ที่มาของมหากาพย์ความซวย ฟ่าน ปิงปิง ถูกจับ!!
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราจีน ที่มาของมหากาพย์ความซวย ฟ่าน ปิงปิง ถูกจับ!!
เรื่องเริ่มจาก....ชุยหย่งหยวน พิธีกร ชื่อดังมากๆ เทียบได้กับคุณสรยุทธ์บ้านเราเลย ลีลาก็น่าจะคล้ายกัน ชื่อรายการที่ลุงชุยจัดและดังเปรี้ยงก็คือ รายการเรื่องจริงพูดจริง และเขาจบการศึกษาด้านข่าวมาด้วย แต่โชคไม่ดี ประมาณปี 2002-2003 เขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จึงลาออกจากรายการ แล้วดันลูกศิษย์ที่มีชื่อว่า เหอจิง ขึ้นมานั่งแทน ในตอนนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก มีหลายคนที่ไม่ค่อยเชื่อว่าเขาจะป่วยจริง
ในปีเดียวกันผู้กำกับชื่อดัง เฝิงเสี่ยวกัง ติดต่อ ชุยหย่งหยวน ว่าจะสร้างภาพยนตร์เรื่อง Cell Phone ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ดำเนินรายการ ชุยอ้างว่า เฝิงติดต่อให้เขาร่วมแสดงด้วย แต่เขาปฏิเสธ เพราะป่วยและแสดงหนังไม่เป็น ที่สำคัญสถานีโทรทัศน์ก็ไม่อนุญาต ดังนั้นจึงเป็นแค่ที่ปรึกษา บอกรายละเอียดการทำงานของพิธีกรทั้งหมดให้เฝิงเสี่ยวกังและหลิวเจิ้นหวิน (ผู้เขียนบท) ในตอนนั้นทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้หนังถ่ายทำออกมาได้สมจริง แต่เขาไม่รู้พล็อตของหนัง มีวันหนึ่งเขานัดทานข้าวกัน ชุยถามทั้งสองว่าหนังถ่ายทำไปถึงไหนบ้าง ดีหรือไม่ ทั้งสองตอบชุยว่า ดีมากๆ รอดูก็แล้วกัน รับรองว่าต้องเซอร์ไพรซ์แน่
แต่เมื่อภาพยนตร์ออกฉาย ชุยหย่งหยวนตกใจมาก เพราะในหนังเป็นเรื่องราวของพิธีกรที่เก็บซ่อนความลับไว้ในโทรศัพท์มือถือ และที่สำคัญรายละเอียดทุกอย่างบอกเป็นนัยว่าคือนักแสดงนำคือชุยหย่งหยวน และเนื้อหาตอนจบคือ เหยียนโส่วอี (ชื่อพระเอก) ก็โบกมือลารายการที่ทำด้วยอาการป่วย ดันหญิงสาวคนหนึ่งชื่ออู่เยว่มานั่งแท่นเป็นพิธีกรแทน ซึ่งเหมือนชีวิตจริงของชุยเปี๊ยบ แต่ที่แตกต่างก็คือ ในหนังกำหนดให้อู่เยว่เป็นเมียน้อยของเหยียนโส่วอี ซึ่งในตอนนั้นทุกคนที่ดูหนังต่างก็คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการตีแผ่ชีวิตจริงของชุยหย่งหยวน เป็นคำตอบของข้อสงสัยที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันว่าทำไมชุยหย่งหยวนถึงลาจอไปให้ผู้หญิงอีกคนมาทำหน้าที่พิธีกรแทน
