คุยกับทิดบี้นี่แหละเดอะ สตาร์

 

คมชัดลึก : แม้จะไม่ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ชนะจากเวที เดอะ สตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว แต่ดูเหมือนชื่อของ "บี้" สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว เป็นเหมือนโลโก้ สำหรับคนที่อยากจะเข้ามาตามฝันความเป็นดาวอย่างเขาบ้าง ตั้งแต่ย่างเท้าเข้าวงการบันเทิงครั้งแรก ดูเหมือนเขาคนนี้ จะยิ่งทวีแสงความเป็นซูเปอร์สตาร์เจิดจ้าเด่นชัด ล่าสุดเจ้าตัวยอมตัดทางโลกชั่วขณะ ละทิ้งงานที่ล้นมือในวงการบันเทิง เพื่อไปทำหน้าที่ลูกผู้ชายบวชทดแทนบุญคุณบิดามารดา กระทั่งสึกมาแล้ว และให้สัมภาษณ์กับรายการทีวี แมงโก้ แบงโก้ เป็นที่แรก งานนี้แฟนๆ คม ชัด ลึก ก็เลยพลอยได้รู้ความเคลื่อนไหวของเขาคนนี้กันด้วย

 ถ้าอกหักทำอย่ายังไร
 จริงๆ พื้นฐานอยู่ที่ทุกสิ่งในโลกนี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีสิ่งไหนอยู่แน่นอน คนเราอย่าไปหลงระเริงกับความสุข มันอยู่กับเราได้ไม่นานก็หายไป คนเราพอมีความทุกข์ก็ต้องดับไปเหมือนกัน ความสุขยังดับได้ ความทุกข์ก็ต้องดับได้เหมือนกัน เพียงแต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาหน่อย บางคนปล่อยวางได้เร็วหรือเปล่า บางคนต้องใช้เวลาในการเยียวยาหน่อย แต่เชื่อว่ามันไม่มีใครจะทุกข์ตลอดไป มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านสอนมา



หลักธรรมะใช้ในการทำงานอย่างไร
 คงเป็นเรื่องสมาธิ เพราะบี้เป็นนักแสดง นักร้อง ก็ต้องใช้สมาธิในการแสดง ไม่วอกแวก ร้องเพลงต้องสื่อสารกับคนดู ว่าเวลาเราแสดงไป เขาสนใจเราหรือเปล่า บางทีเขาอาจจะกินข้าวอยู่ ต้องฟังเขา เอ็นเตอร์เทนรับส่งกัน ทุกอย่างในความสนุก ดราม่า พื้นฐานคือเราต้องมีสมาธิในการทำสิ่งนั้นๆ

 วัยรุ่นกับธรรมะ
 จริงๆบางครั้งวัยรุ่นกับธรรมะ อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องตายตัว เมื่อก่อนที่บี้จะบวช ก็คิดว่าธรรมะเป็นเรื่องไกลตัวเหมือนกันนะ แม่ก็พาไปทำบุญตักบาตรปกติเพียงแต่เราไม่ได้ไปสวดมนตร์จริงจัง ไม่ได้อ่านประวัติพระพุทธเจ้า ประวัติพุทธศาสนา มีแค่คำว่าศาสนาพุทธอยู่ในบัตรประชาชน แต่พอเราได้บวชและได้ศึกษาอย่างจริงจัง ธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ใช่บวชแล้วจะสึกมาแล้วกลายเป็นคนสงบนิ่ง ก็ยังเฮฮากันได้เหมือนเดิม แต่ไม่ผิดศีลเท่านั้นเอง

 ตอนนี้บี้ถือศีล 5 เป๊ะเลยไหม
 เป๊ะนะ แต่มีหลุดบ้างบางครั้ง เช่น ข้อมุสา แล้วแต่จุดประสงค์ มุสาเพื่อที่ว่าจะให้คนที่เขาฟังเราสบายใจ เป็นกุศโลบาย ถือว่าเราไม่บาป กับการที่เราพูดความจริง แล้วคนที่ฟังทุกข์กาย ทุกข์ใจ ทุกข์หนัก เรายอมที่จะมุสาดีกว่า ยอมผิดศีล ทำให้คนที่ทุกข์ใจ กลายเป็นสบายใจ ความต่างก็จะเบาลง เช่นเราทำงานเหนื่อย เป็นไข้ ไม่สบาย พ่อแม่โทรมาถามเป็นไง สบายดีไหมลูก เราก็ตอบไป สบายดี โอ้ย...ไม่เป็นไรเลย นั่นคือเรามุสา แต่มุสาอย่างเบา ถือว่าเป็นการเกิดผลดีต่อฝั่งตรงข้าม ไม่ได้บาปหนักบาปหนาอะไร ทำได้



