กงลี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเกรตา การ์โบแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งความคล้ายคลึงกันระหว่างเธอทั้งคู่ก็ชัดเจนทีเดียว เช่นเดียวกับนักแสดงหญิงชาวสวีดิช กงลี่มีความงามหยดย้อยราวกับนางฟ้าและมีความสามารถด้านการแสดงที่น่าทึ่ง ผลงานภาพยนตร์หลายสิบเรื่องของเธอยังคงแสดงถึงความหลากหลายอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการ์โบ กงเป็นผู้หญิงรักสันโดษ และเธอเองก็พยายามรักษาสมดุลระหว่างความต้องการความเป็นส่วนตัวกับการประชาสัมพันธ์เท่าที่จำเป็นตามอาชีพและงานแสดงของเธอ กงลี่เกิดปี 1965 และเติบโตในจีนาน เธอเป็นลูกสาวของศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ กงรักดนตรีตั้งแต่ยังเล็กๆ และก็ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักร้อง แต่เมื่อเธอไม่สามารถสอบเข้าเรียนในโรงเรียนดนตรีชั้นนำของจีนได้ในปี 1985 เธอก็เลือกที่จะเข้าศึกษาในเซ็นทรัล ดรามา อคาเดมีในกรุงปักกิ่ง ที่ซึ่งเธอสำเร็จการศึกษาในปี 1989 แทน กงได้รับการจับตามองอย่างรวดเร็ว โดยขณะที่เธอยังเป็นนักเรียนอยู่นั้น เธอก็ได้รับเลือกให้เป็นนางเอกในภาพยนตร์เรื่อง Sorghum (1987) ผลงานการกำกับเรื่องแรกของจางอี้โหมว ซึ่งทำให้เส้นทางอาชีพของทั้งคู่สว่างไสวขึ้น นอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับรางวัลหมีทองคำในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองเบอร์ลินแล้ว การแสดงของกงในบทเจ้าสาวผู้บอบบาง ผู้กลายเป็นหญิงสาวทรงอำนาจหลังการเสียชีวิตของสามีเธอ ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติ กงได้ก้าวไปเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงชั้นนำของจีน (และวงการภาพยนตร์นานาชาติ) ของยุค 80s และ 90s อย่างรวดเร็ว ด้วยรูปร่างที่อรชรอ้อนแอ้น ดูขี้อายแต่ก็เจิดจรัสในแผ่นฟิล์ม กงได้เป็นตัวแทนของหญิงสาวจีนรุ่นใหม่ ผู้ที่เติบโตมาท่ามกลางขนบธรรมเนียมเก่าๆ แต่ก็ก้าวไปสู่ค่านิยมแบบเฟมินิสต์ กงมีความสัมพันธ์กับจางทั้งในเรื่องของการงานและความรักเป็นเวลาหลายปี โดยเขาได้กำกับเธอในภาพยนตร์จีนที่น่าจดจำที่สุดหลายเรื่องในทศวรรษที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Ju Dou (1990), Raise the Red Lantern (1991), The Story of Qui Ju (1992) ที่เธอได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์เวนิส, To Live (1994) และ Shanghai Triad (1995) เธอยังได้ร่วมงานกับผู้กำกับจีนคนอื่นๆ อีก โดยเฉพาะเฉินข่ายเก๋อ ผู้ที่เธอได้ร่วมงานด้วยในภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงสามเรื่อง ซึ่งได้แก่ Farewell My Concubine ซึ่งได้รับ รางวัลปาล์มทองคำในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 1993, Temptress Moon (1996) และ The Emperor and the Assassin (1999) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผลงานของเธอได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมและได้รับรางวัลต่างๆ มากมายจากทั่วโลก เธอได้รับเกียรติเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 50 ในปี 1997 และได้เป็นหัวหน้าคณะกรรมการตัดสินในงานเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลินในปี 2000 เธอได้มีส่วนร่วมกับโครงการรณรงค์เพื่อปกป้องเด็กๆ และสิ่งแวดล้อมหลายโครงการ และด้วยเหตุนี้เอง ในวันที่ 10 พฤษภาคม ปี 2000 กงลี่จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีของยูเนสโกในกรุงปารีสโดยผู้อำนวยการของยูเนสโก เพื่อยกย่องการมีส่วนร่วมของเธอที่ทำตามอุดมการณ์และวัตถุประสงค์ขององค์กร ในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน เธอยังได้รับการเสนอชื่อเป็นทูตขององค์กรอาหารและการเกษตรของสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอฟเอโอ) และเธอยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาในหลายๆ กรณีให้กับรัฐบาลจีนอีกด้วย ในต้นปี 2001 เธอเป็นนักแสดงหญิงเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือกจากรัฐบาลจีนให้เป็นตัวแทนแสดงภาพลักษณ์ของโอลิมปิค เกมส์ในจีน เธอได้เดินทางไปมอสโคว์ร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิค จีน ซึ่งนำโดยรองเลขาธิการพรรค และพวกเธอก็ประสบความสำเร็จในการผลักดันให้มีการจัดการแข่งขันโอลิมปิค เกมส์ปี 2008 ขึ้นในกรุงปักกิ่ง นักแสดงหญิงคนงามผู้นี้ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเครื่องสำอางลอรีอัลในเอเชีย และเป็นหนึ่งใน บุคคลที่งดงามที่สุด ของนิตยสารพีเพิลอีกด้วย Breaking the Silence (2000) ซึ่งเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างเธอกับผู้กำกับซุนโจว ทำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์มอนทรีอัล เทศกาลภาพยนตร์ไก่ทองคำของจีนครั้งที่เก้าและเทศกาลร้อยพันธุ์ไม้ของจีน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเลือกให้เข้าฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเบอร์ลินปี 2000 เป็นพิเศษ และ Zhou Yus Train ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักร่วมสมัยของจีน ก็เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองที่เธอร่วมงานกับซุนโจว ในปี 2004 เธอได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่อง Eros ซึ่งเป็นการรวมผลงานภาพยนตร์สามเรื่องโดยสตีเวน โซเดอร์เบิร์กห์, ไมเคิลแองเจโล แอนโตนิโอนีและหว่องการ์ไว ในปีเดียวกันนั้นเอง เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ได้เลือก 2046 ภาพยนตร์ดรามาไซไฟโรแมนติกของหว่องการ์ไว ซึ่งร่วมแสดงโดยกงลี่ที่ดูงดงามกว่าแต่ก่อน ให้เข้าฉายในงานนี้ด้วย ในปี 2005 กงลี่ได้เปิดตัวในภาพยนตร์อเมริกันเรื่องแรก ด้วยการตอบรับคำเชิญของร็อบ มาร์แชลมาแสดงในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง Memoirs of a Geisha โดยอาร์เธอร์ โกลเดน เมื่อเร็วๆ นี้ เธอเพิ่งได้แสดงภาพยนตร์อเมริกันที่ดัดแปลงจากซีรีส์โทรทัศน์ชื่อดังของไมเคิล แมนน์เรื่อง Miami Vice ในปี 2006 และ 2007 เธอจะมีผลงานภาพยนตร์หลายเรื่องได้แก่ Curse of the Golden Flower และ Hannibal Rising โดยปีเตอร์ วีเบอร์ | |
ผลงานแสดงที่ผ่านมา | |||||||||||
|
https://www.facebook.com/teeneedotcom