อ้อมรับหลังสึกมีสติขึ้น เร่งอัพเดทข่าว


          ซาบซึ้งในรสพระธรรม 'อ้อม-สุนิสา' หลังจากสึกจากแม่ชีแล้ว แต่ยังประสงค์ปฏิบัติธรรมต่อ 15 วัน และที่ผ่านมานี้ ก็ได้มาขึ้นอนเสิร์ต 'The Famous Five A Tribute To Hydra ที่สวนเบจฯ เมื่อวานก่อน อ้อม เปิดใจว่า

     "เพิ่งออกจากเสถียรธรรมสถาน เมื่อ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา วันเสาร์ ก็เล่นคอนเสิร์ต ถามว่า ต้องปรับตัวมั้ยก็ไม่ค่ะ เราอยู่อย่างนี้มา ตั้ง 30 กว่าปี เข้าไปอยู่ตรงนั้นเดือนกว่า แต่ก็ปรับความคุ้นชินบางอย่าง
      
เช่น เราเคยตื่นตี 4 สวดมนต์ แต่ที่แน่ๆ คือ ชินกับการไม่ดูทีวีนะ เพราะฉะนั้นจะมีปัญหากับการทำงานวันจันทร์นี้ ยังไม่ได้ดูทีวีเลย คือไม่ได้ฝืนอะไร ตอนนี้ก็ยังทานข้าวมื้อเดียว ก็สบายดี อย่างวันนี้จะเล่นคอนเสิร์ต ก็จะทานนมรองท้อง ไม่เน้นทานอาหารเย็นหนักๆ"

คุณแม่ว่าไงบ้าง
 "แม่ก็บอกว่าขอให้ดำเนินวิถีชีวิตที่ดีอยู่แล้ว ถ้าอันไหนดีก็ทำไป เขาก็ถามว่าบวชแล้วอารมณ์เย็นขึ้นมั้ย อ้อมก็บอก มันแค่เดือนเดียว คือต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าในการบวชไม่สามารถเปลี่ยนคนคนนึง จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ความโกรธความทุกข์ทุกอย่าง อ้อมว่ายังปรากฏได้เท่าเดิม แต่เราอาจจะมีสติเท่าทันมันเร็วขึ้นแค่นั้นเองคุณแม่เองก็รู้สึกดีตั้งแต่วันบวชแล้ว"

ได้เรียนรู้อะไรตอนบวชบ้าง
 "เรียนรู้ว่าอารมณ์เราเป็นยังไง ทันอารมณ์ตัวเองมากขึ้นค่ะ จากที่เมื่อก่อนโกรธปุ๊บใส่เลย แต่ตอนนี้อาจจะโกรธแต่มีช่วงเวลาของมันให้เว้นระยะ ไม่ตอบกลับทันที หรืออาจตอบกลับไม่อัตโนมัติซะทีเดียว วิธีมองคนอาจเปลี่ยนไป เมื่อก่อนอาจจะเอ๊ะ ทำไมเขาทำแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้อาจจะเออ...เขาก็ทำแบบนี้ แต่ก็ต้องฝึกต่อไปเท่าที่ทำได้ เพราะว่าไม่ใช่แค่นั้นแล้วจบเลยไง"

อยากจะบวชอีกมั้ย
"ก็ต้องยอมรับนะว่าวันจะสึกคิดมากมากเลย คือคนเราไม่ได้บวชกันบ่อย ๆ แต่ครั้งนี้เหมือนอ้อมไปเรียนนะค่ะ เหมือนเราจะไปเรียนเมืองนอกก็ไม่ใช่ว่านึกจะไปเราไป แต่ต้องไปลองดูก่อนว่า เราจะปรับตัวยังไง นี่คือการไปดูลาดเลาของอ้อมว่าถ้าอ้อมจะอยู่ยาวจะไหวมั้ย จะอยู่ได้แค่ไหน"

ปลงขึ้นหรือนิ่งขึ้นไหม
 "มันไม่ขนาดนั้น แต่นิ่งขึ้นมั้ยนิ่งขึ้นนะ คือตอนนี้น่าจะไม่นิ่งเท่าตอนบวชมาก แต่คงนิ่งกว่าตอนที่คุยเรื่องเปิดอัลบั้ม มันก็มสเต็ปของมัน แต่อีกสักพักก็คงมา"