สู่โลกมายา
 ถามเรื่องงานบ้างจะกลับมาทำงานให้ชมกันเมื่อไหร่
 ประมาณกลางเดือนตุลาคม จะเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ ของค่ายเอ็กแซ็กท์ จะเป็นสไตล์ใหม่ที่บี้ไม่เคยทำแน่นอน ออกอากาศน่าจะต้นปีหน้า ปีนี้ไม่น่าจะทันได้ดู อาจจะฟังเพลงไปก่อน เพราะตอนนี้ทำเพลงเรื่อยๆ อาจจะปล่อยซิงเกิ้ลไปก่อน และอาจจะมีคอนเสิร์ตเล็กๆ จัดมาให้ทุกๆ คนได้ฟังกัน

 ซิงเกิ้ลแรกหลังจากบวช จะเป็นแบบไหน
 สไตล์บี้เป็นป๊อปวาไรตี้หลากหลายอย่างที่หลายคนชอบ ซึ่งวันนี้มีอัลบั้ม เลิฟ ซีรีส์ ออกมา รวมเพลงประกอบละครที่บี้เคยเล่น 4 เรื่องมาให้ฟังกัน อย่างซิทคอม นัดกับนัด จริงๆ อัลบั้มใหม่คือ อิทส์ ออล ไรท์ แต่ที่ได้ฟังกันคือเป็นอัลบั้มเล็กๆ เรียกน้ำย่อย มีเพลงหลัก 3 เพลง และอีก 5 เพลงคือเอา 3 เพลงนั้นมาคัฟเวอร์ใหม่ให้หายคิดถึง แต่ประมาณต้นปีหน้า อาจจะมีอัลบั้มเต็ม 10 เพลง ให้ฟังกัน

 คอนเสิร์ตใหญ่จะมีเมื่อไหร่
 คาดว่าจะเป็นกลางเดือนพฤษภาคมปีหน้า ถึงเวลาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน

 จะมีท่าใหม่ๆ มาให้ได้เต้นตามอีกหรือเปล่า
 ของบี้ก็จะมากับท่าจำ อย่างเพลง จังหวะหัวใจ บ้าง อะไรบ้าง แต่เดี๋ยวคงต้องดูว่า เพลงจะได้ออกเมื่อไหร่ เพราะท่าจำนี่มันคิดยาก ออกแบบยาก นี่ก็ยังสับสน ยังคิดกันอยู่ว่า จะท่าอะไรดี ผมก็มีส่วนช่วยคิด แต่คิดไม่ออก (หัวเราะ) บางครั้งก็คิดไม่ผ่าน เขาไม่ซื้อ



 วันนี้ชีวิตบี้เปลี่ยนไปอย่างไร
 เปลี่ยนเยอะ เมื่อก่อนตอนประกวด เดอะ สตาร์ ก็เรียนอยู่ปีสาม มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ เรียนก็หนักแล้ว ทำงานด้วยยิ่งหนักใหญ่ สิ่งที่เปลี่ยนไปจากตอนนั้นถึงตอนนี้ คือฐานะครอบครัว ตอนนี้ก็พอจะดีขึ้น แต่ไม่ได้รวยล้นฟ้า เราก็ภูมิใจอย่างมาก เพราะตั้งแต่เด็กมีความฝันว่าอยากอัพเกรดฐานะครอบครัวตัวเอง คิดหาวิธีอยากเปิดร้าน ทำธุรกิจ แต่ด้วยความที่เป็นนักศึกษา ไม่มีเงินทุน ใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯ พ่อแม่ส่งเงินให้ใช้เดือนละ 4-5 พัน แค่ใช้กิน ค่าทำรายงาน เอกสาร รับน้อง อะไรต่างๆ ก็หมดแล้ว แต่ก็มีความฝัน แล้วสิ่งที่เปลี่ยนก็อาจจะเป็นประสบการณ์ชีวิต

