เอ็มมี่ ให้เกียรติเพศแม่ เชื่อไม่มีรักแท้ในเพศที่ 3

เป็นสาวประเภทสองที่คนอยากจะรู้จักเธอมากที่สุดในขณะนี้

สำหรับ เอมมี่-รัชฎา ครุฑามาศ หลังจากที่มีข่าวว่าเธอเป็นสาวที่แอบทำใจไฮโซหนุ่ม โน้ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ เป๋ออกจากนางเอกสาวสุดเซ็กซี่ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ไปชั่วขณะ วันนี้ “ดาวต่างมุม” เลยชวนเอมมี่มาพูดคุยเพื่อเจาะเบื้องลึกให้หลายคนรู้จักเธอมากกว่าในแง่ที่เป็นข่าวว่าตัวจริงเธอเป็นใคร ทำอะไรอยู่ และเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับโน้ตจริงหรือไม่

ตอนเด็กเป็นยังไง

-เอมมี่มีน้องชาย 1 คน คุณพ่อเป็นทนายความ มีฟาร์มสุนัข ส่วนคุณแม่ก็เป็นแม่บ้านธรรมดา ชีวิตตั้งแต่ตอนเด็ก ครอบครัวเป็นคน จ.ขอนแก่น เรียนอนุบาล ประถม-มัธยม เรียนที่ขอนแก่น หลังจบมัธยมไปก็ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นิวซีแลนด์ประมาณเกือบ 1 ปี เพื่อหาประสบการณ์ในชีวิตเพิ่มเติมและเพื่อค้นหาความต้องการของตัวเรา ตอนเด็กคุณพ่อ-คุณแม่ตามใจมาก อยากได้อะไรคุณพ่อก็ให้ เป็นเด็กขี้อ้อน ขออะไรคุณพ่อก็ให้ แต่เรื่องที่เป็นสาวประเภท 2 ไม่ได้เป็นเพราะลอกเลียนใคร มันเป็นของมันเอง

รู้สึกตั้งแต่เด็กหรือเปล่า

-ประมาณ ป.4 ตอนนั้นรู้สึกว่าเราชอบเล่นกับผู้หญิง แต่ก็มาแสดงออกจริง ๆ ตอนจบ ม.6 เพราะว่าตอน ม.1-ม.6 ยังเป็นลุคผู้ชายอยู่ ถ้าแต่งหญิงมากสังคมจะคิดว่าทำไมเด็กคนนี้ดูแรงขนาดนั้น เกรงใจผู้ใหญ่ คุณพ่อ-คุณแม่ ญาติพี่น้องด้วย ก็เลยเป็นเกย์ไปก่อน แต่เมื่อก่อนก็มีเพื่อนผู้ชายนะ ยังเคยเตะบอลเลย แต่พอเริ่มรู้ตัวว่าอยากเป็นผู้หญิงก็หันมากระโดดหนังยางแทน กระโดดจนแขนหักเลย (หัวเราะ) ตอนที่เราเริ่มเปิดเผยว่าเราเป็นเกย์ ก็โดนเพื่อนแกล้ง ตอนถูกเรียก “อีตุ๊ด” มีดึงกางเกงพละลง โดนแกล้งบ่อย ๆ แต่พอเพื่อนเริ่มชิน ก็จะไม่แกล้งเราแล้ว พอมองกลับไปเห็นรุ่นน้องที่เจอประสบการณ์แบบนี้ รู้สึกเห็นใจเขานะ วิงวอนดีกว่าว่าอยากให้เข้าใจมากกว่า แต่เอมมี่เข้าใจว่าสังคมไทยปัจจุบันนี้เปิดกว้างและยอมรับเพศที่ 3 มากขึ้นกว่าแต่ก่อน

เท่าที่ทราบครอบครัวของเอมมี่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักใน จ.ขอนแก่น

-ก็รู้จักค่ะ เพื่อนฝูงคุณพ่อ-คุณแม่ก็เยอะ ถามว่าพอเรามาเป็นแบบนี้สร้างผลกระทบกับครอบครัวมั้ย ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าตระกูลเอมมี่ไม่เคยมีกะเทยเลยนะ ใครจะบอกว่าเป็นกรรมพันธุ์ ไม่เกี่ยวเลยจริง ๆ ข้างบนเขาประทานมาให้ต้องเป็น ตอนแรกก็กลัวว่าครอบครัวและญาติ ๆ จะรับไม่ได้ แต่เอมมี่โชคดีที่ครอบครัวและญาติพี่น้องรับได้ทุกคน

