คู่รักดาราดัง ปิ๊งรักกลางกองถ่าย จากเด็กเอ็กตร้า สู่คู่ชีวิตในวันนี้

เริ่มต้นความรักตอนนั้นเจอกันที่กองถ่าย?

พี่หนุ่ม : ตอนนั้นถ่ายละคร ตาลเขามาเป็นเอ็กตร้า แต่งชุดนักศึกษามา

ชอบเขาตรงไหน แสดงว่าเขาต้องมีความต่างจากคนอื่น?

พี่หนุ่ม : แรกๆ เออ..เขาเป็นคนขาวๆ หน่อย ดูสูงๆ ก็เจอตามนิสัยเราตอนนั้น เห็นแล้วชอบๆ ไป หยอดๆ ไปเด็กๆ

เขาหยอดเรายังไง?

พี่ตาล : เขาให้คนมาหยอด เขาไม่ได้หยอดเอง ให้มาขอเบอร์

พี่หนุ่ม : แต่ก่อนมีสมุนไม่ทำงานเอง

พี่ตาล : เขาถามว่ามีเบอร์ไหม เผื่อมีงานจะได้ติดต่อไป เราก็ไม่ได้คิดอะไรคนในกองถ่าย ก็ให้ไป แต่หลังๆ แกโทรมา

พี่ตาล : เห้ย...พระเอกโทรมา แต่เรารู้กิตติศัพท์เขาว่าเป็นยังไง เขาโทรมาแล้วเราก็คุยเพื่อไม่ให้เขาเสียใจ ก็คิดว่าคุยไปเรื่อยๆ ก่อนดูว่ายังไง

เป็นคนดี รักเดียวใจเดียว?

พี่ตาล : ไม่นะ ตอนนั้นไม่

แต่หลังจากนั้นไม่ได้เจอกัน แต่บังเอิญมีพรหมลิขิตทำให้ได้เจอกันแบบบังเอิญ?

พี่หนุ่ม : บ้านเก่าที่อยู่ซอย11 ลูกของข้างบ้านเป็นแฟนกับเพื่อนสนิทตาล เขาก็มาหาเพื่อนเขาบ้าง พอได้จังหวะ ไปเที่ยวกันไหม ไปดูหนังกัน

พระเอกมาจีบ กิตติศัพท์ไม่ธรรมดา อะไรที่ทำให้พี่ตาลเปิดใจไปกินข้าว ดูหนัง?

พี่ตาล : พี่หนุ่มเขาเป็นคนเอาใจใส่ พยายามเข้ามาหาเรา มาคุย แสดงความมีน้ำใจหลายๆ อย่าง บางทีเวลามีปัญหาแกก็คอยเป็นที่ปรึกษา

พี่หนุ่ม หยุดความเจ้าชู้ตัวเองได้ตอนไหน?

พี่หนุ่ม : จริงๆ น่าจะคล้ายๆ พระเอกทุกคน สมัยนึง หล่อเลือกได้ ใครอยากเข้ามาคุย เราก็เอ่อ..โดยส่วนตัวการใช้ชีวิตพี่ พี่คิดว่าถ้าไม่ได้แต่งงานพี่เต็มที่เลยนะ

พี่หนุ่ม : 4-5 คน

เห็นบอกว่ารถไฟเคยชนกันด้วย?

พี่หนุ่ม : ใช่ ที่ผับแห่งนึง ชนกัน 2 ขบวน แต่เป็นขบวนใหญ่ ก็เลยหนีกลับบ้านเลย

ทำไมพี่มาหยุดที่พี่ตาล?

พี่หนุ่ม : พี่แฟนมาหลายคน รู้จักคนมาก็เยอะ เราได้เห็นอะไรหลายอย่าง คือ1. เขาเป็นคนค่อนข้างมั่นคง ไม่แบรนด์เนม เขาเป็นคนตรงๆ เหมือนผู้ชายหน่อย ไม่วอกแวก ตรวจดูแล้วบ้านช่องเขาก็โอเค แล้วก็การเรียนเขา เป็นเด็กดี

แล้วพี่ตาลมั่นใจได้ยังไงว่าเขาหยุดแล้ว พระเอกคนเข้าหาเยอะ?

