“แอน จักรพงษ์” เชือดกลับ 10 ข้อ ลือปิดข่าวลูกน้องติดโควิด
#FaceBookThailand Warning! อนุมัติถึงสื่อต่างชาติทั่วโลก! #ร่วมกับ Twitter กระจายข่าวด้วย! ดีเจ กีร์ ลูกจ้าง สถานี JKN18 #ของกะเทยสลิ่มตัวแม่! แอน จักรพงศ์ ติดเชื้อโควิดขณะไปทำงานที่ JKN18 ถึงสองวัน #แต่ทำไม กะเทยสลิ่มแอน ไม่ออกมาแถลงข่าวรับผิดชอบคะ #ปิดข่าวเงียบเลย แบบนี้รับผิดชอบต่อสังคมหรือป่าวคะ คุนกะเทยแอนนังสลิ่ม!!!! #ส่วนกะเทยแอนก็ไม่ยอมกักตัวด้วย ไปลัลล้าอยู่หัวหิน #FaceBook ขอขึ้น Blacklist เพจคุณนะคะ! อ้อ #ถ้ารวยนักก็เชิญใสหัวออกไปจากเฟซบุ๊ก"
1.) แอน จักรพงษ์ สะกดแบบนี้ให้ถูกก่อนนะคะ
2.) เราไม่เคยรู้จักกัน เหตุไฉนถึงเรียกคนที่คุณไม่เคยเจอส่วนตัวเลยด้วยซ้ำว่า อีกะเทยบัวใต้น้ำ... ซึ่งถ้าดูจากโปรไฟล์คุณแล้ว ถ้าเป็นผู้ชายจริง ก็ควรต้องมีมารยาท สุภาพบุรุษไม่เรียกผู้หญิงหรือสตรีข้ามเพศว่า อี หรือแทนตัวพวกเขาว่ากะเทย เพราะมันส่อสันดานความหยาบช้าค่ะ ถ้าคุณเข้าใจคำว่า บัวใต้น้ำ จริง...สิ่งที่คุณทำอยู่มันคือการเป็นคนประเภท บัวใต้ดิน ซึ่งหมายถึงความต่ำสุดในพื้นปฐพีค่ะ
3.) ใครปล่อยลูกน้องเป็นโควิดค่ะ? ใครเค้าอยากจะเป็นกัน?! เอาข้อมูลมาจากไหน?! มโนเอง สรุปเองอีกแล้ว! หาเรื่องใส่ร้ายป้ายสี (Smear Campaign) ไปเรื่อยมีความสุขหรือคะ? มีแต่เขาตรวจพบ แล้วก็รีบให้พักงานเพราะด้วยความไม่ระวังของเจ้าตัวที่อาจติดจากสมาชิกคนในบ้าน พอเรารู้ก็ให้ทุกคนทั้งบริษัทไปตรวจทันทีและกักตัวคนที่มีความเสี่ยงใกล้คนๆ นั้นเป็นเวลา 14 วัน นอกเหนือจากนี้ทางบริษัทก็ยังจ่ายค่าวัคซีนให้พนักงานทุกคนซึ่งตอนนี้ทุกคนก็ได้คนละ 1-2 เข็มแล้วตามลำดับที่ได้จองไปเรียบร้อย...คุณอ่านข่าวแค่ไม่กี่บรรทัดว่ามีพิธีกรคนนึงติดหลังจากนั้นคุณก็เต้าข่าวให้ใหญ่โตเกินจริงเพื่อจ้องทำลายชีวิตคนอื่น (Cancel Culture)...ไวรัสที่น่ากลัวกว่าโควิดก็คือไวรัสที่ ‘เห็นใครดีกว่าตนไม่ได้' ...ไวรัสแห่งความริษยา...ไวรัสของจิตที่ป่วยในตัวคุณต่างหาก (มีต่อหน้า 2 กับการโพสต์ถัดไป)
5) ไม่เคยปิดคอมเม้นต์ในเพจตัวเองค่ะและแถมยังตอบเองด้วยอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ ดิฉันเป็นคนกล้าเผชิญหน้าค่ะ ไม่ต้องห่วง แล้วตอนนี้ก็อยากเจอคุณมากด้วย
7) บอกให้ดิฉันหยุดใช้ Facebook ของดิฉันที่มีคนตามกว่า 12 ล้านคนทำไม?ไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกัน?! มีเหตุผลอะไร?! อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีอะไรเกี่ยวเนื่อง... แบบนี้ได้ด้วยหรือ?! ถ้าอยากจะหยุดดิฉันจริงๆก็ไปคุยกับ Mark Zuckerberg แล้วกันค่ะ
8 ) บอกดิฉันไปเที่ยวสนุกที่หัวหิน??!! แล้วมันหนักอะไรในหัวคุณหรือคะ? ที่ดิฉันไปเที่ยวกับสามีและลูก....ก็ไม่เข้าใจอีกเหมือนกันในเมื่อเราก็ไม่มีโควิด...ไม่งั้นรีสอร์ทก็คงไม่เปิดรับหากไม่มีผลตรวจ... แล้วใครจะเอาลูกไปเสี่ยงเที่ยวหากไม่ปลอดภัย?! บอกแล้วว่าไวรัสโควิดไม่น่ากลัวเท่ากับไวรัสริษยาของตัวคุณ
10) มีสติยังไม่พอ ยุคปัจจุบันต้องมีสตางค์เตรียมไว้ด้วย ก่อนที่จะโจมตีผู้อื่นทางวาจา อย่าได้แต่อ้างว่านี่คือสังคมประชาธิปไตย เพราะสำหรับคุณมันคือ อัตตาธิปไตย... มันคือข้ออ้างสำหรับคนหยาบช้าจอมปลอม (Crooks) ที่ต้องการจะหาผลประโยชน์จากคนลำบากของสังคมให้เชื่อคุณในช่วงตกต่ำของการเมือง และชอบใช้จังหวะที่มีช่องว่างของคนจนและคนรวย ในการสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นมากที่สุด กับคนที่คุณอยากจะโจมตี...พอเถอะค่ะ!!! การตลาดแบบนี้มันคือการตอกฝาโลงตัวเอง...ในที่สุดทุกคนมองออกว่าอะไรคืออะไร...อยู่กันด้วยเหตุผล...ใช้ชีวิตแบบปัญญาชนเพื่อลูกหลานของเรานะคะ #แอนจักรพงษ์
https://www.facebook.com/teeneedotcom