“เล็ก-ไอศูรย์” แก้ผ้า “ล้างหนี้” ติดตราบาป ภาพนู้ดในตำนาน

กลายเป็นภาพติดตัวจนถึงทุกวันนี้สำหรับ (อดีต)พระเอกเบอร์หนึ่งของวงการ “เล็ก-ไอศูรย์ วาทยานนท์” ที่ครั้งหนึ่งจำเป็นต้องสลัดผ่าถ่ายหวิวเพื่อ “ล้างหนี้” จนกลายเป็น “นู้ดในตำนาน” แต่เจ้าตัวกลับไร้ความภูมิใจ บอกเลือกได้จะไม่ทำ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ “เล็กไอศูรย์” พร้อมเปิดใจในรายการ “จุดเดือด”  ทาง “ช่อง 2” บันเทิง มาเต็ม (หมายเลข 38) โดยพิธีกรคู่เดือด “อุ๊บ-วิริยะ พงษ์อาจหาญ” และ “โก้-ธีรศักดิ์ พันธุจริยา” ร่วมด้วย “ฝัน-ครุสุดา วันมา” ทำหน้าที่พิธีกร 

        “พี่ก็ยังงงอยู่ว่ามันมายังไง น่าจะเกี่ยวกับน้องๆ พระเอกใหม่ๆ มากกว่า ถามว่าภาพกี่ปีแล้ว 20 กว่า ปี 25 ปีแล้ว” 

        “จริงๆ แล้วไม่อยากให้มันฟื้นเลย(หัวเราะ) จริงๆ มันก็เป็นผลงานหนึ่งที่เราไม่ค่อยภูมิใจในชีวิตศิลปิน เห็นไหมพอพูดปั๊บเหงื่อจะตกเลย  คือ ไม่ค่อยชอบ บอกตรงๆ แต่ว่ามันทำไปแล้วเราก็ยอมรับความเป็นจริง”

 

        “ตอนนั่นน่าจะประมาณ 30-31 คนที่ถ่ายก็เป็นเพื่อนกัน ปกติคนที่ถ่าย(ช่างภาพ)ไม่ได้ถ่ายผู้ชายด้วยนะ เป็นคนที่ถ่ายนางแบบผู้หญิง บี๋ ธีรพงศ์ ครับ เพื่อนกัน”

 

        “ตอนถ่ายทำไม่เขินเพราะถ่ายกับเพื่อน ตอนภาพออกมาก็ยังเหงื่อตกอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ผ่านมา 25 ปี ก็ยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับ คือ คนมันไม่ชอบ ไม่อยากถ่ายด้วยซ้ำ แต่มันจะเป็นในช่วงปี 2000 นั้น ที่เงินบาทลอยตัว เศรษฐกิจไม่ดี เรามีอยู่ 7 บริษัทที่เราต้องตีเช็กออกไปล่วงหน้า ทั้งหมด 7 บริษัทแล้วเราก็ต้องเคลียร์ภาระหนี้ของเรา หันซ้ายหันขวาก็กู้เงินใครไม่ได้ เพื่อนๆ เราในวงการธุรกิจก็เจ้งกันหมด ก็มีคนออกไอเดียนี่แหละว่าเราขายตัวเองได้” 

        “คนในวงการธุรกิจนี่แหละส่วนใหญ่ ก็คิดไปคิดมาก็ไม่ได้เสียหายอะไร ในสมัยก่อนนั้นฝรั่งเยอะมาก”

 

        “ในสมัยนี้ให้ทำใหม่เหรอ ไม่เอา(ส่ายหน้า) เราอยากให้คนชื่นชอบเราในด้านการแสดง การเต้นรำ ความสามารถเรามากกว่า ไม่ใช่มาชื่นชมเราแบบไม่รู้ล้ม ไม่ใช่” 

        “ในช่วงนั้นคุ้มครับ” 

ใช้หนี้หมด  ? 

