ตัวตนคนแบบณเดชน์ คูกิมิยะ

พระเอกดาวรุ่งมาแรง

 @ ตอนนี้มีแฟนคลับเยอะมากทั่วบ้านทั่วเมืองกำลังหลงใหลกับ "อัคนี" ในละคร "4 หัวใจแห่งขุนเขา" ไปแล้ว 
 อย่างแรก ต้องขอบคุณแฟนคลับ รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่ทางบ้าน หรือจะเป็นพี่ป้าน้าอาทางบ้าน ที่แบบว่าให้กำลังใจและให้โอกาสนักแสดงหน้าใหม่ ไม่ใช่ผมคนเดียว แต่เป็นทุกคนได้เข้ามาในวงการ ได้มาโชว์ความสามารถ อยากจะขอบคุณ และทุกวันนี้ก็ได้แฟนคลับและก็ผู้ชมทางบ้านที่คอยให้กำลังใจและก็คอยเปิดโอกาสให้ตลอด

 @ ตัวตนของณเดชน์ ใจร้อน มุทะลุเหมือน อัคนี ในละครไหม
 ชีวิตจริงนิ่งๆ แตกต่างอย่างสิ้นเชิง แต่ความทะเล้นในตัวไฟมันมีอยู่ในช่วงวัยผม ความทะเล้น ความทะลึ่งหรือการพูดการจา การต่อล้อต่อเถียงมันมีอยู่ แต่ความโกรธมุทะลุมันไม่ใช่ผม

 @ เรื่องนี้เล่นคู่กับ "ญาญ่า" อุรัสยา มีหลายคนอินมากจนกลายเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ไปแล้ว
 น้องญาญ่าเป็นคนเล่นละครเก่ง น้องทำการบ้านมาดี เป็นที่เอ็นดูของคนทุกคนในกองเลย ถ้าใครได้รู้จัก คงจะดีใจ เวลาเข้าบทเข้าฉากก็มีป้าแจ๋ว (ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์) คอยเป็นผู้กำกับ ช่วงแรกๆก็จะเกร็งกัน ต่อบทกันก็ติดๆ ขัดๆ แต่พอเข้าขากัน เล่นกันง่ายขึ้น ไม่เกร็ง แต่ถ้ามีเลิฟซีน ต้องขอโทษกันก่อนเข้าฉาก ซึ่งเรื่องนี้ดูเหมือนบทเลิฟซีนจะเยอะ แต่ส่วนมากจะเป็นการหลบมุมกล้องเอา จะมีจูบจะมีหอมแก้ม ต้องขอโทษน้องก่อน และเวลาถ่ายเสร็จก็ต้องขอโทษอีกที พอเล่นไปก็เขินไป ผมก็เกร็ง น้องก็เกร็งยิ่งกว่า

 @ มีข่าวออกมานอกกองด้วยว่าคู่นี้แอบมีรักกันนอกจอ ความจริงเป็นยังไง
 จริงๆ ผมปลื้มในฐานะที่ผมเป็นพี่ของเขา น้องเป็นคนที่น่ารัก น่าเอ็นดู เล่นละครเก่ง นิสัยก็ดี น้องเป็นคนมีน้ำใจ ตั้งใจทำงาน ผมชอบตรงที่เขาตั้งใจทำการบ้าน บทเป๊ะหมด ผมนี่จะเป็นตัวทำเทกตลอด (ยิ้ม)

 @ รู้สึกกดดันไหมที่เป็นดารารุ่นใหม่ไฟแรงที่เป็นความคาดหวังของช่อง 3
 ไม่ใช่ความคาดหวังของช่อง 3 หรอก ที่จริงทุกคนก็เป็นลูกรักของช่อง 3 น้องบอย พี่หมาก น้องคิมเบอร์ลี่ ก็อยากทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดเพื่อผู้ใหญ่ที่ช่องจะได้เมตตาและปรานี จะได้มีละครอีก

