ะเธอจึงได้หน้าตาสละสวยนักจากแค่ผู้ต้องหาคดียาบ้าธรรมดาๆ เลยกลายเป็นข่าวใหญ่โต เมื่อมีแฟนสาวเป็นถึง “รองมิสทีนฯ” มาติดสินบนเจ้าพนักงาน จากคดีดังกล่าวต้องขอแสดงความชื่นชมตำรวจ สน.ดอนเมือง อย่างมากเพราะเรื่อง “ติดสินบนเจ้าพนักงาน” ถ้าพูดตามตรงก็เหมือนเรื่อง “ตามน้ำ” ที่เจ้าหน้าที่หลายต่อหลายนายเค้าทำกันต้องยอมรับภาพพจน์ของตำรวจที่ผ่านมาไม่ค่อยจะดีนัก เพราะมีการคอรัปชั่นตั้งแต่เรื่องเลกๆอย่าง คดีจราจรที่คนขับขี่รถบรรทุก รถจักรยานยนต์ รถแท็กซี่ โดนไถเงินเป็นเรื่องปกติหรือในคดีอาญาทั่วไปใครให้ “ใต้โต๊ะ” ก็เป็นฝ่ายถูก ก็มีให้เห็นบ่อย

ปลาเน่าไม่กี่ตัว แต่ทำมให้ปลาทั้งบ่อพลอยเหม็นไปด้วยอย่างกรณีของ นายฉัตรชัย ที่ติดสินบนจำนวน 3 แสนบาท ซึ่งก็เรียกว่าไม่น้อยเลยทีเดียวซึ่งหากคุณตำรวจจะแอบรับใต้โต๊ะเงียบๆ ก็คงไม่มีใครรู้เพราะต่างก็วินวินด้วยกันทั้งสองฝ่าย ไทม่มีใครออกมาโวยวายแน่นอนแต่คุณตำรวจตงฉินท่านนี้ก็ทำให้คนทั่วไปได้รู้ว่า “เงินซื้อเกียรติ ไม่ได้”
ถึงแม้ตำรวจเลวจะมี แต่ “เจ๊เขียว” มีอีก 1 คดีที่ไม่ลงเอยอย่างคดีนี้

ก็อย่างที่บอกน่ะแหละ “ตำรวจดีมีเยอะ” แต่ “ตำรวจเลวก็มีมาก”

เรื่องที่เจ๊จะแฉ ณ บัดเดี๋ยวนี้มีลักษณะคล้ายๆ กันนี่แหละ เกิดขึ้นเมื่อราว 2 ปีก่อน โดยฝ่ายหญิงเป็นนางเอกนางแบบที่ก้าวมาจากสังคมไฮโซ ชื่อเล่นเธอเหมือน “ขนม”

ขณะที่ผู้ชายแฟนของเธอก็อยู่ในสังคมไฮโซเหมือนเหมือนกัน เอ่ยมาเป็นที่รู้จักเลย เพราะก็เคยเป็นข่าวตามหน้าบันเทิง และหน้าสังคมบ่อยๆ เอาเป็นว่าขอเรียกชื่อแทนตัวว่า “ตี๋น้อย” ก็ละกันนางเอกสาวชื่อเหมือน “ขนม” คนนี้ มีใบหน้าไม่สวย แต่เก๋ ก้าวเข้าวงการนางแบบก่อนจะได้มาเล่นหนังเล่นละคร

เธอคั่วกับแฟนหนุ่ม “ตี๋น้อย” คนนี้มาหลายปีแล้ว แต่พวกเค้าทั้งสองก็ไม่แยแสกับควาสัมพันธ์ดังกล่าวนัก เพราะก็ยังหาเวลาเผลอของแฟน แอบไปล่อกับคนอื่นบ่อยๆไป 2 หนุ่มสาวคู่นี้เป็นนักเที่วตัวยง ตกกลางคืนไปหาตัวได้ตามผับบาร์ย่านพวกไฮโซไปแฮงค์เอาท์

นอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทั่วไปแล้วหนุ่มสาวคู่นี้ยังอัพเกรดไป “อัพยา” กันอีกด้วย