        “ใช่ครับ ถามว่าได้กำไรไหม ก็ไม่เหลือหรอกจ่ายหนี้ กำไรไปจ่ายหนี้ใหม่หมดเคลียร์ได้ เดินได้” 

        “พี่ว่าสมัยนี้จริงๆ มันก็อย่าเรียกว่าแรงกว่า เรียกว่าสมัยนี้มันก็เป็นพัฒนาการขึ้นไปขอแฟชั่น พี่อาจจะโชคดีที่เราถ่ายยุคโน้นที่ไม่มีไอจี ถ้ามีไอจี มีเฟสบุ๊ค มีออนไลน์เผลอๆ พี่อาจจะถูกด่าเยอะมาก  สมัยนี้มันด่ากันเร็วนะ ที่คนทำสมัยนี้มันถูกวิเคราะห์ วิจารณ์ 50-50 อยู่แล้ว ผมว่าน้องสมัยนี้น่าจะโดนเยอะครับ น่าเห็นใจเขา แต่อีกมุมหนึ่งพี่ว่านักแสดงทุกคนในวงการบันเทิงเราเนี่ย จริงๆ แล้วสังคมเปิดกว้าง เขาอยากถ่ายเหมือนพวกเราตอนที่ยังหนุ่มๆ สาวๆ อยู่ พี่ว่าคนจะอยากถ่ายนะ เก็บไว้ดู สมัยนี้ก็เยอะนะที่เขาถ่ายกันเอง ที่เขาโพสกัน(โพสในไอจี)” 

        “เยอะเลยครับ ทั้งหนังแผ่น ทั้งถ่ายเวอร์ชั่นภาพใหม่ เยอะสารพัด มีทุกรูปแบบครับ แต่เราก็เฉยๆ มันไม่ใช่เวย์ของเรา เราไม่ได้ชอบแบบนั้น” 

        “ก็เสนอทุกอย่างที่เกี่ยวกับอะไรที่มันต่อเนื่องกับสไตล์นี้ แต่พี่ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะผู้จัดการเขาจะเป็นคนรับเรื่องแล้วมาเล่าให้เราฟัง” 

        “ก็น่าจะเยอะ นอกจากเงินสมัยโน้นก็มีคนจะมาช่วยปลดหนี้ให้ก็มี ถ้ายอมเป็นแฟนเขา บางคนก็ให้หมั้นกับลูกสาวเขาแล้วจะปลดหนี้ให้เรา ก็มีทุกรูปแบบแหละ” 

        “พี่เป็นคนที่รักตัวเอง รักความอิสระ ไม่ชอบให้ใครเป็นเจ้าของ ก็ไม่ได้เกิดมารวยโชคดีที่ว่าขยันทำงานแล้วดวงดี ก็ยังเพ้อฝันอยู่นะว่าเราคงกลับมาได้ หาเงินต่อได้ แล้วมันก็ทำได้ก็จบไป” 

        “มันก็เป็นปมด้อยที่ว่า พี่เป็นนักแสดง แล้วก็ชอบทำธุรกิจ แล้วพอเรื่องแบบนี้มันเข้ามา อยู่ๆ นั่งคุยงานกันอยู่ แล้วมันเอาภาพมาโชว์ เราก็สะอึก แต่ก็ต้องนะ ต้องรับ คือถ้าย้อนเวลากลับไปพี่ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรอก” 

        “ไม่ชอบเลย เพื่อนพูดถึงก็ไม่ชอบเลย แต่พอนานๆ เข้าฟังเป็นล้านๆ ครั้งก็เออปล่อยๆ ไป”

 

        “เพราะเราเกิดมาเป็นคนที่มีโอกาสของการศึกษา เราโตเมืองนอกเราได้ความรู้มาเยอะทางด้านการศึกษา แล้วเสร็จปั๊บเรามีโอกาสอีกเยอะแยอะ แล้วมาจนมุม เรียกว่าจนมุมจนเราต้องทำแบบนี้ มันทำให้เราไม่ค่อยภูมิใจในตัวเอง ไม่มีใครอยากจะพรีเซ็นต์ภาพนี้ของตัวเองหรอก”