ฟิล์ม รัฐภูมิ กับวันนี้ที่ยังแรงดีไม่มีตก

"ดังแรงไม่เลิก"

เป็นคนดัง ย่อมคู่กับข่าวฮอตเสมอ แต่ดูท่า "ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ลูกรักของค่ายอาร์เอส ก็ยังดังแรงไม่เลิก ควบคู่ไปกับข่าวล่ามาแรง กับล่าสุดที่ว่าไปปีนเกลียวจีบรุ่นพี่อย่าง "เข็ม" กฤตธีรา อินพรวิจิตร พิธีกรรายการ "ตีสิบ" จนสร้างความไม่พอใจให้ "หนุ่ม" กรรชัย กำเนิดพลอย ที่กำลังแอบกิ๊กอยู่ ถึงขั้นมีเรื่องชกต่อย

วันเลี้ยงปิดกล้องละคร "คุณชายร้ายเล่มเกวียน" เลยต้องลากนักร้องหน้าหล่อมาจ้องหน้า...อุ๊ย ไม่ใช่ ...มาสัมภาษณ์กันสักหน่อย

ข่าวต่อยกับ "หนุ่ม" กรรชัย กำเนิดพลอย

ไม่มี เมื่อวันก่อนก็เพิ่งเจอกันเอง คุยกันประจำเลย คุยหนักกว่าเดิมเลย ผมก็สนิทกับพี่หนุ่ม ยิ่งกับพี่เข็ม ยิ่งสนิทมากเลย สนิทจากรายการ ตีสิบ ที่ผมเคยไปออกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว คุยกับพี่เข็ม เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ยิ่งแกล้งใหญ่เลย ว่าดีแล้ว ฉันชอบ มีใครถาม ฉันจะบอกว่าเป็นแฟนแก

ที่มาของข่าว

ผมคุยกับพี่หนุ่ม เขาบอกไม่รู้ว่าช่วงนี้เขาโดนข่าวเยอะหรือเปล่า ก็เลยมีผู้ที่ไม่ประสงค์ดี อาจจะปล่อยข่าวออกมา แต่ตอนแรกฟิล์มก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรนะ แต่เห็นพวกพี่เขาเจอหลายเรื่อง ก็ได้แต่ปลอบใจกันไปปลอบใจกันมา ส่วนผมไม่ได้กังวลอะไร ตอนแรกก็ยอมรับว่างงเหมือนกัน มันเป็นไปได้ยังไง พี่หนุ่มก็บอก เอ๊ะ หรือจะต่อยจริงๆ ดี แต่พอโดนเยอะก็เริ่มซีเรียสเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางทีผมว่าข่าวเขาเล่นมากเกินไปหรือเปล่า อย่างมีบางฉบับ บอกว่าพี่เข็มแหวะผม ผมก็ไปถามพี่เขาว่า ให้สัมภาษณ์แบบนั้นเหรอ เขาก็บอกว่า ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย

คิดยังไง ถ้าจะมีแฟนสาวอายุมากกว่า

ก็ได้ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย พี่เขาก็น่ารักดี มันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้ามนุษย์โลกจะมีความรัก เรื่องอายุมันไม่เกี่ยวอยู่แล้ว แต่ทำไมจะต้องไปมองแบบนั้นด้วย ผมกับพี่เข็มเป็นพี่น้องกัน มันเป็นไปไม่ได้ พี่หนุ่ม พี่เข็ม ผมก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นแฟนกันหรือเปล่า แต่เขาก็เป็นเพื่อนกัน ไม่เห็นต้องมีข่าวแบบนี้เลย

มองเข็มเป็นอย่างไรบ้าง

เขาก็เป็นพี่ที่น่ารักคนหนึ่ง แต่ไม่ได้มองว่าเขาเซ็กซี่หรืออะไร เพราะอันนั้นเป็นการมองแบบชู้สาวแล้ว ผมไม่มีจีบพี่เขาเลย จะไปจีบทำไม้...(เสียงสูง) ไม่มีความคิดเลย

รู้สึกอย่างไรกับข่าวนี้

ผมเฉยๆ เพราะผมเคยเจอแรงกว่านี้อีก ตอนนี้ผมเฉยๆ กับข่าวไปแล้ว มันอารมณ์ปลงและปล่อยวาง อยากมีโลกของตัวเองแล้ว ผมชินกับเรื่องพวกนี้มากๆ จนรู้สึกเป็นเรื่องปกติ แต่ตอนแรกเข้าวงการใหม่ๆ จะเครียด ถ้ามีปัญหาผมก็ปรึกษาเฮีย ("เฮียฮ้อ" สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) แล้วเราก็เอาคำแนะนำมาใช้ต่อไป เฮียไม่เคยว่าอะไรเลย ผมโชคดีมากที่มาอยู่อาร์เอส ทุกคนรักผมหมด