ระหว่างบวชได้ยินข่าวอะไรแย่ๆ ไหม ทั้งเรื่องข่าวบวชเพราะอกหักหรือคบหนิง-ปณิตา
       "มีเพื่อนมาเล่าแล้ว เพื่อนบอกว่าไม่อยากเล่าให้ฟัง เราก็บอกไม่เป็นไร เราแค่รับรู้ ถ้ามันไม่จริง เรารับรู้แล้วผ่านได้เลย หรือถ้าสมมติเป็นเรื่องจริงบางอย่าง เรารับรู้แล้วอาจจะมีรู้สึก แต่เราก็ปล่อยวางได้เร็วขึ้น เรื่องนี้ อ้อมก็รู้ แต่ไม่อะไรเลย แต่กลับสงสารน้องมากกว่า อ้อมมองว่าจริงๆ นักข่าวรู้ความเป็นไปของอ้อมกับหนิงว่าไม่มีอะไร แต่ในแง่การทำข่าว ปัจจุบันอะไรก็แล้วแต่ ที่คิดเป็นประเด็นขึ้นมาได้ มันก็ต้องคิดเพราะข่าวมันออกรายวัน นสพ.รายวัน ทีวีรายวันเยอะ เราก็มีความเข้าใจให้เขา
         ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะรู้สึกว่า ทำไมถามแบบนี้ พอเป็นวันนี้เลยรู้สึกว่าเข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่าโถๆๆ เอาเรื่องบวชมาโยงประเด็นทำไม (เสียงสูง) แต่ก็ไม่เดือดร้อน เพราะความจริง วันที่โกนผม อ้อม แฟนหนิง ก็นั่งอยู่ตรงนั้น คือเรารู้จักกันหมดค่ะ หนิงเป็นกัลยาณมิตรของอ้อม ที่ไม่มีคนรู้ คือ อ้อมรู้สึกว่าประเด็นบวชของอ้อมเป็นข้อกังขาอยู่อย่างนึง เพราะอ้อมไม่ได้บอกใคร แต่สังเกตดีๆ อ้อมพูดตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์อัลบั้มว่า อีก 2 อาทิตย์ เดี๋ยวจะมีอะไร แต่อ้อมไม่ได้บอก เพราะไม่รู้จะลาคนยังไง
        คือถ้าคนรู้อ้อมเป็นอาสาสมัครที่เสถียรธรรมสถานปีกว่า อาจจะไม่แปลกใจที่อ้อมบวชก็ได้ แต่อ้อมรู้สึกว่า ถ้าเราไปทำดี เราไม่จำเป็นต้องบอกใคร แต่กลายเป็นการทำดีของเรา ที่ไม่ได้บอกใคร เขาก็คิดไปว่าบวชเพราะอกหัก คือ ถ้าอ้อมบอกเป็นอาสาสมัครที่เสถียรฯ แล้วบอกว่าจะบวช คนก็ไม่ตื่นเต้นใช่ไหม ประเด็น คือ เราไม่ได้บอกใครต่างหาก ว่าเราเป็นอาสมัครให้เขา"

จะนำหลักธรรมมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันยังไง
 "อ้อมว่าธรรมเป็นเรื่องธรรมชาติ บวชมาอ้อมก็ไม่ได้รู้ธรรมมากไปกว่าเดิม แต่มองเห็นความเป็นจริงบางอย่างมากขึ้น อะไรที่เห็นจริงสามารถพูดต่อได้ แต่อะไรที่ไม่เห็นเราพูดไม่ได้ พูดไปก็แค่พูด"

จะมีโอกาสกลับไปบวชอีกมั้ย "ถ้าเป็นไปได้ก็อยากทำ แต่ถึงจะทำไม่ได้ตอนนี้หรือตอนไหน ก็จะพยายามปฏิบัติต่อ คือถ้าเราฝึกรู้ตัวบ่อยๆ ก็จะทันอารมณ์มากขึ้น"

'อ้อม-สุนิสา'

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี INN NEWS


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์