เม้าท์แซ่บ! อดีตนักแสดงซีรีส์ Y แต่งเรื่องโกงคนรู้จัก ทำเสียหาย 7 หลัก
อยู่ดีๆก็เกิดเรื่องเม้าท์มอยในวงการซีรีส์ Y เมื่อผู้ใช้งานเฟซบุ๊ค ออกมาโพสต์เรื่องราว อดีตนักแสดงวัยรุ่นซีรีย์ Y ชื่อเล่นตัวย่อ อ แต่งเรื่องฉ้อโกงคนรู้จักมากกว่า 10 คน มูลค่าความเสียหาย 7 หลัก โดยระบุว่า
หลังจากนั้นนาย อ ได้เล่าเรื่องหนี้สินเงินกู้นอกระบบว่าโดนทำร้ายและได้ส่งแชทที่คุยกับเจ้าหนี้นอกระบบ ทำให้ผมเห็นใจและหลงเชื่อจึงได้ให้ยืมเงินไป หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้มาพูดเพื่อให้ผมสงสารอีกว่า นาย อ พ่อเป็นคนอิสราเอล แม่เป็นคนไทย แต่โตมากับบ้านบุญธรรม และเหมือนดวงไม่ดีมากๆที่ครอบครัวบ้านบุญธรรมเริ่มไม่ไว้ใจเพราะมีเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบตามไปทวงถึงบ้าน และรถที่เป็นชื่อพ่อบุญธรรมนาย อ ได้นำไปจำนำและพ่อบุญธรรมกำลังจะแจ้งความ จึงกำลังจะโดนไล่ออกจากบ้าน ผมสงสารและคิดว่าเป็นความจริงเพราะนาย อ ถ่ายรูปมาให้ดูตลอดทุกเหตุการณ์ที่เล่า นาย อ จึงขอเงินค่าไถ่จำนำรถ และบอกว่าคุยกับพ่อบุญธรรมแล้ว จะโอนรถมาเป็นชื่อผมเพื่อความสบายใจแต่ต้องรอประมาณ 2 เดือนให้สัญญากู้จากธนาคารครบ 1 ปีก่อน ถึงจะโอนชื่อผู้กู้ธนาคารได้ และนาย อ ก็บอกว่า พ่อบุญธรรมขอเงินค่าดาวน์รถที่ตนได้จ่ายไป รวมทั้งเงินส่วนต่างค่าผ่อนรถที่พ่อบุญธรรมออกให้นาย อ ด้วย และด้วยความสงสารที่นาย อ จะไม่มีบ้านอยู่และครอบครัวโดนตัดขาด ทำให้ผมสงสารและออกปากบอกว่า มาเป็นน้องชายผมเลยก็ได้ มาอยู่คอนโดกับพี่ ซึ่งนาย อ ก็ขอบคุณและดีใจมากที่ได้มาเจอผม ทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้น
โดยผมยืนยันเลยว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลยมากไปกว่า เพื่อนพี่น้องที่อยากช่วยเหลือให้ชีวิตเค้าดีขึ้นแต่อย่างใด
หลังจากนั้นไม่นาน นาย อ ได้ส่งเงินในบัญชีธนาคารในมือถือจากการเริ่มขายของมาให้ผมดูว่า ได้บังเอิญเจอเพื่อนสมัยเรียนใน facebook และเพื่อนดูมีฐานะ จึงได้ไปสอบถามเพื่อนและเพื่อนชวนทำธุรกิจด้วย คือ การขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเพื่อนคิดว่า นาย อ สามารถหาลูกค้าได้เยอะเนื่องจากโปรไฟล์เคยเป็นอดีตนักแสดงวัยรุ่นซีรีย์ Y และนาย อ อ้างว่าไปโพสขายบุหรี่ไฟฟ้าในเว็บ siampods มา และได้ลูกค้ามา จึงขอเงินที่ได้จากผมไปหมุนก่อนเพราะจะได้นำกำไรที่ได้มาใช้หนี้คืนผม แต่ผมก็ย้ำนาย อ ไปแล้วว่า บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ไม่อยากให้ทำ นาย อ จึงบอกว่า งั้นขอทำจนกว่าจะหาเงินกำไรมาคืนหนี้กับผมได้หมด ทำให้นาย อ ก็อ้างว่า ขายบุหรี่ไฟฟ้าเรื่อยมา และโอนเงินคืนผมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งนาย อ บอกว่า เงินลูกค้าอยู่ในบัญชีกสิกรของตนโดนอายัติเนื่องจากตนเคยพลาดมีลูกเมื่อ 4 ปีที่แล้วและฝ่ายหญิงฟ้องศาลขอค่าเลี้ยงดูบุตรโดยผ่อนชำระเดือนละ 8,000 บาท จนกว่าจะครบ 1 ล้านบาท