 @ ผ่านการแสดงมาแล้ว 2 เรื่อง เริ่มติดอกติดใจ ชอบการแสดงแล้วหรือยัง
 ผมว่าเรื่องแรกยังไม่ค่อยติดไม่รู้สึกอะไรเลย แข็งทื่อเป็นตอไม้ แต่พอมาเรื่องที่สอง พยายามที่จะปรึกษาครู แอ็กติ้งโคช อ่านบทเยอะๆ คิดคาแรกเตอร์ของตัวเอง ทำให้แบบว่ามันดูน่าสนใจ มันมีอะไรที่มากกว่าคนภายนอกมองเห็น จากการแสดง จริงๆ ผมเป็นคนที่ช่วงสมาธิสั้น บางทีการจำบทมันจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทำเทกเยอะ (เทกมากที่สุดเท่าไหร่) ประมาณ 20 เทก เขาบอกว่าหน้าตาได้ อารมณ์ไม่ได้ ตอนนั้นรู้สึกอยากจะร้องไห้ เป็นซีนสุดท้ายแล้วที่ต้องถ่ายในวันนั้น ทุกคนก็มารอว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ หลังจากครั้งนั้นมา ทำให้เราแอ็กทีฟตัวเองขึ้นมาแบบว่าทำการบ้านเยอะขึ้น สนใจการแสดงดูละครเยอะขึ้น เมื่อก่อนผมไม่ดูเลย ตอนนี้มีเวลาว่าง ก็พยายามที่จะศึกษา

การวางตัวในโลกมายา

 @ ชีวิตของ ณเดชน์ ตอนนี้กับก่อนเข้าวงการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน
 เปลี่ยนอยู่ เปลี่ยนในเรื่องของเวลาส่วนตัว เรื่องของบางสิ่งบางอย่างที่เราอยากทำ เช่น อยากมีเวลาส่วนตัวไปดูหนัง ฟังเพลง นานๆ ทีถึงได้ไป ตามจริงผมชอบดูหนังมาก แต่ว่าก็ไม่ค่อยได้ไปแล้วเดี๋ยวนี้ อยากไปเรียนมวย อยากไปเรียนกลอง ก็ยังไม่มีเวลาลงล็อก จะไปกินข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีเวลา 

 @ หลังจากเราเข้ามาในวงการบันเทิง เดินแบบ เล่นละคร ทำให้การเรียนตกลงบ้างไหม การเรียนเป็นยังไงบ้าง
 พอเข้ามหาวิทยาลัยก็โอเคเลย เหมือนกับว่าเรารู้ว่าเราเรียนมหาวิทยาลัยนะ เวลาที่เราจะไปเรียนก็น้อยอยู่แล้ว บางทีก็ไม่ค่อยได้ไปเข้าห้อง ไปสายบ้าง เราก็ต้องตั้งใจอ่านหนังสือ แล้วก็สอบทำคะแนนส่งงานให้ครบ อาจารย์ก็เลยเห็นความตั้งใจของเรา ไม่ได้แบบว่ากดคะแนน อาจจะให้เพิ่มด้วยซ้ำ (ยิ้ม) เพื่อนๆ ก็จะคอยช่วย บางทีผมไม่รู้ว่ามีงานอะไร เพื่อนก็โทรมาหาผม บอกว่ามีงานนี้จะอยู่กลุ่มเดียวกันไหม ผมก็ว่าดี ขอบคุณมาก

  ตอนเข้าวงการแรกๆ ต้องนั่งรถตีกลับกรุงเทพฯ-ขอนแก่น 
 คือผมว่ามันก็ท้าทายจิตใจตัวเองอีกแบบนะ บางทีมันก็ได้ลบคำสบประมาทของเพื่อนๆ บางคนที่บอกว่าทำไม่ได้หรอก เรียนไปทำงานไป เดี๋ยวก็ไม่ได้อะไรสักอยาก แต่ว่าทำให้เรามีแรงบันดาลใจและฮึดสู้ คือนั่งรถทัวร์ก็อาศัยนั่งตอน 5 ทุ่ม นั่งมาสัก 6 ชั่วโมง ก็มาถึงตี 5 มาถึงวันนี้ได้เราก็ภาคภูมิใจในสิ่งที่เราทำ เราก็ไม่ได้เสียทั้งเรื่องงานและเรื่องการเรียนด้วย

 @ วางแผนชีวิตเกี่ยวกับการเป็นนักแสดงไว้อย่างไร
 ตอนนี้ก็จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด จะไม่คิดว่าอีกกี่ปีจะต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ต้องคิดถึงวันพรุ่งนี้ อนาคต หรือคิดถึงวันหลัง

 ชีวิตครอบครัว

 @ เห็นบอกว่าเป็น ณเดชน์ เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ลองพูดให้ฟังหน่อย
 เว้าจังได๋ล่ะนี่ (หัวเราะ) ที่จริงพูดๆ ไป ก็เป็นขำๆ เป็นมุกอย่างหนึ่ง จริงๆ ผมก็ดีใจ ที่ผมได้เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น และผมก็ดีใจมากที่สุดที่ผมได้เป็นคนไทย  
 