พี่ตาล : เวลา 6 ปีนั่นแหละค่ะ มันจะพิสูจน์เอง

คบกันแต่ผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วย คุณพ่อพี่ตาลไม่ชอบพี่หนุ่ม?

พี่ตาล : พ่อไม่ชอบคนในวงการ พ่อไม่ชอบดารา สมัยก่อนผู้ใหญ่จะไม่ค่อยชอบคนทำงานอย่างนี้ เขากลัวมาหลอกเรา แล้วชื่อเสียงเขาด้วย

เห็นว่ามันมีเหตุการณ์ที่หนักสำหรับพี่หนุ่มด้วย?

พี่หนุ่ม : ตกลงแต่งงานกันเรียบร้อย เดี๋ยวจะให้พ่อกับแม่ไปขอ พอวันไปขอ พ่อตาเขาไม่คิดว่าจะมาจริง เขาก็ยังงงๆ ไม่ยอมลง

พี่ตาล : ให้รอชั่วโมงนึง ไม่มารับด้วย ให้นั่งรอ พ่อก็เดินออกไปข้างนอกแล้วก็หายไปเลย คือไม่คุย เขาไม่อยาก ไม่ยอมไง

พี่หนุ่ม : คือจะบอกว่ายังไงดี ไปถึงบ้านแล้ว พี่ก็เอาวะ ไปคุย แกก็นิ่งๆ ไม่ตอบ คือลักษณะแบบนั้นแสดงว่ายอมรับไม่สามารถหาอะไรมาโต้งแย้งได้

พี่ตาล : พี่เป็นลูกรักไง จะหวงมาก

พี่ตาล : เจอค่ะ แต่ไม่บ่อยมาก เจอกันเรื่อยๆ ว่างก็นัดกินข้าวกัน

พอไปขอแต่งงาน เขาเงียบ เราก็มัดมือชกเลย?

พี่หนุ่ม : แสดงว่าโอเคไง ถ้าไม่ได้ก็บอกมาดิว่าไม่ได้ อันนี้ไม่บอก เงียบๆ แสดงว่าโอเค

แล้วก็แต่งงานกัน?

พี่หนุ่ม : พอแต่งงานพี่ก็ปลดทุกอย่าง ทุกคนก็ไม่เชื่อ มึงจะได้เหรอ ดูถูก รถที่ส่อว่าจะเป็นจิ้งจอกสังคม แต่ก่อนพี่มีรถสปอร์ตสีแดง ขาย มันเป็นแฟมิลี่แมนแล้ว ห้ามขับรถสปอร์ต เสียดาย แล้วหายากด้วยรุ่นนั้น แล้วเลิกสูบบุหรี่ ตอนนั้นพูดไปเรื่อยแล้วแอบสูบ เขาจับได้ แต่มาเลิกได้จริงๆ ตอนมีลูกคนแรก เพราะว่า เขาไม่ยอมให้อุ้ม เขากลัวเดี๋ยวนิโคตินซึมเข้าไปในตัวเด็ก จะอุ้มทีนึงล้างมือจนเหี่ยว งั้นเลิก

อายุห่าง 10 ปีไม่ได้มีผลกับพวกพี่?

พี่ตาล : ใช่

พี่หนุ่ม : เขาจะเป็นคนเปิด มองอะไรที่ไม่ได้ดข้าข้างตัวเอง แรกๆ ก็มีปัญหาเหมือนกัน เพราะว่าด้วยวัยที่ห่างกันมาก มันจะมีเรื่องนู้น เรื่องนี้ ความไม่แน่ใจ เพราะเราเป็นพระเอกมาก่อน โชกโชนในวงการ เขาก็ไม่เชื่อว่าจะทำได้จริงเหรอ ผมเลิกหมดเลยนะผับอะไรไม่เหยียบ 30 กว่าปีแล้ว ตอนนี้ไปไม่เป็นแล้วด้วย เขาเที่ยวที่ไหนกัน

หัวข้อแนะนำ