เมื่อมีเงินในบัญชีธนาคารหมุนเยอะทำให้บัญชีโดนอายัติ ต้องไปปลดอายัติที่สาขา big C ราชบุรี และได้บอกข้าพเจ้าว่า เจ้าหน้าที่แบงค์ให้โอนเงินเข้าไปในบัญชีธนาคารเพื่อวางประกันศาล 1 แสนบาท และธนาคารจะโอนเงินออกจากบัญชีคืนมาให้ 4 แสนบาทที่โดนอายัติไว้ ซึ่งผมได้โทรไปเช็คกับทางธนาคารกสิกรสาขา big C ราชบุรี พบว่า บัญชีนาย อ โดนอายัติจริง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเพราะเรื่องอะไร ทำให้ผมเข้าใจว่า นาย อ พูดความจริง โดยผมได้โอนเงินใส่บัญชีนาย อ ตามที่อ้างว่าเป็นเงินประกันศาล 80,000 บาท และนาย อ อ้างว่ายืมเพื่อนมาอีก 20,000 บาท และหลังจากนั้น วันที่ 5 กพ 2564 นาย อ โทรมาหาผมตอนดึกว่า โดนตำรวจจับจากการขนส่งบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมของกลางและเงินสด และถ่ายรูปจากสถานีตำรวจและเข้าห้องสอบสวนกับพนักงาน 2 คน ทำให้ผมหลงเชื่อและขอเงินประกันตัวจากผม และต้องไปขึ้นศาลเลยในวันที่ 8 กพ 2564 ที่ศาลแขวงราชบุรี ซึ่งเช้าวันที่ 8 กพ 2564 นาย อ ก็ถ่ายรูปมาให้ผมดูว่าอยู่หน้าศาลแขวงราชบุรี และขอตัวเข้าไปคุยกับอัยการก่อน
ผมรู้ตัวว่า โดนหลอกรอบที่ 2 คือ เมื่อคืนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 นาย อ บอกผมว่า ฟิตเนสรู้เรื่องของนาย อ แล้ว จะพาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจตลิ่งชัน และฟิตเนสได้ขอเงินจากนาย อ 150,000 บาท เพื่อฝากไว้กับนาย บ เจ้าหน้าที่ฝ่าย หัวหน้าสาขาที่ฟิตเนส และจะนำไปโอนเงินคืนให้ผมโดยได้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจตลิ่งชัน และนาย อ ยังบอกอีกว่า โดน นาย น เพื่อนที่ทำงานฟิตเนส แจ้งความที่กล่าวหาว่า ทำธุรกิจขายบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายกับนาย อ ทั้งที่นาย น ไม่ได้ทำจริง จึงโดนค่าปรับอีก 20,000 บาท ซึ่งหลังจากที่นาย อ ส่งหนังสือลงบันทึกประจำวันให้ผมดู จึงโทรไปสอบถามสถานีตำรวจตลิ่งชัน ได้ความว่า นาย อ ไปลงบันทึกประจำวันเพียงแค่คนเดียว และไม่ได้โดนแจ้งความจ่ายค่าปรับแต่อย่างใด
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 นาย อ ขอเงินจากผมไปทั้งหมด 54,000 บาท โดยอ้างว่า จะเอาเงินไปทำการปิดระบบเว็บพนันออนไลน์ เพื่อที่จะเอาเงินต้นทุนและผลกำไรที่ได้กลับมาคืนผมในช่วงวันที่ 7-10 มีนาคม 2564 โดยเงิน 20,000 บาท จะได้คืนเลยในเย็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 และนาย อ จะมา สน.ลุมพินี เพื่อเซ็นต์รับทราบข้อกล่าวหากับผม แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มา
ผมได้สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมและได้หลักฐานที่ทำให้รู้ว่า นาย อ ได้โอนเงินไปให้เว็บพนันออนไลน์ 2 เว็บ เป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายทั้งหมด รวมกันเท่าที่ทราบจาก 8 คน ประมาณเกือบ 5 ล้านบาท บุคคลนี้เป็นผู้ที่โกหกปลอมหลักฐานแต่งเรื่องได้แนบเนียน ผมออกมาโพสเพราะคิดว่า ถ้าปล่อยบุคคลนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากความไม่สำนึกในผิดชอบชั่วดีและไม่มีสามัญสำนึกในความเป็นคน
ผมขอยืนยันว่า เรื่องที่เขียนนี้เป็นความจริงทั้งหมด หากใครคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม รบกวนช่วยแชร์โพสนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะให้นาย อ ได้รับโทษตามกฎหมายและไม่สามารถไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นได้อีกต่อไป
https://www.facebook.com/teeneedotcom