 เมื่อก่อนเลิกเรียนก็อยู่กับเพื่อน เล่นกีตาร์ เล่นเกมหน้าโรงเรียน อ่านหนังสือบ้าง เพื่อนเป็นคนต่างจังหวัด มาอยู่กรุงเทพฯ ก็มารวมตัวเล่นกันสนุกสนานตลอด แต่พอเข้าวงการ ก็ได้มุมมองที่แตกต่างกันไป การทำงาน การเข้าหาคน รู้จักคนมากขึ้น คนแปลกๆ เยอะขึ้น (หัวเราะ) คนไม่จริงใจ เพราะปกติอยู่มหาวิทยาลัย คนจะค่อนข้างจริงใจ ถ้าไม่จริงใจเขาก็จะแสดงออก ไม่มีสร้างภาพ แต่พออยู่วงการมันก็มีการสร้างภาพ แรกๆ เราก็รับไม่ได้ หลังๆ ก็รับได้ เพราะเรายังต้องอยู่ในวงการบันเทิงนี้อยู่

 คนสร้างภาพเข้ามาแบบนี้ เลือกจะหลีกเลี่ยงหรือทำให้ผ่านพ้นอย่างไร
 ผมเป็นคนชอบคิด แต่ไม่ใช่คนคิดมากจนน้อยอกน้อยใจ เหมือนวิศวะ จะต้องคิดหน้าคิดหลัง คิดที่มา วัตถุดิบ ผลดีผลเสีย ทำแล้วครอบคลุมไหม ผลเสียเป็นยังไง กระบวนการคิดก็เอามาผสมใช้ในชีวิตประจำวัน คนนี้เข้ามา มีจุดประสงค์อะไร เวลามีคนแปลกๆ เข้ามา ก็จะคิดว่าเขาต้องการอะไร แต่พอเจอมากขึ้น รู้ว่าเขาต้องการอย่างนี้ๆ มันไม่อันตรายกับเรา ก็คุยได้ แต่ไม่ให้ความสนิทสนมอะไร ก็เป็นเพื่อนร่วมงานบ้างอะไรบ้าง แต่ไม่สนิทสนม

 กลัวคนจ้องหาผลประโยชน์ไหม
 ไม่ค่อยกลัวนะ เพราะสังคมของผมจริงๆ ไม่ค่อยกว้าง มีเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยบ้าง เล่นละครซิทคอม นัดกับนัด ก็จะอยู่แต่กับกองถ่ายนัดกับนัด เที่ยวก็ไปกับเขา ไม่ค่อยเปิดกว้างไปรับเพื่อนที่เจอกันครั้งสองครั้งแล้วก็เป็นเพื่อน แบบนั้นผมอาจจะไม่ค่อยเปิดรับ มีเพื่อนน้อยและสนิทๆ กัน ดีกว่ามีเพื่อนมาก แล้วก็ไม่ค่อยรู้ว่าเขาเป็นอะไรยังไง เลยไม่กลัว เพราะแต่ละคน ก็รู้จักกันทั้งนั้น อยู่แกรมมี่ เอ็กแซ็กท์ก็รู้จักกันหมด ทุกคนก็โอภาปราศรัยดี แล้วก็มีไปเล่นละครให้ช่อง 3 ก็อบอุ่นดี นักแสดงในกองถ่ายทุกคนน่ารัก นิสัยดี นอกเหนือจากนั้นก็อยู่กับเอ็กแซ็กท์ เลยไม่เจออะไรประหลาดมาก



มีจุดที่ทำให้หลงระเริงบ้างหรือยัง
 จะเป็นการแกล้งกันมากกว่า ไม่ใช่เป็นการหลงระเริงอะไร อย่างไปงาน หรือน้องๆ มาเล่นด้วย ก็จะเฮ้ย...แกล้งอะไร นี่พี่นะ แล้วก็หัวเราะสนุกๆ ไม่มีหยิ่งจริง อะไรจริง