แล้วมีแรงบันดาลใจอะไรที่ผลักดันให้เราอยากแปลงเพศ

-พอจบ ม.6 ก็ยังไม่คิดอะไรมาก ตอนนั้นยังเป็นเกย์อยู่ แต่พอไปอยู่นิวซีแลนด์กับคุณป้า เราก็ไปเจอสาวประเภท 2 ที่เขาแต่งงานกับฝรั่งแล้วสามารถจดทะเบียนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายที่โน่น เอมมี่ก็ได้รู้จักพี่เขาก็ได้คุยกัน คือใจมันไปแล้ว อยากจะไปเต็มที่ พอกลับมาก็ขอครอบครัวเลย ตอนแรกคุณพ่อคุณแม่ก็ตกใจนะ เพราะตอนนั้นเอมมี่อายุแค่ 18-19 ปี การที่ไปผ่าตัดแปลงเพศต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ต้องไปเซ็นอนุญาตเพราะอายุเรายังไม่ถึง และต้องไปพบจิตแพทย์ก่อนทำการผ่าตัด

ความรู้สึกคุณพ่อ-คุณแม่ตอนนั้นที่เราจะไปแปลงเพศเป็นสาวประเภท 2 เต็มที่ เค้ามียั้งหรือรั้งเอาไว้บ้างมั้ย

-ตอนที่ไปเซ็นคุณพ่อน้ำตาซึมอยู่ แต่ลูกเลือกแล้วว่าจะมาทางนี้ ท่านก็เปิดโอกาสให้เรามากกว่า คือเราก็ไม่ไหวแล้ว  ท่านกลัวว่าเราคิดสั้นทำโน่นทำนี่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่มากกว่านี้ คุณพ่อ-คุณแม่เลยยินยอมดีกว่าให้เราใช้ชีวิตในโลกใบนี้อย่างไม่มีความสุข เอมมี่ว่าการใช้ชีวิตอย่างนี้มันโอเคมากกว่า และไม่ปิดกั้นตัวเองด้วย ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และก็ไม่เดือดร้อนใครก็โอเคแล้ว

พอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงร่างกาย เริ่มทำส่วนไหนก่อน

-ต้องบอกว่าประมาณ ม.6 เริ่มแอบ กินยาคุม กินจนมีไตนมขึ้นมาเล็ก ๆ และจะไม่มีกล้ามเนื้อแบบผู้ชาย เพราะฮอร์โมนผู้หญิงจะไปกดทับฮอร์โมนผู้ชาย และก็ไม่เล่นกีฬา เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าจะเป็นสาวประเภท 2 อย่าเล่นเลยดีกว่า เนื่องจากจะทำให้เจอปัญหาตอนที่แต่งผู้หญิงแล้วกล้ามใหญ่ มีบอดี้ผู้ชายอยู่ ตอนที่ตัดสินใจแปลงเพศ ก็คิดหนักนะ ประมาณ 7-8 เดือน จากนั้นก็ตัดสินใจทำหน้าอกและตัดอวัยวะเพศไปพร้อมกัน ครั้งเดียวจบเลย เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ แต่ก่อนที่จะทำต้องคุยกับจิตแพทย์ประมาณ 2 ชม. เขาจะสอบถามเราละเอียดมาก ถามซ้ำไปซ้ำมาด้วย เพื่อดูว่าเรามีความเป็นผู้หญิงมากน้อยขนาดไหน บางคนสวย ผมยาวเหมือนผู้หญิง แต่การใช้ชีวิตมันยังกึ่งอยู่เขาก็ไม่ทำให้

ทำแล้วเป็นไงบ้าง

-ต้องบอกก่อนว่าถ้าตัดออกไปแล้วมันเอาคืนมาไม่ได้ ถ้าเรายังยึดติดกับเรื่องการถึงจุดสุดยอด เอมมี่บอกเลยว่ามันต่างกันมาก  ถ้าตัดไปแล้วความรู้สึกจะน้อยลง บางคนเจอหมอไม่ดีอาจจะทำให้ไม่ถึงจุดสุดยอดเลย มันจะมีผลต่อจิตใจ ถ้าเกิดเราปลงหรือไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้มากก็จะอยู่ได้อย่างมีความสุข แต่ถ้ายังคิดถึงเรื่องนี้อยู่มันก็จะเครียด บางคนถึงกับเป็นบ้าไปเลยนะ ก่อนทำจึงควรศึกษาอย่างละเอียดที่สุดว่าหมอคนไหนดีและเก่งบ้าง