คุ้มไหมมีชื่อเสียงต้องแลกกับข่าวคาว

มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าคิดได้แล้ว เราจะอยู่กับมันได้เอง ผมเลือกทางนี้แล้ว ผมก็ต้องเดินต่อไป ถ้าข่าวไม่พูดถึงผม แสดงว่าผมก็ไม่มีคนสนใจ พวกพี่นักข่าวก็ไม่ได้รักฟิล์ม ไม่มาสนใจอะไรเลย ถ้าคิดจะเข้ามาแล้ว มุมส่วนตัวบางส่วนก็ต้องตัดออกไปบ้าง เพราะเราไม่ได้อยู่ในโลกนี้คนเดียว แต่อยู่ในที่สว่างให้ทุกคนเห็น ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็มีคนรู้จัก

ทุกวันนี้เดินไปไหนมาไหนคนเดียวได้ไหม

ผมอยากไปมากเลย แต่ไม่ได้ไปไหนมาไหนคนเดียวมานานมากแล้ว ไม่มีเวลา จะมีก็แต่เวลาว่าง 5-6 ชม. เวลาที่ไปถ่ายละครแถวๆ นั้นก็จะแวบๆ บ้าง แต่ถ้าวันว่างจริงๆ แล้วไปเดินเที่ยวเล่นคนเดียวเนี่ย ไม่มีโอกาสเลย

ตอนนี้ยังมีแฟนคลับไปเฝ้าอยู่หน้าบ้านหรือเปล่า

มี้...อย่างที่บ้านผมเป็นร้านเสริมสวย แต่ผมบอกให้พ่อกับแม่เลิกทำงานแล้ว ฟิล์มแฟมิลี่เขาก็จะยังคิดว่าบ้านผมทำร้านเสริมสวยอยู่ ก็จะเข้ามา บางทีตื่นมา เจอนั่งอยู่ในบ้านเต็มเลย เปิดตู้เย็นดื่มน้ำเอง ผมชินแล้ว

คิดว่าทำไมแฟนคลับถึงรักฟิล์มเหนียวแน่น

คงเป็นเพราะผมเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นดารา แล้วพวกเขาเป็นแฟนเพลง แต่ผมคิดว่าเขาเป็นพี่น้อง เป็นเหมือนเพื่อน บางทีผมก็ดุเขา เวลาที่เขาจะตามไปดูผมในสถานที่ที่มันไปไม่ได้ บางคนไม่เข้าใจก็ร้องไห้ว่าทำไมต้องว่าเขาด้วย ผมก็เสียใจเหมือนกัน เพราะผมรู้สึกผมเป็นพี่ชายเขา บางคนไม่เข้าใจ ก็ไปจากเราเลยก็มี แต่ส่วนใหญ่จะเข้าใจ

มีสิ่งไหนที่อยากทำเพื่อครอบครัวอีก

จริงๆ ผมก็ทำมาตลอดแล้ว นี่ก็เพิ่งซื้อรถใหม่ให้พ่อกับแม่ แล้วก็ไปปลูกบ้านให้ที่ จ.สระบุรี ให้ยายอยู่ น้าของผม 2 คนที่หาทางเดินไม่ได้ บางคนกินเหล้าเมา ก็เอามาอยู่กับผมหมดเลย มาช่วยฟิล์มทำงาน หลานผมก็ส่งเรียน ผมคิดว่าต่อจากนี้ ชีวิตทุกก้าวเดินของผมมีค่า มีคนรอผมอยู่ข้างหลังตลอด ผมโตขึ้นมาก แล้วผมก็จะไม่ประมาทกับอะไรทั้งนั้น

ให้อะไรกับตัวเองบ้างหรือยัง

สิ่งที่ผมทำมามากมาย ก็คือให้ตัวเองด้วย วันหนึ่งเกิดผมกลายเป็นใครก็ไม่รู้ หรือผมแก่ไป คนรุ่นหลังก็คงย้อนกลับมาดูผมเหมือนกัน

กตัญญูซะขนาดนี้ มิน่าผลบุญถึงส่งให้มีแต่คนรักเพิ่มขึ้นๆ "ฟิล์ม แฟมิลี่" ว่าจริงมั้ยล่ะจ๊ะ...

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก