ปีเตอร์ ทำคะแนน อาสาดูแลว่าที่ พ่อตาแม่ยาย

เป็นหนังไทยเรื่องแรกที่เขาเล่น


ผมมีความรู้สึกว่าควรเป็นกำลังใจให้เขาและอยากดูด้วย วันนี้มากับคุณพ่อคุณแม่ของโอซาด้วย ซึ่งวันนี้โอซาคงยุ่งๆ ผมเลยรับหน้าที่เทกแคร์และดูแลพ่อแม่ของเขาแทนครับ"

หนุ่ม "ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล" เผยถึงการมาให้กำลังใจแฟนสาว "โอซาแวง"

หนึ่งในนักแสดงสาวในหนังเรื่อง "สวยลากไส้" ในวันเปิดตัวหนังรอบสื่อมวลชน อีกทั้งยังรับหน้าที่ดูแลว่าที่พ่อตาแม่ยายที่เดินทางมาจากสิงคโปร์เพื่อเป็นกำลังใจลูกสาว


ไถ่ถามว่า ณ วันนี้เข้ากับคุณพ่อคุณแม่ของโอซาแวงได้มากน้อยแค่ไหน


ปีเตอร์กล่าวว่า "ก็ดีครับ คุยกันได้ดี ทั้ง 2 ท่านเป็นคนน่ารักมาก นิสัยค่อนข้างเป็นฝรั่งมาก ผมคุยง่ายอยู่แล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันก็รู้สึกว่าเข้ากันได้ดี พ่อแม่ของโอซาสบายๆ ครับ คุณพ่อของโอซาแนะนำเรื่องการทำธุรกิจกับผมค่อนข้างเยอะ เพราะพ่อของเขาเป็นนักธุรกิจครับ

พูดง่ายๆ คือตอนนี้พ่อแม่ของฝ่ายหญิงไฟเขียวเต็มที่

"ตรงนี้ผมไม่ทราบ ไม่เคยถาม (หัวเราะเสียงดัง) ก็แฮปปี้ครับ แต่ในวิธีการของสิ่งที่ผมชินหรือของฝรั่งมันก็เป็นอะไรที่ง่ายๆ สบายๆ

อย่างเมืองไทยจะมีความแตกต่างที่ผมรู้สึกชัดเจนคือ

ถ้าเราเจอคนที่อาวุโสกว่าเรา เราจะมีความนับถืออย่างมาก มีการถ่อมตนกันอย่างยิ่ง แต่ฝรั่งแน่นอนว่าถ้าเจอกันก็เคารพกันอยู่แล้วเนื่องจากเป็นคนที่มีประสบการณ์มากกว่า แต่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ซีเรียสเท่าคนไทยที่เป็นกัน"


มองไกลถึงขั้นแต่งงานหรือยัง


"ยังครับ ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะต่างคนต่างมีงานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลาที่จะมานั่งคิดจุดนี้"

วางลิมิตหรือเปล่าว่าเมื่อไหร่จะมองเรื่องการมีครอบครัวและการแต่งงาน

"ไม่มีครับ อย่างแบร็ด พิตต์ เขายังอายุ 40 กว่าถึงแต่งงาน ตัวผมยังมีเวลาอีกเยอะอายุแค่ 31 ปีเท่านั้น"


คบกันแบบนี้คุณพ่อคุณแม่ของโอซาแวงซีเรียสอยากให้ลูกเขาแต่งงานหรือเปล่า


นักร้องหนุ่มกล่าวว่า "ผมว่าพ่อแม่ทุกคนก็หวังให้ลูกแต่งงานก่อนที่อายุจะมากเกินไป ผมไม่เคยคุยกับเขา แต่ผมทราบว่าแม่ของผมก็ยังหวังอยากให้ผมมีภรรยาและมีหลานเร็วๆ เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ใหญ่ ตรงนี้ผมเข้าใจแต่จะไปเร่งตัวเองมันก็เข้าเรื่องเดิมอีก เรื่องพวกนี้มันควรเป็นไปตามธรรมชาติครับ"

ข่าวว่าย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้ว

"จริงๆ โอซาเขาอยู่ฮ่องกงก็มีบินไปๆ มาๆ ช่วงนี้เขาใช้เวลาอยู่เมืองไทยเยอะหน่อยเพราะเป็นช่วงโปรโมตหนังด้วยและแน่นอนว่าเขามาเมืองไทยจะไปเช่าห้องในโรงแรมอยู่ผมก็ว่าเสียดายตังค์ครับ


กลัวโดนวิจารณ์เรื่องอยู่ก่อนแต่งหรือเปล่าเพราะคนไทยค่อนข้างรับไม่ได้กับตรงจุดนี้


"จริงๆ แล้วถ้าพูดถึงวัฒนธรรมไทยอาจจะเป็นอะไรที่ไม่สมควร ผมว่าในบ้านเราวัยรุ่นหรือคนที่จะเป็นผู้ใหญ่ก็มีมากขึ้น ๆ อยู่แล้วที่ไม่ได้หนีวัฒนธรรมไทย แต่มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับอะไรที่มันทันสมัยขึ้น อย่างบางคนที่มองว่าไม่ดีก็คงจะมีบ้าง บางคนมองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติก็คงจะมีบ้าง

สำหรับผมไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ผิดปกติ

อะไรที่รู้สึกว่าทำแล้วเป็นธรรมชาติมันก็คงไม่ได้ผิดอะไรมากมาย อย่าลืมว่าผมเป็นคนๆ หนึ่งที่เกิดและโตที่เดนมาร์ก ย้ายมาอยู่เมืองไทยตอนอายุ 19 ปีแล้วไม่ได้เด็กมาก ความคิดอะไรบางอย่างก็เอามาจากที่โน่นครับ"


อย่างนี้เหมือนเป็นการทดลองใช้ชีวิตด้วยกันหรือเปล่า


"มันก็เป็นอะไรที่คล้ายกับการทดลองดูกันไปดูกันมามันก็เริ่มตั้งแต่วันแรกที่คบกันที่เราต้องเริ่มดูนิสัยกันแล้วล่ะ และก็อยากเรียนรู้มากขึ้นๆ ทุกวันๆ และเวลาผ่านไปมันก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนเรารู้จักและสนิทสนมกันมากขึ้นๆ อยู่แล้วครับ"


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์