ถ้าเลือกเกิดได้อยากจะเกิดมาตรงตามเพศของเราเลยมั้ย

-เอมมี่เคยบอกผ่านสื่อไปว่า เอมมี่ให้เกียรติเพศหญิงมาก เอมมี่ไม่เคยจะไปแย่งชิงหรือว่าไปชนะอะไรหญิงเลย เพราะว่าเราเป็นเพศรอง จากผู้หญิง เราไปลอกเลียนแบบเขา จริง ๆ แล้วเอมมี่คิดว่ายังไงเพศหญิงก็โอเคมากกว่า

แล้วเอมมี่เริ่มเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงได้อย่างไร

-ก่อนหน้านี้ตอนเรียนจบม.6 ก็ไปประกวดมิสอัลคาซ่า ได้ ตำแหน่งนางงามผิวสวยอัลคาซ่า ประกวดทิฟฟานี่ปีเดียวกับ แจ๊ส ก็เข้ารอบแค่ 10 คนสุดท้าย และถ่ายมิวสิกวิดีโอเพลง “สุดหล่อ” และ “เหล่” ของมาเจต เป็นพรีเซ็นเตอร์คอนแทคเลนส์เกาหลียี่ห้อหนึ่ง เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับคลินิกหมอท่านหนึ่ง และกำลังจะเป็นพิธีกรรายการบันเทิงช่องเคเบิลช่องหนึ่ง

ทำงานมาก็เยอะ แต่เพิ่งจะมาเปรี้ยงตอนเป็นข่าวกับ โน้ต หวานใจของอั้ม

-เรียกว่าฟ้าผ่าเราตอนกลางวันก็ได้เนอะ มีคนบอก ยอมรับว่าพอเป็นข่าวก็ทำให้มีคนรู้จักเรามากขึ้น

ตอนนี้คนอยากรู้อยู่ว่าเรารู้จักกับโน้ตจริงมั้ย

-ก็รู้จักผิวเผิน ไม่ได้ไปสนิทมักจี่ จนถึงขนาดเป็นข่าวมือที่ 3 เอมมี่ก็บอกแล้วว่าไปเป็นเพื่อนของเพื่อนเฉย ๆ แต่คนอาจจะคิดว่ามีอะไรหรือไม่มีก็ได้ มันก็คลุมเครือ แต่บางครั้งเราก็ไม่สามารถไปบอกรายละเอียดส่วนลึกมากได้ เป็นเรื่องที่ไม่น่าพูด

รู้สึกยังไงที่โน้ตพูดทำนองว่าเอมมี่เป็นสาวไซด์ไลน์

-รู้สึกแย่มาก ตอนที่รู้จักกันก็รู้จักแค่ผิวเผิน ทำไมต้องว่าเราขนาดนั้น ตอนนี้ก็รู้แล้วคำว่าวงการมายามันก็มายาสมชื่อจริง ๆ มันเป็นอะไรที่ลวงตา เอมมี่คิดว่าอันดับแรกเมื่อเข้ามาวงการนี้เราต้องยอมรับก่อนว่าเรายอมรับกับข่าวที่จะเกิดขึ้นได้มั้ย เราอาจจะเปิดตัวแรงนิดหนึ่ง แต่ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ เอมมี่คิดว่าต่อไปถ้าเราเจอปัญหาอะไรมันก็จะเล็กมาก ซึ่งตอนนี้เอมมี่ก็ผ่านมันไปด้วยดีแล้ว เอมมี่อยากจะบอกว่าจริง ๆ แล้วเอมมี่ไม่ได้คุยกับเขามานานแล้ว ประมาณ 1 เดือนก่อนที่จะเป็นข่าวซะอีก หลังจากที่เขาพูดถึงเอมมี่ทำนองไม่ดี เอมมี่ก็ไม่เคยคุยกับเขาอีกแล้ว ไม่คิดเคลียร์ ก็รอให้เรื่องมันเงียบดีกว่า พอมีข่าวว่าเป็นไซด์ไลน์ ครอบครัวก็บอกว่า อุ๊ย!! เอาเวลาที่ไหนไปทำไซด์ไลน์

ข่าวส่งผลกระทบอะไรกับเอมมี่บ้าง

-มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือมีงานเข้ามา ส่วนข้อเสียเป็นขี้ปากชาวบ้าน แต่ต้องยอมรับให้ได้ แต่เอมมี่คิดว่าตอนนี้ผู้บริโภคข่าวเขาก็มีความคิดนะ เขาก็ฉลาดเหมือนกัน

