แซนดี้พลอย เคลียร์หลังโดนเม้าท์เป็นนาธาน 3 โกอินเตอร์ปลอม!!!

แซนดี้พลอย เคลียร์หลังโดนเม้าท์เป็นนาธาน 3 โกอินเตอร์ปลอม!!!

“แซนดี้ พลอย” ควงผู้กำกับหอบหลักฐานมากระแทกตาชาวเน็ต หลังโดนเม้าท์โกอินเตอร์ปลอม ฉายานาธาน 3

หลังจากที่มีกระแสดราม่าในโลกโซเชียลว่าดาราสาวที่ไปโกอินเตอร์ไกลถึงประเทศอิหร่านอย่างสาว “แซนดี้ พลอยปภัส วรพิสิษฐ์กุล” ว่าเธอนั้นลวงโลกในเรื่องที่เธอได้โกอินเตอร์ได้ไปเล่นภาพยนตร์ของอิหร่าน อย่างเรื่อง "Jonsouda" (จันสุดา)  แถมยังได้เข้าประกวดในเทศกาลหนังอย่าง the 33th Fajr International Film Festival at Tehran, Iran. ซึ่งเป็นเทศกาลหนังที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่านอีกด้วย แต่ปรากฏว่าบรรดาชาวเน็ตต่างเข้าไปหาข้อมูลของหนังเรื่องนี้กลับไม่พบ  ไม่มีข้อมูลแน่ชัดที่บ่งบอกว่าหนังเรื่องมีมีอยู่จริง  จนเกือบจะได้ฉายา นาธาน 3 ไปซะแล้ว ถ้าล่าสุด สาวแซนดี้พลอย ไม่ได้ควงผู้กำกับของหนังเรื่องนี้มาตั้งโต๊ะแถลงแจงเรื่องราวดังกล่าวซะก่อน โดยเธอเปิดใจกับบรรดาสื่อมวลชนว่า

            “ทางผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง "Jonsouda" (จันสุดา) ได้เดินทางมาเมืองไทยพอดี เราเลยคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะให้เค้ามาพูดคุยเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ รวมทั้งเรื่องใหม่ที่เค้าจะให้เราไปร่วมงานอีก เพราะพลอยเองก็มีประเด็นที่ว่าเราได้ไปเล่นหนังจริงมั้ย คือเราก็ได้ยินประเด็นนี้มาบ้าง ซึ่งเราก็ยังไม่เคยมีการโต้ตอบอะไรไป  แล้วที่คนเข้าไปหาข้อมูลในยูทูปหรือว่าเวปไซด์อื่นๆแล้วไม่เจอข้อมูลของหนังเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นเพราะ อิหร่านเนี่ย เค้ามีปัญหากับทาง สหรัฐ ฉะนั้นเค้าก็จะโดนบล็อกในส่วนของ ยูทูปกับเฟสบุ๊ค และอีกหนึ่งเหตุผลของเค้าก็คือเค้าทำหนังเพื่อประกวดใน Film Festival เมื่อเค้าบรรลุวัตถุประสงค์แล้วก็เลยไม่ได้เอาหนังไปโปรโมทในส่วนอื่น แต่ที่ทราบมาก็คือเค้ามีติดต่อทางสถานทูตเหมือนกันว่าอยากเอาหนังเข้ามาฉายที่เมืองไทย รวมถึงตัวพลอยเองก็อยากให้หนังเรื่องนี้เข้ามาฉายที่เมืองไทยเหมือนกันค่ะ เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่ใหม่มาก กับเทคนิคการถ่ายทำของเค้า อีกอย่างคือเราเริ่มมาจากงานเบื้องหลัง มาเป็นตัวประกอบ จนได้มาเป็นนักแสดงเต็มตัว เราก็อยากให้คนเห็นผลงานของเราด้วย ถ้าถามเรื่องรายได้ของหนังที่นู่นคือไม่มีเพราะเค้าทำหนังเพื่อส่งหนังประกวดในงาน Film Festival กันอย่างเดียวเลย ประเทศอิหร่านเค้าทำหนังแนวนี้โดยตรงเลย แต่ไม่ได้หมายความว่าหนังของเค้าไม่ลงทุนนะคะ อย่างเรื่องนี้ที่เค้ามาถ่ายที่เมืองไทยก็ทุนไป 5-6 ล้านบาท ส่วนเรื่องค่าตัวก็เกือบ 7 หลักค่ะ เพราะเค้าจ่ายเรามาเป็นดอลลาร์สหรัฐ แต่แอบได้ยินว่าเรื่องหน้าจะได้ค่าตัวเพิ่ม (หัวเราะ) ถือว่าเป็นรายได้สูงที่สุดเลยตั้งแต่ที่เคยทำมา”

“สำหรับเรื่องดราม่าของเราเค้าก็รู้บ้างแต่ก็ไม่ได้อะไร คือเค้าเข้าใจเพราะคนเซิร์ทอะไรในอินเตอร์เน็ตก็ไม่เจอ ตัวพลอยเองยอมรับว่าเสียใจนะคะ แต่ก็ไม่เป็นไรเราก็ขออยู่แล้วนี้แล้วก็ค่อยๆพัฒนาไปดีกว่า จริงๆหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกของเราเลย เพราะเค้าถ่ายเสร็จไปตั้งแต่ปลายปี 2013 แล้ว ระหว่างนั้นเราก็ทำงานของเราไป จนกระทั่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเค้าก็ติดต่อมาว่าหนังเราได้เข้าชิงรางวัลนะ แล้วทาง Film Festival ก็ติดต่อให้เราไปโชว์ตัวที่นู่นด้วย ตอนที่ไปที่อิหร่านก็มีค่ายอื่นถามๆเราอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันหรือเปล่า กับทางนี้เราก็เซ็นสัญญากันเป็นโปรเจ็คไป ส่วนงานบอลลี วูด จริงๆมันเป็นอีกหนึ่งโปรเจ็คที่เข้ามาพร้อมๆกัน แต่เราไม่กล้าไปเทียบกับ พี่แอน มิตรชัย หรือ พิงกี้ เลย เพราะของเราจะเป็นแค่แบรนด์แอมบาสเดอร์ในการสานวัฒนธรรมในเรื่องการเต้นของคนไทยในสไตล์บอลลี่วูด เค้าก็มีการทำเป็นเอ็มวีค่ะ แต่ยังไม่มีการเปิดตัวเป็นเรื่องเป็นราว ตอนนี้เลยยังมีแค่ภาพนิ่ง คือเราก็ยังไม่อยากพูดอะไรเยอะเพราะยังไม่ได้เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน คาดว่าน่าจะเป็นปีหน้าถึงจะได้เห็นกัน ยังไงก็เข้าไปดูกันได้ที่ www.lifeisdance.in นะคะ งานต่างประเทศเราได้เป็นนางเอกหมด แต่ผลงานที่ไทยพลอยเล่นเป็นตัวร้ายนะ(หัวเราะ) อย่างเรื่องผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด ก็เพิ่งจะจบไป และที่กำลังถ่ายอยู่ก็คือเรื่องราชินีหมอลำ ก็เล่นร้ายเหมือนเดิมเลยค่ะ”