เรื่อง “อัพยา” ไม่ใช่ว่าเพิ่งเสพ แต่เขาปละหล่อนอัพตั้งแต่สมัยเรียนเมืองนอกเมืองนาโน่นแล้วเมื่อกลับมาเมืองไทยก็ยังเสพอยู่ตลอด ไม่มีใครคอยห้ามใคร เพราะต่างก็เป็นทาสยาฯ ด้วยกันทั้งคู่ ปกติหนุ่มสาวคู่นี้อัพกันที่บ้านตัวเองประจำอยู่แล้ว แต่เมื่อออกมาเที่ยวก็หาเสพได้ไม่ยาก เพราะเดี๋ยวนี้ตามผับบาร์หรูหราของไฮโซทั่วไป ก็หาเสพหาซื้อได้ไม่ยาก

หรือถ้าหากไม่อยากซื้อในสถานบันเทิงไฮโซเหล่านั้น พวกขี้ยาทั้งหลายก็จะรู้ว่าหาซื้อได้ที่ไหนในยามอยากขึ้นมาซึ่งในคืนนั้น “ไอ้ตี๋น้อย” หนุ่มไฮโซเกิดเปรี้ยวปากอยากขึ้นมา ก็โทรสั่งเอเย่นต์ประจำให้มาส่งสินค้า จังหวะดีที่คืนนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเจ้าของพื้นที่ก็ไปซุ่มโป่งรอจับกุมไอ้พวกขายยากับขี้ยาอยู่พอดี เมื่อ “ตี๋น้อย” ขับรถไปยังปั๊มน้ำมันที่อยู่ไม่ไกลนัก อันเป็นสถานที่ประจำสำหรับนัดซื้อขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทั้งสองคนทันที

สำหรับไอ้คนขายยามันเป็นแค่ตัวกิ๊กก๊อกไม่มีอะไร แต่ฝ่ายคนซื้อซึ่งเป็น “ไอ้ตี๋น้อย” นี่สิ “โคตรเป้ง” เลย

ไม่เพียงตัวมันเองที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเท่านั้น ชาติตระกูลของมันยิ่งโด่งดังในสังคมซึ่งถ้าหากถูกจับไปโรงพัก แล้วมีนักข่าวมาทำข่าวล่ะก็นอกจากมันต้องติดคุกแล้ว มันยังทำให้ “วงศ์ตระกูลฉิบหายป่นปี้ไม่เหลือ”  ซึ่งมันยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ไม่ได้ ก่อนที่ตำรวจจะจับมันไปโรงพัก มันก็ได้ยื่นข้อเสนอกับตำรวจ 2 นายที่จับกุมว่าจะให้เงินจำนวน 1 แสนบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวซึ่งการเจรจาต้าอ่วยเป็นไปได้ด้วยดี โดยตำรวจยอมรับ “สินบน” จากนั้น “ตี๋น้อย” ก็โทรศัพท์ไปยังแฟนสาวที่กำลังรอยาฯอยู่ที่ผับให้เอาเงินมาให้ 1 แสนมาให้ตำรวจเพื่อไถ่ตัว

ซึ่งนางเอกชื่อเหมือน “ขนม” ก็ขอยืมเงินเพื่อนนักเที่ยวด้วยกันนี่แหละเอามาแลกอิรสะภาพของแฟนหนุ่มไป เรื่องนี้เป็นคดี “ติดสินบนเจ้าพนักงาน” เหมือนกัน แต่ผลที่ออกมรต่างกันคดีแรกตำรวจซ้อนแผนจับกุมเลยถูกตีแผ่ว่า “รองมิสทีนฯ” เล่นเอาชื่อเสียงหมดอนาคต!ส่วนคดีหลังนี้ตำรวจรับสินบนไป เรื่องเลยถูกเป่า ไม่มีข่าวไม่มีประวัติ 2 หนุ่มสาวคู่นี้จึงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมไฮโซได้ทุกวันนี้

แต่หากอยากรู้นักหนาว่าเป็นใครเจ๊บอกตรงๆ ไม่ได้ เอาเป็นว่าลองตีความกันเอาเองละกันนะ