 @ ระหว่างคุณพ่อคุณแม่สนิทกับใครมากที่สุด   
 เวลามีอะไรจะคุยกับคุณพ่อ แต่บางเรื่องก็จะปรึกษาคุณแม่ เรื่องที่ผู้ชายคุยกัน ก็จะคุยกับคุณพ่อ คุณพ่อเป็นคนมีระเบียบสูง เรื่องเวลา การแต่งตัว การเก็บเงิน เรื่องการมองอนาคต คุณพ่อจะมองถึงอนาคตเสมอ ผมก็เลยได้อะไรมาจากคุณพ่อด้วย คุณพ่อเป็นไอดอล เป็นซูเปอร์แมนของเราเลย ส่วนคุณแม่เป็นวันเดอร์เกิร์ล จะดูแลเรื่องอาหารการกิน เรื่องนิสัย การปลูกฝัง เรื่องจิตสำนึกคอยสอนตลอด ถ้าจะปรึกษาคุณแม่ ก็จะคุยเรื่องผู้หญิง หรือเรื่องการเรียนก็จะคุยกับคุณแม่ เรื่องจะจีบสาวก็อยากจะปรึกษากับคุณพ่อมากกว่า คุณแม่ก็ไม่ว่าอะไร ตามใจเรา ถ้าลูกชอบแม่ก็ชอบ

 @ ระหว่างสาวไทยกับสาวญี่ปุ่นใครน่ารักกว่ากัน  
 สาวญี่ปุ่นก็น่ารัก แต่สาวไทยน่ารักกว่า (ยิ้ม)  
 นิสัยใจคอดี น่ารัก ทำอาหารเก่ง เป็นแม่ศรีเรือนก็พอแล้ว รูปร่างหน้าตาก็มีบ้าง ผมเป็นคนรักจริง แต่ผู้ชายทุกคนก็มีความเจ้าชู้อยู่กับตัวอยู่แล้ว ผู้หญิงก็เจ้าชู้นะ หมายถึงว่าคบคนโน้นแล้วก็คบคนนี้อีก ไม่ได้มองว่าเป็นชู้รัก ชู้สาว 

 @ พร้อมหรือยังที่จะศึกษาใครสักคน
 จริงๆ ผมคิดว่าเราศึกษาตั้งแต่เราเรียนอยู่ประถม มัธยมอะไรมาเรื่อยๆ ศึกษาว่าเราอาจจะชอบผู้หญิงคนนี้ เพราะว่าความรักเป็นเรื่องที่ดี ทำให้โลกนี้สดใส ทำให้คนมีความสุขมีกำลังใจ ทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ว่าถ้าเรารักไม่ถูก มันก็จะมีผลเสียกลับมา ถ้ารักถูกกาลเทศะ รักให้ถูกเวลา เวลาแบบนี้ควรรักแบบไหน มันก็จะทำให้ชีวิตของคุณมีความสุข 

 @ สาวๆ จะผ่านด่านคุณแม่ยากไหม
 ไม่ ถ้าคุณแม่มั่นใจ คุณแม่ก็ปล่อย มั่นใจในความคิดของลูกชาย แต่อันไหนที่ไม่ดี ไม่เหมาะคุณแม่ก็จะคอยบอกอยู่เสมอ ถ้าผมชอบใคร ก็จะบอกแม่ว่าผมชอบคนนี้จังเลย คุณแม่ก็บอกว่าจีบสิลูก รู้จักกันไว้ไม่เห็นเป็นไรเลย ลูกชายรักใครคุณแม่ก็รักอย่างนั้น 

 ต้องบอกเลยว่ายิ่งพูดคุย ยิ่งรู้จัก ยิ่งตกหลุมรักหนุ่มน้อย ณเดชน์ เข้าจังเลย

เขาคนนี้ชื่อ ณเดชน์ คูกิมิยะ (แบรี่)
เกิด 17 ธันวาคม 2534
การศึกษา ปี 1 สาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ผลงานสร้างชื่อ เงารักลวงใจ
ผลงานปัจจุบัน สี่หัวใจแห่งขุนเขา ตอน ดวงใจอัคนี

เรื่อง... "ดวงใจ สอาดจิตต์"