สุดแค้นแสนปรี๊ด! ยืนยันจากปากผู้กำกับ อีแย้ม ไม่ได้ร้ายเกินไป

ตำแหน่งสุดยอดละครม้ามืดแห่งปีนี้คงจะไม่มีเรื่องไหนเกิน "สุดแค้นแสนรัก" ที่กระแสมาแรงถูกพูดถึงกันทั้งบ้านทั้งเมืองในตอนนี้ ที่ต้องจัดว่าเป็นม้ามืดก็เพราะว่าช่วงถ่ายทำและก่อนออกอากาศนั้นไม่มีข่าวคราวโปรโมตมากนัก อีกทั้งนักแสดงวัยรุ่นในเรื่อง ไม่มีระดับพระ-นางคู่จิ้นของวงการมาดึงบรรดาติ่ง มีแต่นักแสดงหน้าใหม่เกือบทั้งหมด

ความสำเร็จของ "สุดแค้นแสนรัก" ไม่ใช่เรื่องฟลุก เพราะดูชื่อผู้จัด ผู้กำกับ "กฤษณ์ ศุกระมงคล" และนักแสดงหลาย ๆ คนเชื่อมือได้ระดับหนึ่ง

กฤษณ์ ศุกระมงคล ผู้จัดและผู้กำกับการแสดงของเรื่อง พูดคุยถึงการทำละครสุดฮอตเรื่องนี้ว่า ความสำเร็จของละครเรื่องนี้ สิ่งแรกต้องยกความดีความชอบให้กับบทประพันธ์ที่เขียนมาดีมาก การันตีด้วยนักแสดง นักแสดงทุกคนลังเลที่จะเล่น เพราะไม่เคยแสดงบทพ่อแม่ที่มีลูกโตขนาดนี้ แต่เมื่อเอาบทให้อ่าน ไม่มีใครปฏิเสธสักคน 



ถามว่ากดดันไหมที่ออกอากาศในช่วงเดียวกันกับละครฟอร์มยักษ์ อย่าง เลือดมังกร และ กลกิโมโน ผู้กำกับอารมณ์ดีบอกเลยว่า "ไม่ เพราะค่อนข้างมั่นใจในบทที่เขียนโดย จุฬามณี (นิพนธ์ เที่ยงธรรม) และจากที่มั่นใจอยู่แล้ว พอนักแสดงตอบรับมาทุกคน ก็ยิ่งทำให้มั่นใจขึ้นไปอีก" 

พูดถึงองค์ประกอบสำคัญของละครก็คือการเลือกนักแสดง คนแรกคือ "แย้ม" ตัวละครที่พีกที่สุดและปรี๊ดแตกบ่อยที่สุดของเรื่องที่แสดงโดย รัดเกล้า อามระดิษ ผู้กำกับกฤษณ์บอกว่า "เป็นตัวที่หายากมาก ตอนแรกเล็งไว้หลายคนที่เล่นทางนี้อยู่แล้ว แต่คิวไม่ตรงกัน จากนั้นได้เห็นรัดเกล้าเล่นหนังจันดารา ก็เลยคิดว่าคนนี้ดีไหม เพราะรู้ว่าเขาเล่นได้แน่ ๆ ตรงกับบทแน่ แต่ไม่รู้ว่าคนดูจะตอบรับยังไง เพราะเขาไม่ได้มาจากทางละครทีวี 

ฝั่งพี่แหม่ม จินตหรา นั้นชวนมาเล่นด้วยความสนิทสนมกัน ส่วนเรื่องความสามารถไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว มาถึงรุ่นลูกเบนซ์กับโดนัท ติดต่อไปสองคนให้เขาเลือกกันเองว่าใครอยากเล่นบทไหน เพราะเราคิดว่าฝีมือเขาพอกัน สามารถเล่นสลับกันได้ทั้งสองบท แต่จริง ๆ ก็อยากได้แบบที่ออกมานี่แหละ พอดีเขาเลือกกันเองมาตามที่เราอยากได้

ส่วนนักแสดงรุ่นหลาน วางตัวรุ่นโตไว้ก่อน หลายคนเป็นเด็กในช่อง แล้วมาหาตัวรุ่นเล็กโดยแคสเด็กใหม่ทั้งหมด ต้องหาคนที่เล่นได้และหน้าตาใกล้เคียงกับตอนโต บางคนหน้าคล้ายแต่เล่นไม่ได้ บางคนเล่นได้แต่หน้าไม่คล้าย ก็ต้องคัดคนที่ใกล้เคียงที่สุด" 

ถึงแม้จะเป็นละครที่ตัวละครเยอะ วุ่นวายพัวพันกันไปหมด แต่ผู้กำกับบอกว่าการถ่ายทำไม่ยาก ด้วยความที่ได้บทประพันธ์ที่ดี ตัวละครเข้าใจง่าย โดยเฉพาะในพาร์ตของรุ่นใหญ่ ที่ได้นักแสดงมีฝีมือมาแสดง จึงทำงานง่ายมาก ไม่มีฉากไหนที่ถ่ายเกิน 2 เทก ในฉากการตายตอนต้นเรื่องที่มีคนเยอะ ๆ ก็เพียงแค่เพิ่มกล้องหลาย ๆ ตัวเพื่อเก็บอารมณ์ของทุกคนให้ได้ทั้งหมดทีเดียว 

แต่มาหนักในพาร์ตของเด็กรุ่นกลาง เด็กยังไม่ผ่านการแสดงมา จึงต้องให้เวลา บางคนเล่นถึง 30 เทก รอกันถึง 5 ชั่วโมงในหนึ่งฉากก็ต้องยอม

ส่วนพาร์ต 3 ยากตรงที่ตัวละครผู้ชายต้องร้องไห้เยอะ ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ชายร้องไห้มากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แล้วนักแสดงก็ยังเป็นหน้าใหม่ไม่เก่งกาจ ต้องรอให้เขาทำอารมณ์นาน ให้เขาร้องไห้ด้วยฟีลลิ่งไม่ใช่แค่ทำให้น้ำตาไหล"

การแสดงของรัดเกล้า ในบทแย้ม มีอีกกระแสหนึ่งว่า "เล่นใหญ่ หรือโอเวอร์" ในเรื่องนี้กฤษณ์อธิบายว่า "การแสดงของเขามันใหญ่มั้ย ก็ใหญ่ เพราะเขาต้องเอาอยู่ ถ้าไม่ใหญ่มันจะเอาไม่อยู่ ไม่สามารถแค้นได้ถึง 28 ตอน ถ้าไม่เยอะ มันจะไปไม่ได้ โชคดีมากที่ได้รัดเกล้ามาแสดง"

แน่นอนเมื่อพูดถึงละครเรื่องนี้ สิ่งที่ต้องพูดถึงมากที่สุดก็คือบท "อีแย้ม" ที่ร้ายมากจนคนอยากตบ และเป็นผู้เริ่มต้นเรื่องราวความแค้นทั้งหมด กฤษณ์บอกว่ามันมีที่มาที่ไปในความร้ายของตัวละครตัวนี้

"ถามว่าแย้มเป็นคนดีไหมก็เป็นคนดีนะเขาไม่เคยทำร้ายใครไม่ขโมยใครไม่โกงใครการที่เขาต้องเป็นอย่างนี้ เพราะเขาสูญเสีย สามีเขาตายเพราะครอบครัวของสะใภ้ ถามว่าเขามีความแค้นขนาดนี้ถือว่าเยอะไหม ผมว่าไม่เยอะ ถ้าเราเป็นตัวแย้ม คนอาจจะมองว่าแรงไปไหม แต่การสูญเสียของเขาก็แรงนะ เหตุการณ์ที่สามีเขาตาย มันไม่มีบุคคลที่สามอยู่ตรงนั้น คนสองคนทะเลาะกันแล้วตาย ไม่รู้หรอกว่าใครฆ่าใคร ฉะนั้นทุกคนก็มีความคิดของตัวเอง แล้วลูกชายก็ตายไปอีก เหลือแต่หลาน พอเลี้ยงแล้วก็รัก ต้องเอาหลานมาเป็นสมบัติตัวเอง แต่เขาก็มีผลของเขาว่าสุดท้ายแล้วเป็นยังไง"

สุดแค้นแสนปรี๊ด! ยืนยันจากปากผู้กำกับ อีแย้ม ไม่ได้ร้ายเกินไป


สุดแค้นแสนปรี๊ด! ยืนยันจากปากผู้กำกับ อีแย้ม ไม่ได้ร้ายเกินไป


สุดแค้นแสนปรี๊ด! ยืนยันจากปากผู้กำกับ อีแย้ม ไม่ได้ร้ายเกินไป


สุดแค้นแสนปรี๊ด! ยืนยันจากปากผู้กำกับ อีแย้ม ไม่ได้ร้ายเกินไป

ขอบคุณข่าวจาก 
prachachat.net


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์