 มีข่าวบี้เคยหยิ่ง
 ไม่นะ จริงๆ ผมเป็นคนชอบทำอะไรด้วยตัวเอง หลายๆ อย่างที่ทีมงานทำให้ ก็เป็นหน้าที่ของเขา และเราก็ทำหน้าที่ของเรา แต่พอกลับบ้าน ถึงห้อง ก็ทำทุกอย่างเอง ซักผ้าเอง เก็บห้องเอง ไม่ได้มีแม่บ้าน เพราะกลัวของหาย ไม่ได้กลัวเขาขโมยของเราไป แต่กลัวเขาไปวางไว้ในที่ๆเราไม่รู้ กลัวจะหายไป อยู่บ้านก็จะทำเองทุกอย่าง ปกติก็จะขี้เกียจหน่อย ผ้ากองไว้ให้เยอะก่อน ค่อยไปซักทีเดียว (หัวเราะ) ไม่ได้ยึดติดกับการที่คนมาประเคนให้

 แฟนคลับเยอะมาก ถ้าวันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีแฟนคลับล่ะ
 คงรู้สึกแปลก เฮ้ย...แฟนคลับหาย แต่ก็อย่างที่บอก ไปบวชมาแล้ว ก็ทำให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมา ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ไม่มีอะไรยั่งยืน วันหนึ่งสมมุติเดินไปโดนรถชนขาขาด ทำงานไม่ได้ ไม่มีเพลงร้อง ละครก็ไม่มีเล่น แฟนคลับก็จะหดไป เพราะเราไม่มีผลงานให้เขาติดตาม แฟนคลับก็ต้องหดหายไป เป็นเรื่องธรรมดา จริงๆ ไม่ได้เตรียมใจตั้งรับ เพราะถ้าอย่างนั้น มันจะเป็นความทุกข์ในใจเราลึกๆ ถ้ามันจะเจอเดี๋ยวมันก็จะเจอเอง

 "เบิร์ด" ธงไชย แมคอินไตย์ บอกว่า บี้ ตามรอยความเป็นซูเปอร์สตาร์
 จริงๆ ไม่ได้ตามรอยเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่อยากจะตามรอยสิ่งที่ดีงามของเขา เรื่องความมีวินัย การเอ็นเตอร์เทนบนเวที ความน่ารัก เสน่ห์ การเต้น ก็จะดูคอนเสิร์ตพี่เบิร์ดที่บ้านบี้เยอะมาก จะรู้สึกว่าพี่เบิร์ดเวลาเล่นคอนเสิร์ตน่ารักจังเลย มียิ้มมีแหย่ อยากตามรอยของเขาตรงนั้น แต่การจะตามรอยเหยียบย่ำไปเป็นซูเปอร์สตาร์ด้วย คงไม่ใช่ เพราะเขาก็เป็นหนึ่งในไอดอลของเรา

 คิดว่าประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง
 ลึกๆ แล้วในส่วนตัวเอง แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ ทุกอย่างเกินความคาดหมาย แต่ในสายตาคนอื่นอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะมีงานเยอะก็จริง เพราะละครก็ยังเล่นไม่ได้ดี ยังมีคนเก่งกว่าเราอีกเยอะ ร้องเพลงก็ไม่ใช่เสียงดูดี พอร้องได้ เอ็นเตอร์เทนก็พอจะทำได้ พอจะทำแล้วมันไม่เครียด แต่ในใจเราก็มาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จแล้ว

 เรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ คิดจะเอามาทำงานอะไรบ้างไหม
 มีคิดกันกับเพื่อน อยากเปิดร้านเกี่ยวกับอุปกรณ์วิศวะ ไม่ว่าจะเป็นอะไหล่มอเตอร์ หุ่นยนตร์โครงงานต่างๆ รับจ้างผลิตต่างๆ แต่ตอนนี้ก็รอ เพราะเพื่อนคนหนึ่งออกไปเรียนปริญญาโท คนหนึ่งออกไปทำงานหาประสบการณ์ รอเงินทุน น่าจะอีกสัก 2 ปี แล้วเราค่อยกลับมารวมตัวกัน น่าจะเปิดที่ จ.เชียงใหม่ เพราะเป็นบ้านของเราด้วย เพื่อนอยู่ที่นั่น เพราะถ้าไม่งั้นมาเปิดที่กรุงเทพฯ เราต้องบริหารเอง จะลำบาก ให้เพื่อนบริหารแล้วเราร่วมแจมดีกว่า 



