หมวยตี๋ฟีเวอร์ “สิ่งเล็กเล็กๆฯ” ฉายในจีน 6,000 โรง

ใกล้จะครบ 2 ปีแล้ว นับตั้งแต่ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” เปิดตัวเป็นครั้งแรกจนสามารถสร้างกระแสความสำเร็จจากการเข้าฉายจน

ทำให้ภาพยนตร์รักเล็กๆ เรื่องนี้ กลายเป็นภาพยนตร์ในดวงใจของผู้ชมทุกคนไม่เพียงแต่ชาวไทย แต่เรียกได้ว่าก้าวข้ามไปเรียกรอยยิ้มและกวาดความประทับใจจนประสบความสำเร็จเป็นที่ชื่นชอบและครองความนิยมแก่ผู้ชมในทุกๆ ประเทศที่เข้าฉาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยเนื้อหาที่จี๊ดสุดๆ จนส่งผลให้เกิดกระแสความคลั่งไคล้ในตัวนักแสดงนำทั้งสอง มาริโอ้ เมาเร่อและ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก  ลือวิเศษไพบูลย์ จนถึงกับมีการเรียกร้องให้มีการเดินสายไปปรากฎตัวพบปะกับแฟนในประเทศต่างๆ
 

ล่าสุด แฟนๆ ของสิ่งเล็กเล็กต้องเตรียมตัวเฮกันอีกครั้ง เมื่อทางบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จก. ผู้สร้างและจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” ได้รับการยืนยันจากทางบริษัท เอสเอ็มจี พิคเจอร์ จำกัด บริษัทตัวแทนจำหน่าย

ภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศจีนว่าเนื่องด้วยกระแสความคลั่งไคล้จากผู้ชมในประเทศจีนที่มีต่อตัวภาพยนตร์ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์พิเศษที่ว่ากันว่ายังไม่เคยเกิดขึ้นกับภาพยนตร์ไทยเรื่องใดมาก่อน ส่งผลให้บ.ผู้จัดจำหน่ายตัดสินใจว่าในเดือนพฤษภาคม ปี 2555 ที่จะถึงนี้ จะมีการนำภาพยนตร์เรื่องสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ในฉบับตัดต่อใหม่ พร้อมความยาว 100 นาที เข้าฉายด้วยจำนวนจอฉายถึง 6,000 โรง เพื่อผู้ชมชาวจีน เรียกได้ว่ามากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีภาพยนตร์ไทยเรื่องใดในประวัติศาสตร์ที่เข้าฉายในประเทศจีนเคยฉายด้วยจำนวนโรงมากเท่านี้มาก่อน โดยทั้งนี้ ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการผ่ายขาย บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดได้เล่าให้ฟังถึงปรากฎการณ์ที่น่าชื่นชมซึ่งเกิดขึ้นกับหนังรักเล็กเล็กเรื่องนี้ว่า

“ทางสหมงคลฟิล์ม รวมถึง Workpoint และ ผู้สร้างทุกคน ก็มีความรู้สึกตื่นเต้น ที่สิ่งเล็กเล็กฯ จะไปสร้างปรากฏการณ์ทางด้านความรู้สึก รอยยิ้มและความประทับใจอีกครั้งในประเทศจีน แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะลาโรงในไทยไปแล้วเกือบ2ปี  และถึงแม้จะมีการขายสิทธิ์ทางอินเตอร์เนตให้กับจีนไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อทางบริษัทจัดจำหน่ายในประเทศจีนได้เล็งเห็นว่าหนังยังคงมีศักยภาพที่จะสร้างปรากฏการณ์ได้อีก จึงได้ร่วมกับทางเราตัดต่อใหม่ ให้มีความยาว 100 นาที และวางเพลงใหม่ รวมถึงใส่เพลงจีนเข้าไปเพื่อสร้างอารมณ์ร่วมให้เกิดความรู้สึกใกล้ตัวกับผู้ชมชาวจีนมากยิ่งขึ้นค่ะ”