เปิดค่ายเพลง หม่ำ บอกแค่สนองความอยาก

เปิดค่ายเพลง "หม่ำ" บอกแค่สนองความอยาก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 สิงหาคม 2548 20:57 น.

ประสบความสำเร็จจากการแสดง ผู้กำกับหนังโด่งดังเป็นพลุแตก ออกพ็อกเก็ตบุคส์ก็ขายดิบขายดีโกยเงินเข้ากระเป๋าเป็นว่าเล่น นึกสนุก เสี่ยหม่ำ จ๊กมก เลยทุบกระปุกเปิดค่ายเพลงเล็กๆ ลำน้ำชี ร่วมกับหุ้นส่วน พ.ต.ท กุลธร ประจวบเหมาะ เอาใจคอเพลงคนอีสาน ไม่เน้นยอดขายแต่ทำเพื่อสนองความส่วนตัวเท่านั้น

"ก็จะบอกว่านึกสนุกก็ได้นะไมรู้จะทำอะไร ไหนก็จะทำแล้วก็ทำให้มันดูดีๆ หน่อยทำให้มันจะๆ แจ้งๆ ไปเลย คนที่ร่วมลงทุนด้วยพี่ต้นก็รู้จักกันเกือบปีได้แล้ว เพราะเขารู้จักเรื่องการขายด้วยแต่ในส่วนของตัวเราเราไม่รู้ แนวเพลงก็จะเป็นลูกทุ่ง หมอลำแล้วก็อีสานเบอร์แรกเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ในเรื่องแหยมยโสธร"

"เริ่มๆ ก็ยังเตรียมกันอยู่ยังไม่ได้ครบเซ็ต คาดว่าน่าจะเข้าที่เข้าทางไม่เกิน 3 - 4 เดือนข้างหน้า ในเรื่องของเพลงดนตรี ผมเป็นคนดูแล เพลงผมเลือกเอง ศิลปินผมเลือกเอง จัดจำหน่ายเรื่องขายก็พี่ต้น พ.ต.ท กุลธน ประจวบเหมาะ มี 2หุ้นรู้จักกันมาสักประมาณเกือบปี"

กลัวจะเข้าทำนองเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเลยต้องมีข้อตกลงกันก่อนล่วงหน้า
"ผมบอกไว้ก่อนเลยว่าพี่ถ้าอันไหนไม่โปร่งใส พี่ไม่โปร่งใสผมไปเองนะไม่ต้องห่วง ถ้าวันไหนผมไม่โปร่งใสผมไปเองแฟร์ๆ เอาความชัวร์ๆเลยผมไม่หนักใจสะใจมากกว่า ได้ทำอีกอย่างแล้วนี่ก็เริ่มรู้ทีละหน่อย จากไม่รู้เรื่องขายก็เลยรู้เรื่องขายแล้วจากวิธีที่วางแผนเราก็ได้รู้ สนุกดี"

ไม่ซีเรียสหากอนาคตไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง
"ถ้าผมประสบความสำเร็จแสดงว่าผมเป็นคนที่กล้าทุกคนก็ต้องกล้าให้เหมือนผม กล้าที่จะแสดงออก กล้าที่จะทำถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็รู้สึกเฉยๆ ถ้า 4 - 5 เบอร์ไม่ดีเราก็ถอยแค่นั้นเอง เราก็ได้รู้อีกเรื่องนึงเท่านั้นเองง่ายๆแนวนี่ต้องเป็นลูกทุ่ง หมอลำ อีสานและก็เพื่อชีวิตอีสานมันก็เหมือนกันนี่แหละลูกทุ่งก็คือลุกทุ่ง ผมเป็นคนอีสานอีกอันผมเป็นคนที่รักลูกทุ่งด้วยรู้สึกว่าเพลงนี้เราชินและคุ้นหู"

ลูกสาวคนสวยอาจมีโผรายชื่อเป็นศิลปินคนถัดไปของค่าย
"ไม่มีแววลูกผมไม่มีแวว ผมไม่ได้แข่งกับใครผมก็เปิดตามประสาบ้านนอกๆของผมไม่เกี่ยวกับผมเขาก็เป็นค่ายของเขาอยู่แล้ว คือผมค่ายเล็กก็ทำตามประสาของผม ตอนแรกนะคิดที่จะเดินเข้าค่ายใหญ่ คิดไปคิดมาทำไมเราไม่ทำเองมันจะไม่สนุกกว่าเหรอ สะใจกับสนุกมากกว่าเรื่องอื่นไม่ได้คิด ลืมเรื่องได้เรื่องเสียไปเลย"

"ตอนนี้ศิลปินเบอร์สองผมกำลังดูอยู่ เสียงเขาโดนใจแต่หน้าตาไม่โดนใจผมมากหน้าตาน่าจะโดนอย่างอื่น เป็นลูกน้องในคณะนี่แหละ ร้องไปร้องมาเออมันก็เสียงดีนะเลยชวนมาเป็นนักร้อง ถามว่ามั่นใจมันก็ประมาณหนึ่งละเพลงนี้เป็นประกอบภาพยนตร์ในเรื่องแหยมยโสธร แต่ทั้งหมดได้ไม่ได้ช่างมัน แต่ได้รู้อีกเรื่องนึง"

มุทำงานหนักหวังเกษียณตัวเองในอนาคตอันใกล้ แต่อาชีพตลกสุดรักเจ้าตัวบอกจะไม่มีวันทิ้งเด็ดขาด
"ต้องบอกว่าทำงานเป็นเรื่องของการทำงานมากกว่าชอบทำก็กะว่าวันข้างหน้าอีกไม่กี่ปีจะเกษียณตัวเองไม่แน่นะ คือมันเหนื่อยมามากก็เพื่อครอบครัวนั่นแหละ เรื่องลูกเรื่องเต้ากะจะทีเดียวไปเลย จบๆ ไปเลย ส่วนอาชีพตลกไม่ทิ้งครับ อาชีพตลกเป็นอาชีพที่ผมรักมาก เทิดทูนและบูชามากที่ผมอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะอาชีพนี้ ผมรักอาชีพนี้มาก"