บทเรียนสต๊าฟซื่อบื้อ พระเอกวีนกลับบ้าน

อีกทั้งเป็นแม่เหล็กเรียกกองทัพนักข่าว ไม่ว่าจะเป็นงาน อาทิ เปิดตัวสินค้า เวทีประกวด และงานการกุศล หรือ ซีเอสอาร์

แต่บางครั้งก็ใช่ว่างานจะแฮปปี้ เพราะด้วยทีมงานที่ “ซื่อบื้อ” เถรตรงจนเกินกว่าที่จะให้อภัยเสียด้วยซ้ำ มีอย่างที่ไหนห้ามดาราเข้างาน

อย่างล่าสุด มิสเตอร์เอ ชื่อเล่น ดับเบิ้ลยู เคยผ่านเวทีประกวดนายแบบมาก่อน ๆ ที่จะกลายมาเป็นพระเอก และผู้จัดละครแห่งวิกหลากสีในท้ายที่สุด

เขาได้รับเชิญให้ไปเป็นกรรมการตัดสินนางงามเวทีหนึ่ง ที่เพิ่งจะจัดไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งงานนี้เขาเต็มใจมาเป็นกรรมการทุกปี เพราะเป็นงานการกุศล ค่าตัวหรือค่าน้ำรถก็ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว

เมื่อถึงเวลาใกล้เริ่มงานเขาจะเดินเข้างาน เพื่อไปนั่งที่โต๊ะกรรมการ ปรากฏว่า สต๊าฟที่ยืนอยู่หน้าประตูเข้างาน ดันบอกว่า เข้างานไม่ได้ค่ะ เพราะไม่มีโบว์ติดเสื้อ พระเอกของเราบอกด้วยน้ำเสียงดี ๆว่า ผมมาเป็นกรรมการครับ ทีนี้ทีมงานอีกคนก็ยังยืนยันด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรว่า เข้าไม่ได้ เหตุเกิดต่อหน้าธารกำนัลอีกต่างหาก...มันน่าอายมั้ยล่ะ...ดาราถูกทีมงานไม่ให้เข้างาน

พระเอกของเราถึงกับควันออกหูว่า หันหลังกลับบ้านบัดดล ระหว่างนั้นไปเจอทีมงานอีกคนหนึ่ง ก็แจ้งว่า คนของคุณไม่ให้ผมเข้างาน แถมพูดจาไม่ดี ผมจะกลับละนะ

งานนี้กว่าจะเคลียร์กันได้แทบหืดขึ้นคอ คาดว่าทีมงานน่าจะเป็น “แรงงานต่างด้าว” พูดจาไม่รู้เรื่อง แถมไม่รู้พระเอกดังคนนี้ แหม ! แทนที่จะประสานกับทีมงานที่ดูแลคณะกรรมการสักหน่อย

เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะเกิด เกิดมาแล้วหลายครั้ง ศิลปินดารามางานแล้วถูกทีมงานซื่อบื้อใส่ ที่ทนได้ก็ทนไป ที่ทนไม่ได้กับพฤติกรรมการไม่รับแขก ก็เหวี่ยงวีนกลับบ้าน กระทั่งเจ้าของงานแทบจะเอาดอกไม้ธูปเทียนแพไปขอขมา

ทางแก้ที่ดีที่สุดคือ อบรมนิสัยหรือสันดานทีมงานบางคน ให้หัดมองว่า คนที่มาร่วมงานคือ “แขกคนสำคัญ” ไม่ใช่ “หมู หมา กา ไก่” จะได้มีกระโชกโฮกฮากใส่กัน....เพลียจริงจร๊ง !