ในช่วงประมาณ 4 – 5 เดือนที่ผ่านมา นางแบบสาวชาวจีน “หลิวซือฮั่น” หรือ “แจสซิก้า หลิว” เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวเน็ตตี๋หมวย ตลอดจนชาวต่างชาติ จากรูปร่างหน้าตาสวยหน้ารักแบบสาวญี่ปุ่น ขณะที่มีบางคนเปรียบเทียบความสวยของฮ็อตของเธอกับ แอนเจล่าเบบี้ นางแบบขวัญใจชาวฮ่องกงชาวฮ่องกงกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามสาวจีนคนนี้ ไม่ค่อยจะได้เปิดเผยถึงรายละเอียดต่างๆ ในชีวิตส่วนตัวมากนัก นอกจากเคยกล่าวกับสื่อว่า เธออาศัยอยู่กับครอบครัวบุญธรรม ที่รับอุปถัมภ์ตั้งแต่อายุ 7 - 8 ขวบ
ในเวลาเดียวกันเริ่มมีข่าวลือว่าเธออาจจะไม่ใช่หญิงแท้ แต่เป็นสาวเทียม ที่เคยผ่าตัดแปลงเพศจากหญิงเป็นชายมาก่อน ... จนกระทั่งเรื่องดังกล่าวถูกพูดถึงเป็นเวลาสองเดือน หลิวซือฮั่น จึงได้ออกมายอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง ... ที่ว่าเธอเองเคยเป็นเพศชายมาก่อน
เมื่อปลายเดือน ธ.ค. หลิวซือฮั่น ได้พูดถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก และเขียนอธิบายเหตุผลส่วนตัวในเว็บไซต์ของเธอ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเรื่องการแปลงเพศ ...
“ฉันเคยผ่าตัดแปลงเพศค่ะ ฉันแค่ต้องการปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่ใครบางคนไม่ยอมปล่อยฉันไป และเปิดเผยความลับของฉันกับสื่อ, กับสาธารณะ เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันไม่สามารถให้กำเนิดลูกเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นได้ ตอนนี้ฉันยอมรับแล้วค่ะ ไม่ต้องกดดันกันอีกต่อไปแล้ว ฉันจะค่อยๆ เปิดเผยความจริงอย่างช้าๆ ฉันขอยอมสู้กับความจริงดีกว่า จะให้คนอื่นมาพูดจาให้ร้าย”
ชีวิตวัยเด็กอันแสนเศร้า
เมื่อถึงช่วงเดือน ม.ค. เรื่องนี้เริ่มเป็นที่สนใจของบรรดาสื่อกระแสหลักมากขึ้นเรื่อย ๆ มีรายการโทรทัศน์ขอสัมภาษณ์เธอ ขณะที่เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของนางแบบสาว ได้ถูกถ่ายทอดเป็นสกู๊ปข่าวตามสื่อต่าง ๆ ขณะที่ตามชุมชนออนไลน์ของจีนก็ถกเถียงถึงเรื่องนี้กันอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน หลิวซือฮั่น ก็ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว และรายการโทรทัศน์ ทั้งชีวิตกับการเปลี่ยนแปลงจาก ‘นาย’ เป็น ‘นางสาว’, วัยเด็กอันแสนเจ็บปวด รวมถึงเรื่องของความรัก
“ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีอะไรบางอย่างแตกต่างออกไปค่ะ ฉันควรจะเป็นเด็กผู้หญิง, ควรจะได้เข้าห้องน้ำหญิง รู้สึกถึงวิญญาณความเป็นผู้หญิง ซึ่งอยู่ผิดที่ผิดทาง ในร่างกายของเด็กผู้ชาย” หลิวซือฮั่น เล่าถึงความรู้สึกตั้งแต่เด็กของตนเอง “เกย์สามารถมอบความรัก และมีสัมพันธ์ลึกซึ้งให้แก่กันได้ แต่ไม่ใช่สำหรับคนแปลงเพศอย่างฉันค่ะ”
หลิวซือฮั่น มีพื้นแพมาจากฉางชา เมืองหลวงของหูหนาน ในแถบตอนใต้ของจีน และมีชื่อเดิมที่พ่อแม่ตั้งให้ว่า “หลิวชูอ้าย” ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่ารู้สึกถึงความแตกต่างของตนเองตั้งแต่จำความได้ ในฐานะเด็ก ‘เด็กชาย’ ที่มีบุคลิกเรียบร้อย เงียบๆ ในสายตาของผู้อื่น แต่สำหรับเจ้าตัว เธอเชื่อมาตลอดว่าตนเองคือเด็กผู้หญิง
“ตอนฉันอายุแค่ 8 หรือ 9 ปีเท่านั้นเอง ฉันคิดว่าถ้าเกิดตายขึ้นมา ก็อาจจะได้เริ่มต้นทุกอย่างใหม่อีกครั้ง ฉันพยายามใช้มีดฆ่าตัวตาย เลียนแบบสิ่งที่เห็นในโทรทัศน์ แต่ถูกที่บ้านจับได้ จนโดนตี โดนบังคับให้นั่งคุกเข่าบนกระดานซักผ้า”
ด้วยความที่ผู้เป็นมารดาเคยคาดหวังว่าลูกคนนี้จะเป็นเด็กผู้หญิง หลิวซือฮั่น จึงเชื่อว่าเธอเองสมควรเกิดมาในฐานะลูกสาว ในวัยเด็กเธอมักจะใช้เวลาหลังเลิกเรียนแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิง เฝ้าฝันว่าตัวเองจะกลายเป็นเจ้าหญิงแสนสวย เมื่ออายุได้ 16 ปี ขณะที่ชีวิตในโรงเรียนกลับกลายเป็นเหมือนฝันร้าย เจ้าตัวยอมรับว่าตนเองเหมือนเป็น ‘ตัวประหลาด’ สำหรับเพื่อน โดยเฉพาะจากท่าทางตุ้งติ้ง แตกต่างจากเด็กชายคนอื่นๆ ทั่วไป
“พวกเขาโยนฉันลงบนเตียง, เข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง, จับหน้าฉัน, บอกว่าผิวของฉันนุ่มนิ่ม และซีดเซียว บอกว่าฉันเป็นเด็กผู้ชายที่น่าขยะแขยง พวกเขาพยายามจะจับฉันแก้ผ้า เพื่อดูให้รู้แน่ว่าฉันเป็นเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ เวลาฉันตะโกนว่า ‘อย่า! ไม่เอานะ!’ พวกเขายิ่งชอบเข้าไปใหญ่ จนพยายามจะฉีกเสื้อผ้าของฉันออกค่ะ จนฉันเริ่มร้องไห้ และบอกออกไปว่า ‘ฉันเป็นเด็กผู้หญิง อย่ามาแกล้งกันแบบนี้นะ’”
จนกระทั่งเริ่มต้นร่ำเรียนในระดับมหาวิทยาลัย หลิวซือฮั่น เริ่มพบรักครั้งแรก และนี่เองเป็นจุดที่ทำให้เธอเริ่มคิดถึงการแปลงเพศ ซึ่งทางบ้านได้ต่อต้านเรื่องนี้อย่างหนัก ถึงขั้นทุบตี, จับกล่อนผม และจับเธอขังเอาไว้ เมื่อ หลิวซือฮั่น จึงได้โอกาสหลบ เธอจึงตัดสินใจโดยไม่ลังเล
จาก ‘เด็กชาย’ หลิวชูอ้าย (Liu Shuai / 刘帅) สู่นางแบบคนสวย ‘หลิวซือฮั่น’
โดยก่อนที่จะเริ่มต้นงานนางแบบในฐานะเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง งานแรกของ หลิวซือฮั่น ภายหลังออกจากบ้านก็คือ การแสดงโชว์ในไนต์คลับ กับบทบาทนางโชว์ ที่มีคู่เต้นเป็นอสรพิษ !!
หลังจากออกจากบ้าน สาววัย 19 ปีในขณะนั้นต้องเริ่มหางานทำ สำหรับทั้งการแปลงเพศ และเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน โดยเธอเริ่มต้นทำงานในไนต์คลับ ทั้งการเต้นรูดเสา และเต้นแนวอีโรติก ที่มีอุปกรณ์ (หรือคู่เต้น?) เป็นงู และใช้ชื่อในการแสดงว่า “หลันซี” แม้จะเกิดเหตุผิดพลาดถูกงูกัดเอาหลายครั้ง มันก็เป็นงานที่จำเป็นสำหรับเธอ
ในเวลาเดียวกัน หลิวซือฮั่น ยังเริ่มต้นเส้นทางสู่ความเป็นลูกผู้หญิง ในการพยายามหลุดยั้งการเจริญเติบโต ของความเป็นชาย เธอถึงกับพยายามมัดเท้าตัวเอง แฉกเช่นเดียวกับหญิงจีนโบราณ เพื่อไม่ให้เท้ามีขนาดใหญ่เกินไปด้วย
หลังจากใช้เวลาเก็บเงินอยู่ 3 ปี หลิวซือฮั่นก็มีเงินก้อนสำหรับการแปลงเพศ และไม่ลังเลที่จะขึ้นเตียงผ่าตัด เพื่อการเริ่มต้นใหม่ในฐานะผู้หญิง การผ่าตัดที่ใช้เวลา 8 ชั่วโมงลุล่วงไปได้ด้วยดี
ภายหลังการผ่าตัด หลิวซือฮั่น ตัดสินใจบอกที่บ้าน เพื่อขอกลับไปพักฟื้น และขอความช่วยเหลือเรื่องเงินค่าใช่จ่ายบาง ที่ยังค้างจ่ายกับโรงพยาบาล แต่นั่นกลับกลายเป็นฝันร้ายอีกครั้ง เมื่อเธอถูกทุบตี, ด่าทอ ผู้เป็นมารดาพยายามบีบบังคับให้ กินยาแผนโบราณที่ทางครอบครัวเชื่อว่า จะคืนความเป็นชายให้กับอดีต ‘ลูกชาย’ คนนี้ได้ แม้เจ้าตัวจะรู้ดีว่ามันไม่มีทางจะเป็นไปได้ ภายหลังการผ่าตัดใหญ่ จนกระทั่ง หลิวซือฮั่น ตัดสินใจเดินทางไปปักกิ่งเพื่อเริ่มต้นอาชีพนางแบบ และเริ่มต้นใช้ชีวิตในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง
เผยความจริง หรือสร้างข่าวเพื่อความโด่งดัง?
“ฉันไม่ได้ฆ่าใคร ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แค่เป็นคนแปลงเพศ และผ่านการผ่าตัดบางอย่างมาเท่านั้น แต่ฉันกลับถูกหมิ่นประมาท ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ฉันรู้สึกขมขื่นข้างในนะคะ ฉันไม่อยากให้สังคมทำเหมือนกับฉันเป็นสัตว์ประหลาด อยากจะเท่าเทียมกับทุกคน”นางแบบสาวเทียมกล่าวตัดพ้อกับสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามใช่มีแต่คนเห็นใจ แต่ยังมีคนตั้งคำถามเกี่ยวกับการเปิดเผยความจริงครั้งนี้ของเธอ
ทันทีที่ข่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดออกไป เริ่มมีข้อสงสัยจากหลาย ๆ คนว่า การเปิดตัวและเผยความลับเรื่องการแปลงเพศ อาจเป็นเพียงการพยายามเรียกร้องความสนใจของเธอ เพื่อชื่อเสียงและเงินทอง ในเวทีที่วงการบันเทิงจีนมีการแข่งขันกันอย่างนัก
มากไปกว่านั้นยังมีคนสงสัยอีกว่า หลิวซือฮั่น เป็นสาวประเภทสองอย่างที่เธอกล่าวอ้างจริงหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อค่าผ่าตัดแปลงเพศ และศัลยกรรมความงาม ที่สาวคนนี้น่าจะทำมาหลายอย่าง ทั้ง ยกใบหน้า, ทำหน้าอก น่าจะมีราคาแพงระดับ หลายแสนหยวน ซึ่งไม่น่าจะหาได้ง่ายๆ ในเวลาสั้นๆ
Red Flava / Manager Online
https://www.facebook.com/teeneedotcom