รุ่นพี่ไร้สำนึก รับน้องโหด!

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ตำรวจจับตัวคนเหล่านี้มาลงโทษด้วยวิธีเดียวกับที่เขาทรมานผู้อื่นบ้าง

คนพวกนี้ต้องใช้การลงโทษแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” แค่จำคุก อย่างเดียวคงไม่รู้สึกอะไร แล้วจับส่งไปเป็นทหารที่ตะเข็บชายแดนโน่น ไม่ต้องไปเรียนแล้ว ความรู้คงไม่สามารถขัดเกลาจิตใจคนพวกนี้ให้เป็นผู้คนได้หรอก 
 
ขอโทษทีที่บ่นจนเกินงาม บังเอิญว่า
 
“แซสซี่ เกิร์ล” รู้สึกเจ็บแค้นแทนจริง ๆ เอาเป็นว่า วันนี้เราลองไปถามความเห็นเหล่าคนบันเทิงกันหน่อยดีกว่าว่า เขามีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง

เริ่มที่ ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ กล่าวว่า

“ผมก็เคยผ่านการรับน้องมาเหมือนกัน แต่ไม่เคยเจอแบบโหด ๆ นะ จะเน้นเล่นแบบเสริมสร้างความสัมพันธ์ในคณะมากกว่า ซึ่งผมก็ค่อนข้างชอบเพราะมันทำให้เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น สำหรับเรื่องรับน้องโหดนั้น ผมก็เคยได้ยินครับ ผมรู้สึกอึ้งมากตอนที่ได้ยินวิธีการที่รุ่นพี่เหล่านี้ทำร้ายรุ่นน้องของพวกเขา ไม่รู้ว่าเขาสรรหาวิธีเหล่านี้มาได้อย่างไร และจิตใจพวกเขาทำไมถึงได้โหดเหี้ยมเช่นนี้ จริง ๆ แล้วประเพณีรับน้องเป็นสิ่งที่ดีนะ แต่คนที่นำเอามาปฏิบัติทำเสียซะเอง ถามว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ผมว่ามันแก้ยาก มันขึ้นอยู่กับจิตใจของคนมากกว่า และผมมองว่า เวลารับน้องนั้นไม่ควรดื่มเหล้าหรือเสพสิ่งเสพติดเลย เพราะมันทำให้เราคะนองเกินเหตุ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีผู้ใหญ่หรืออาจารย์ติดตามไปควบคุมดูแลด้วย”
 

ฟาก บอล-วิทวัส สิงห์ลำพอง เผยว่า

“ผมเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยเองครับ แต่ก็ไม่ได้ไปรับน้องเพราะติดงานประกอบกับว่ากลัวจะโดนแกล้ง เพราะที่ผ่านมาเคยได้ยินข่าวจากเพื่อน ๆ ดาราด้วยกันมาว่า เวลาไปรับน้องจะโดนแกล้งมากเป็นพิเศษ อีกอย่างคือที่ผ่านมามีข่าวรับน้องโหด ๆ ออกมาแทบทุกปี มันเลยทำให้เราไม่อยากไปร่วมกิจกรรมมากเท่าไหร่ ผมมองว่าถ้ารุ่นพี่ไม่แกล้งน้องแรงเกินไปแบบถึงกับเลือดตกยางออก เน้นเล่นแบบกระชับมิตร ผมเชื่อว่า รุ่นน้องก็อยากร่วมงานกับรุ่นพี่ด้วยนะ เพียงแต่อย่าใช้ความรุนแรงในการทำกิจกรรมเลย ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้อาจารย์ไปช่วยดูแลด้วยนะครับ รุ่นน้องจะได้อุ่นใจมากขึ้น”

ด้าน วุ้นเส้น- วิริฒิพา ภักดีประสงค์ กล่าวว่า

“วุ้นไม่เคยรับน้องเหมือนกัน เพราะตอนนั้นเพิ่งจบจากโรงเรียนหญิงล้วนมา พ่อแม่เลยไม่กล้าให้ไป แล้วที่ผ่านมาก็เคยได้ยินว่ารับน้องกันแรง พ่อแม่เลยไม่ให้ไปเพราะกลัวอันตราย สำหรับตัววุ้นเองมองว่า การรับน้องเป็นประเพณีที่ดีนะ ถ้าเราเล่นอย่างพอดีก็จะลงตัว บางคนอาจมองว่าต้องเล่นแรงบ้างเป็นประเพณี วุ้นมองว่า ประเพณีบางอย่างเราสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยได้ เพื่อความปลอดภัยของรุ่นน้อง อย่างล่าสุดวุ้นเห็นข่าวรุ่นพี่รับน้องถึงกับสมองตายนั้น วุ้น   ว่ามันเป็นการฆาตกรรมชัด ๆ เขาทำอะไรตามอารมณ์มากกว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ไม่คิดถึงพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นเลย”

ปิดท้าย ดีเจ กฤษกร ภูมิรัตน  เผยว่า   

“ผมเคยรับน้องมาแล้ว แต่ไม่โหดครับออกแนวสกปรกมากกว่า รุ่นพี่ปอกกล้วยแล้วให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มทุกคนอมกล้วยใบนั้น พอถึงคนสุดท้ายก็ให้กินให้หมด ก็สนุกดีนะ คนต้องให้ใจกันถึงจะกล้าเล่น เป็นการกระชับมิตรเพื่อความสามัคคีในหมู่คณะจริง ๆ สำหรับข่าวรับน้องโหดนั้น ผมได้ยินมานานแล้ว และเวลาจัดรายการผมก็จะพยายามพูดเสมอว่า รุ่นพี่ควรมีสามัญสำนึกและจรรยาบรรณ เรื่องการรับน้องโหด ๆ นั้น ผมคิดว่าควรเลิกกันได้แล้ว มันไม่สร้างสรรค์เลย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีอาจารย์มาช่วยสกรีนและวางขอบเขตงานจะได้ออกมาสนุกและกระชับมิตร แถมไม่ส่งผลเสียให้กับใครอีกต่างหาก”.