ข่าวเป็นเกย์
 ตอนแรกก็งงๆ เข้าวงการใหม่ๆ ก็ไม่เข้าใจ ข่าวมีการกระเซ้าแหย่ ไม่เข้าใจทำไมเขาต้อง ว่าเราเป็นเกย์ด้วย มีแฟนก็ว่าสร้างภาพ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนปลงตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่ทะเลาะกันก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ข่าวก็คือข่าว คนโดนหนักกว่าบี้ก็มีเยอะ

 เส้นทางสายนี้โรยด้วยกลีบกุหลาบไหม
 เป็นบางเวลา บางโปรเจกท์ อย่างละครเวที นี่เป็นงานที่หนักมาก เสียทั้งเหงื่อ และน้ำตา ละครทีวีก็เหมือนกัน แรกๆ ก็เล่นไม่ได้ อ่วมอรทัยเหมือนกัน ก็ต้องเรียนร้องเรียนเต้น เรียนการแสดงเยอะขึ้น ทุกวันนี้เบาลงแล้ว

 ต้องทำอย่างไร ถ้าเดอะสตาร์รุ่นต่อไปอยากจะเป็นแบบบี้
 ฝากถึงน้องๆ ทุกคน ใครอยากทำความฝันให้เป็นจริง ถ้านอนอยู่กับบ้าน ความฝันจะลอยมาหาเรายาก เราต้องไขว่คว้าโอกาสด้วยตัวเอง ต้องเดินทางตามความฝัน ผมคิดว่าความฝันไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน



โลกสีชมพู ?
 วันนี้หัวใจว่างหรือเปล่า
 ว่าง แล้วก็มอบให้ครอบครัว เพื่อน คุณพ่อคุณแม่ งานการ เที่ยว ส่วนตัว

 จำได้ก่อนเข้าประกวดบี้เคยมีแฟน
 ใช่นานมากแล้ว แต่หลังจากนั้น ก็มีคนที่เลี้ยวไปเลี้ยวมาบ้าง แต่เราทำงานตรงนี้ เลยไม่มีเวลาให้เขาเต็มที่ ก็จากกันไป เป็นอย่างนี้ตลอด การเจอตัวจริงที่เข้าใจเราเป็นเรื่องยาก เพราะเราทำงานข้ามวันบ้าง อยู่ดีๆ บอกไม่มีงาน ก็มีงานเข้า

 การเป็นคนดังมีแฟนลำบากไหม
 ไม่น่าจะลำบากนะ เพราะความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม การให้ความเข้าใจ การให้อภัย คนมีความรักก็ทำให้โลกสดใส คนไม่มีถามว่าเหงาไหม ก็เหงา แต่ผมไม่ได้เหงา อย่างที่บอกมีเข้ามาอยู่เรื่อยๆ แต่เขาเข้ามาปุ๊บ ก็ทนไม่ได้ เพราะงานเราเยอะ ก็ต้องออกไป แต่เราก็เข้าใจหัวอกเขา ต่อไปก็อยู่กับเพื่อนก็ได้ ก็มีความสุข

 ผู้หญิงในอุดมคติ
 ไม่มี ขอแค่จริงใจ เข้าใจการทำงานของเรา สำคัญมาก เพราะงานเราไม่เป็นเวลา เอาแน่นอนไม่ได้ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ก่อนเข้าวงการดาราคนนี้สวย คนนั้นก็น่ารัก อยากมีแฟนแบบนี้ แต่พอเข้าวงการมา ก็ได้รู้จักเขา ก็น่ารักดี แต่ไม่คิดจะจีบหรืออะไร

 ข่าวกับวิว (วรรณรท สนธิไชย)
 น้องวิวเราเจอกันจากการถ่ายละครดอกรักริมทาง เจอหน้ากัน อยู่ในกองถ่ายแทบด้วยกันแทบจะทุกวัน ก็จะสนิทกันมากเป็นพิเศษ ไม่มีอะไร

 คิดอยากแต่งงานไหม
 เคยแอบคิดว่าอยากแต่งงานสักอายุ 24 แต่ตอนนี้อยากแต่งตอน 35 ถ้าอายุ 35 ก็น่าจะประมาณพี่มอส (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) อีกสัก 11 ปี ก็น่าจะเก็บเงิน มีครอบครัวได้ ถ้าเรายังอยู่วงการนี้ 

 เส้นทางรักนี้อีกยาวไกลฉันใด เส้นทางในวงการบันเทิงก็ยิ่งไปได้ไกลขึ้นฉันนั้น ... 



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์