ในปีเดียวกันผู้กำกับชื่อดัง เฝิงเสี่ยวกัง ติดต่อ ชุยหย่งหยวน ว่าจะสร้างภาพยนตร์เรื่อง Cell Phone ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ดำเนินรายการ ชุยอ้างว่า เฝิงติดต่อให้เขาร่วมแสดงด้วย แต่เขาปฏิเสธ เพราะป่วยและแสดงหนังไม่เป็น ที่สำคัญสถานีโทรทัศน์ก็ไม่อนุญาต ดังนั้นจึงเป็นแค่ที่ปรึกษา บอกรายละเอียดการทำงานของพิธีกรทั้งหมดให้เฝิงเสี่ยวกังและหลิวเจิ้นหวิน (ผู้เขียนบท) ในตอนนั้นทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้หนังถ่ายทำออกมาได้สมจริง แต่เขาไม่รู้พล็อตของหนัง มีวันหนึ่งเขานัดทานข้าวกัน ชุยถามทั้งสองว่าหนังถ่ายทำไปถึงไหนบ้าง ดีหรือไม่ ทั้งสองตอบชุยว่า ดีมากๆ รอดูก็แล้วกัน รับรองว่าต้องเซอร์ไพรซ์แน่
แต่เมื่อภาพยนตร์ออกฉาย ชุยหย่งหยวนตกใจมาก เพราะในหนังเป็นเรื่องราวของพิธีกรที่เก็บซ่อนความลับไว้ในโทรศัพท์มือถือ และที่สำคัญรายละเอียดทุกอย่างบอกเป็นนัยว่าคือนักแสดงนำคือชุยหย่งหยวน และเนื้อหาตอนจบคือ เหยียนโส่วอี (ชื่อพระเอก) ก็โบกมือลารายการที่ทำด้วยอาการป่วย ดันหญิงสาวคนหนึ่งชื่ออู่เยว่มานั่งแท่นเป็นพิธีกรแทน ซึ่งเหมือนชีวิตจริงของชุยเปี๊ยบ แต่ที่แตกต่างก็คือ ในหนังกำหนดให้อู่เยว่เป็นเมียน้อยของเหยียนโส่วอี ซึ่งในตอนนั้นทุกคนที่ดูหนังต่างก็คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการตีแผ่ชีวิตจริงของชุยหย่งหยวน เป็นคำตอบของข้อสงสัยที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันว่าทำไมชุยหย่งหยวนถึงลาจอไปให้ผู้หญิงอีกคนมาทำหน้าที่พิธีกรแทน
โดยมีคนให้ทัศนะต่อเรื่องนี้ว่า เขาไปเปิดหนังเรื่องนี้ดูและพบว่า เฝิงเสี่ยวกังใช้รายละเอียดหลายอย่างเพื่อให้คนดูเข้าใจว่า เหยียนโส่วอีก็คือชุยหย่งหยวน โดยชื่อโส่วอี และหย่งหยวน เหอจิงและอู่เยว่สามารถตีความได้เป็นความหมายเดียวกัน แม้แต่ชื่อรายการยังตั้งชื่อที่มีความหมายเดียวกัน การแต่งตัว ทรงผมดารานำชายก็เหมือนชุยหย่งหยวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของชุยหย่งหยวนเป็นอย่างมาก ทั้งลูกเมียต่างได้รับผลกระทบ ลูกไปโรงเรียนก็โดนเพื่อนถามว่า พ่อเธอมีเมียกี่คน และเรื่องนี้ทำให้อาการของชุยหย่งหยวนทรุดหนักลงไปอีก ทั้งส่งผลกระทบต่อชีวิตของเหอจิง ลูกศิษย์ที่ชุยหย่งหยวนดันมารับหน้าที่แทนเขาในรายการ เรื่องจริงพูดจริงเป็นอย่างมาก โดยเธอโดนสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก คนดูต่างก็มองเธอด้วยแววตาสงสัยในความสามารถ ไม่ยอมรับบทบาทพิธีกรของเธอ ทำให้รายการเรตติ้งต่ำลงเรื่อยๆ จนต้องลาจอไปในปี 2009