ตอนนี้เรามีความรักมั้ย

-เอมมี่ไม่มีแฟนมาประมาณ 8 เดือนแล้ว ตั้งแต่เลิกกับแฟนคนเก่า ก็ดีที่ตอนเกิดเรื่องไม่มีแฟน ไม่อย่างนั้นคงต้องทะเลาะกับแฟนอีก

ที่ผ่านมาแฟนคนเก่า ๆ ดูแลเราดีหรือเปล่า

-เขาก็เป็นผู้ชายนะ อย่างที่บอกเอมมี่ให้เกียรติผู้หญิง ถ้าเขาเลือกผู้หญิงเอมมี่ก็ต้องยอมนะ ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาทีหลังหรือมาก่อน ถ้าเขาคิดจะเลือกผู้หญิงคนนั้นเอมมี่ก็ยอม ส่วนใหญ่ที่เลิกก็เป็นเพราะว่าเขาไปมีคนอื่น เราก็ปล่อยเขาไป ดีกว่าเราไปเหนี่ยวรั้งเขา ทำให้เราเสียประสาท เวลาเลิกกับแฟนแต่ละครั้งก็เสียใจ

รู้สึกยังไงกับคำว่ามันไม่มีรักแท้ในเพศที่ 3

-คำว่า “ไม่มีรักแท้ในเพศที่ 3” มันเป็นเรื่องจริงนะ เพราะเราไม่สามารถจะสืบพันธุ์หรือมีบุตรได้ บางทีผู้ชายก็อยากจะมีครอบครัว อยากมีการแต่งงานก็ต้องยอมรับ เราก็ถือว่าเป็นรักฉาบฉวยละกัน

คิดว่าจะมีรักแท้บ้างหรือเปล่าหรือเคยเจอบ้างมั้ย

-เคยเจอ แต่เป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก เอมมี่ไม่อยากหวังตรงนี้แล้ว ขอเป็นรักครอบครัว รักที่บ้าน รักคุณพ่อ-คุณแม่ น้องดีกว่า เพราะสุดท้ายเมื่อเราไม่เหลือใครก็ต้องกลับไปที่บ้าน

สเปกผู้ชายตอนนี้เป็นยังไง

-ขาว ตี๋ จะพิจารณาเป็นพิเศษ แต่ไม่จำเป็นต้องขาว ตี๋อย่างเดียว แต่ถ้าคนนี้ใช่ก็คือใช่นะ ส่วนใหญ่คนมักจะพูดว่าคบที่นิสัย เอมมี่ว่าไม่จริงอ่ะ ครั้งแรกต้องดูหน้าตาก่อน บางทีนิสัยดีมาก แต่หน้าตาไม่ได้ ก็ไม่ไหวนะคะ แล้วก็ชอบให้คนตามใจ 

ในอนาคตถ้าเราอายุเยอะจะยึดติดกับศัลยกรรมอีกหรือเปล่า

-บางครั้งคนพูดว่าไปทำทำไม รอให้อายุเยอะก่อนค่อยไปทำ เอมมี่คิดว่าตอนนี้อยู่ในวัยที่เรากำลังสวยก็ต้องทำให้สวยที่สุด ไม่ใช่พอเราแก่ตัวไปแล้วไปทำใครจะมามอง แก่ตัวไปเราก็ปล่อยไปดีกว่าให้แก่ที่สุดไปเลย แต่ตอนนี้ชั้นสวยแล้วก็ต้องทำให้สวยที่สุด

นึกภาพตัวเองในอนาคตไว้มั้ยจะทำอะไรในบั้นปลาย

-คงทำธุรกิจที่บ้านมากกว่ามันก็ตายตัวอยู่แล้วว่าอาจจะต้องสืบทอดกิจการ อาจจะเกาะน้องชายบ้าง (หัวเราะ) เพราะน้องก็ทำงานมั่นคง สำหรับงานในวงการบันเทิงเอมมี่ไม่ยึดติด  เนื่องจากเอมมี่คิดว่ามันเป็นโอกาสในช่วงสั้น ๆ อาจจะเป็นความโชคดี เราก็ต้องรีบ ถ้ามีอะไรให้ทำก็ต้องรีบทำ เพราะเราคงทำงานตรงนี้ได้อีกไม่นาน
   
ถึงตอนนี้หลายคนคงจะได้รู้จักเอมมี่กันมากขึ้นแล้ว เรื่องราวของเธอก็น่าจะให้ข้อคิดต่าง ๆ กับเพื่อนสาวประเภทสองได้เป็นอย่างดีก็อยากให้เลือกเอาแต่ส่วนที่ดีไปใช้กันนะจ๊ะ.