ชุยหย่งหยวนบอกว่า เขาเคยติดต่อไปยังเฝิงเสี่ยวกังกับหลิวเจิ้นหวิน หลิวเจิ้นหวินขอโทษเขาถึงสามครั้ง ส่วนเฝิงเสี่ยวกังไม่เคยขอโทษเขาเลย ซ้ำยังให้สัมภาษณ์ในรายการว่า มันเป็นแค่เรื่องตลก เราก็แค่อยากล้อชุยหย่งหยวนเล่น ในเมื่อเขารับเรื่องล้อเล่นของเราไม่ได้ ก็จนปัญญา ชุยหย่งหยวนยังเผยอีกว่า ในสมัยนั้นไม่มีอินเตอร์เน็ต การสื่อสารไม่ทันสมัยเช่นทุกวันนี้ที่มีช่องทางให้คนที่ตกเป็นข่าวออกมาปฏิเสธได้ทันท่วงที หนังสือพิมพ์ก็เล่นข่าวเฮกันไปโดยไม่เคยไปสัมภาษณ์เขาเลย ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูด เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นร้อนในสังคม และจนทุกวันนี้ก็ยังมีคนทักเขาว่าชุยหย่งหยวนพิธีกรรายการ...(ชื่อรายการในหนัง) ใช่ไหม ดังนั้นเรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องเลวร้ายทำลายชีวิตเขาและเหอจิงเป็นอย่างมาก และเขารู้สึกผิดมาโดยตลอดเพราะหากตนเองไม่ให้ข้อมูลกับเฝิงเสี่ยวกัง หนังคงถ่ายทำออกมาได้ไม่สมจริงขนาดนั้น เขาถือว่าตัวเขาเป็นต้นเหตุให้ชีวิตของลูกผู้หญิงต้องพังทลาย แถมภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นซีรี่ส์ และเขียนเป็นนิยายอีกด้วย แต่เขาเองก็เลือกที่จะเงียบเพราะเรื่องมันผ่านไปแล้ว
คราวนี้ฟ่านปิงปิงมาเกี่ยวข้องอย่างไร...บทอู่เยว่ นำแสดงโดยฟ่านปิงปิง และปีนี้มีข่าวเปิดกล้องหนังเรื่อง Cell Phone 2 ซึ่งนักแสดงนำยังเป็นคนเดิม ชุยหย่งหยวนบอกว่า
ชุยหย่งหยวนบอกว่า เขาเคยติดต่อไปยังเฝิงเสี่ยวกังกับหลิวเจิ้นหวิน หลิวเจิ้นหวินขอโทษเขาถึงสามครั้ง ส่วนเฝิงเสี่ยวกังไม่เคยขอโทษเขาเลย ซ้ำยังให้สัมภาษณ์ในรายการว่า มันเป็นแค่เรื่องตลก เราก็แค่อยากล้อชุยหย่งหยวนเล่น ในเมื่อเขารับเรื่องล้อเล่นของเราไม่ได้ ก็จนปัญญา ชุยหย่งหยวนยังเผยอีกว่า ในสมัยนั้นไม่มีอินเตอร์เน็ต การสื่อสารไม่ทันสมัยเช่นทุกวันนี้ที่มีช่องทางให้คนที่ตกเป็นข่าวออกมาปฏิเสธได้ทันท่วงที หนังสือพิมพ์ก็เล่นข่าวเฮกันไปโดยไม่เคยไปสัมภาษณ์เขาเลย ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูด เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นร้อนในสังคม และจนทุกวันนี้ก็ยังมีคนทักเขาว่าชุยหย่งหยวนพิธีกรรายการ...(ชื่อรายการในหนัง) ใช่ไหม ดังนั้นเรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องเลวร้ายทำลายชีวิตเขาและเหอจิงเป็นอย่างมาก และเขารู้สึกผิดมาโดยตลอดเพราะหากตนเองไม่ให้ข้อมูลกับเฝิงเสี่ยวกัง หนังคงถ่ายทำออกมาได้ไม่สมจริงขนาดนั้น เขาถือว่าตัวเขาเป็นต้นเหตุให้ชีวิตของลูกผู้หญิงต้องพังทลาย แถมภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นซีรี่ส์ และเขียนเป็นนิยายอีกด้วย แต่เขาเองก็เลือกที่จะเงียบเพราะเรื่องมันผ่านไปแล้ว
คราวนี้ฟ่านปิงปิงมาเกี่ยวข้องอย่างไร...บทอู่เยว่ นำแสดงโดยฟ่านปิงปิง และปีนี้มีข่าวเปิดกล้องหนังเรื่อง Cell Phone 2 ซึ่งนักแสดงนำยังเป็นคนเดิม ชุยหย่งหยวนบอกว่า
เมื่อเขาได้ยินข่าวว่าจะมีการสร้างภาคต่อของหนังเรื่องนี้ เขาก็ติดต่อหลิวเจิ้นหวินทันที ร้องทุกข์กับหลิวว่า ได้ข่าวว่าคุณกำลังเขียนบทหนังเรื่อง Cell Phone 2 หนังเรื่องนี้ภาคแรกทำให้ชีวิตเขาพัง ทำให้เขาโดนลบหลู่เสียเกียรติมาตลอด 10 กว่าปี ตอนนั้นลูกสาวเพิ่งเข้าประถม ตอนนี้ลูกสาวกำลังจะจบมหาวิทยาลัย ทำไมพวกคุณชอบให้ของขวัญเธอจัง ยังจะสร้างภาคต่อหรือ ด้านหลิวตอบมาว่า ทางทีมงานจะสร้างจริงแต่ไม่ได้ใช้ชื่อหนังว่า Cell Phone แล้ว เราใช้ชื่ออื่นแทน ชุยไม่ต้องห่วง ชุยหย่งหยวนจึงบอกว่า ก็แล้วไปถ้าไม่ใช้ชื่อเดิมเขาก็จะไม่เข้าไปยุ่งด้วย แต่อีกสองวันถัดมา ทางทีมงานลงโฆษณาหนังและยังใช้ชื่อ Cell Phone 2 ทำให้เขาโกรธมาก จึงโพสต์เว่ยปั๋วด่าเฝิงเสี่ยวกังและหลิวเจิ้นหวินว่าเดนมนุษย์ พร้อมทั้งลงรูปสัญญาของฟ่านปิงปิง โดยลืมลบชื่อฟ่านปิงปิงที่อยู่กลางสัญญาออก
ตอนแรกเขาเองก็ไม่รู้ว่าติดชื่อฟ่านปิงปิงไปด้วย จนมีคนทักว่าเขาไปดึงฟ่านมาเกี่ยวทำไม เขาเองก็ตกใจและรู้สึกเสียใจด้วย ทั้งยังออกมาบอกภายหลังว่า ที่เขากล่าวถึงไม่ใช่ฟ่านปิงปิง พร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษ จากนั้นฟ่านปิงปิงก็โพสต์เว่ยปั๋ว ในรูปตัดผมสั้นและบอกว่า กำลังถ่ายทำเรื่องนี้อยู่ การรับบทอู่เยว่คือความสุขของเธอ ทำให้ชุยหย่งหยวนโกรธขึ้นมาอีก
เขาบอกในการสัมภาษณ์ว่า ในเมื่อฟ่านปิงปิงรู้สึกว่าการรับบทอู่เยว่เป็นความสุขโดยไม่สนใจว่าตัวละครตัวนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตใครบ้าง คิดว่าตัวเองเป็นดาราใหญ่ ใครๆ ก็เรียกเธอว่าฟ่านเหย่ ค่าตัวแสนแพง มีแฟนคลับเยอะนัก งั้นก็ให้เธอได้ลิ้มรสการถูกหยามเหยียดดูเอง
"และรู้ไว้ด้วยว่าเป็นดาราไม่ใช่แค่รับแสดงบทที่มีคนเสนอมาเท่านั้น"
ชุยบอกอีกว่าฟ่านปิงปิงเคยโทรมาขอโทษเขา โดยบอกว่า ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก เธอไม่รู้ว่าบทที่เธอรับเล่นเคยสร้างผลกระทบกับชีวิตใครมาบ้าง แต่ชุยกล่าวว่าเขาไม่เชื่อเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องดังมากในตอนนั้นไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้ แต่บางทีเธออาจพูดได้แค่นี้
ชุยเปิดเผยอีกว่า ฟ่านปิงปิงโทรมาร้องไห้ และขอโทษ เขาเองก็ได้แต่ขอโทษและปลอบเธอไปว่าอย่างมากก็คงแค่โดนสอบ บริษัทเขาเองก็เคยโดนสอบ แต่เดี๋ยวก็คงผ่านไปเอง ในการให้สัมภาษณ์ลุงชุยยังบอกอีกว่า เมื่อก่อนใครๆ ก็เรียกเขาเสี่ยวชุย แต่ตอนนี้เขาเป็นชุยเหย่แล้ว บอกอีกว่ายังมีข้อมูลอีกเยอะที่สามารถทำให้วงการสะเทือนได้ วงการบันเทิงที่ทุกคนคิดว่าสวยงาม ความจริงสกปรกกว่าที่จะจินตนาการได้ ชุยหย่งหยวนกล่าว
ตอนแรกเขาเองก็ไม่รู้ว่าติดชื่อฟ่านปิงปิงไปด้วย จนมีคนทักว่าเขาไปดึงฟ่านมาเกี่ยวทำไม เขาเองก็ตกใจและรู้สึกเสียใจด้วย ทั้งยังออกมาบอกภายหลังว่า ที่เขากล่าวถึงไม่ใช่ฟ่านปิงปิง พร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษ จากนั้นฟ่านปิงปิงก็โพสต์เว่ยปั๋ว ในรูปตัดผมสั้นและบอกว่า กำลังถ่ายทำเรื่องนี้อยู่ การรับบทอู่เยว่คือความสุขของเธอ ทำให้ชุยหย่งหยวนโกรธขึ้นมาอีก
เขาบอกในการสัมภาษณ์ว่า ในเมื่อฟ่านปิงปิงรู้สึกว่าการรับบทอู่เยว่เป็นความสุขโดยไม่สนใจว่าตัวละครตัวนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตใครบ้าง คิดว่าตัวเองเป็นดาราใหญ่ ใครๆ ก็เรียกเธอว่าฟ่านเหย่ ค่าตัวแสนแพง มีแฟนคลับเยอะนัก งั้นก็ให้เธอได้ลิ้มรสการถูกหยามเหยียดดูเอง
"และรู้ไว้ด้วยว่าเป็นดาราไม่ใช่แค่รับแสดงบทที่มีคนเสนอมาเท่านั้น"
ชุยบอกอีกว่าฟ่านปิงปิงเคยโทรมาขอโทษเขา โดยบอกว่า ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก เธอไม่รู้ว่าบทที่เธอรับเล่นเคยสร้างผลกระทบกับชีวิตใครมาบ้าง แต่ชุยกล่าวว่าเขาไม่เชื่อเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องดังมากในตอนนั้นไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้ แต่บางทีเธออาจพูดได้แค่นี้
ชุยเปิดเผยอีกว่า ฟ่านปิงปิงโทรมาร้องไห้ และขอโทษ เขาเองก็ได้แต่ขอโทษและปลอบเธอไปว่าอย่างมากก็คงแค่โดนสอบ บริษัทเขาเองก็เคยโดนสอบ แต่เดี๋ยวก็คงผ่านไปเอง ในการให้สัมภาษณ์ลุงชุยยังบอกอีกว่า เมื่อก่อนใครๆ ก็เรียกเขาเสี่ยวชุย แต่ตอนนี้เขาเป็นชุยเหย่แล้ว บอกอีกว่ายังมีข้อมูลอีกเยอะที่สามารถทำให้วงการสะเทือนได้ วงการบันเทิงที่ทุกคนคิดว่าสวยงาม ความจริงสกปรกกว่าที่จะจินตนาการได้ ชุยหย่งหยวนกล่าว
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom