หมอกฤษณ์ แขวะ แมทธิว ไร้อารยธรรม


หมอกฤษฏ์ โอด รับน้อยใจ แมทธิว ไม่รับไมตรี แถมจ้องจะต่อย ขณะไปถ่ายรายการ เรียลลิตี้ ''โวยาเจอร์'' ที่ญี่ปุ่น พร้อมกับแขวะ ดาราหนุ่ม เป็นคนไร้อารยธรรมป่าเถื่อน แต่ไม่โกรธ แม้ถูกด่าหน้าด้าน
 
แม้จะกลับมาแบบไม่เสียเลือดเสียเนื้อ ในระหว่าง ไปถ่ายทำรายการ เรียลลิตี้ ''โวยาเจอร์'' ที่กรุงโตเกียว ที่ทั้งคู่ ต้องจับคู่ เป็นบัดดี้กัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิ ความเกลียดชัง ของ ดาราหนุ่มแมทธิว ดีนส์ ที่มีต่อ หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม ลดลงแม้แต่น้อย ซึ่งช่วงเวลา ขณะถ่ายทำรายการ ที่ประเทศญี่ปุ่น มีข่าวลือว่า ดาราหนุ่ม เกือบวางมวย หมอดูคนดัง แต่ทั้งคู่ ก็พยายามออกมาให้ข่าวว่า ไม่มีปัญหาต่อกัน จนกระทั่งพอ แมทธิว กลับมาถึงเมืองไทย ก็ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีดังกล่าว แบบหมดเปลือกว่า ไม่อยากยุ่งกับ หมอกฤษณ์ ตั้งแต่ต้น พร้อมทั้งประกาศชัดเจนว่า คุณหน้าด้าน..ผมเกลียดคุณ ลั่นชาตินี้ จะไม่ขอญาติดีด้วย ผมไม่ต่อยคุณ ก็บุญแล้ว โดยผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อไปยัง หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นมาอย่างไร โดยเจ้าตัว เปิดเผยแบบ ตัดพ้อว่า

"ถามว่ารู้สึกยังไง ที่เขาพูดอย่างนี้ " "ผมไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะว่า ผมรู้สึกว่า เราก็ทำดีที่สุดแล้ว เท่าที่จะทำได้ ผมไปญี่ปุ่นผมลืมทุกอย่างที่เมืองไทย ลืมทุกสิ่ง เล่นเกมส์ อย่างสนุกสนาน แล้วก็รวมถึงการใช้ชีวิต ผมเองปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิง กับใครอยู่แล้ว จริงๆพื้นฐานผมชอบอยู่คนเดียว ชอบอยู่ในห้องอ่านหนังสือ แล้วก็อาจจะมีพูดคุยกับคนอื่นบ้าง ผมก็พยายามพูดคุยกับเขาอย่างดีที่สุดแล้ว พยายามพูดคุยและเลี้ยงข้าวเค้า ทำทุกอย่าง OK หมดแล้ว เราอยากจะเป็นมิตร OK มีโอกาสกินข้าวนั่งคุยกัน แต่เค้ากลับมองในอีกมุมหนึ่งว่าเราจะเข้าไปตีสนิทกับเค้า นั้นเป็นส่วนของเขา เขาจะมองในมุมร้าย มุมดี นั้นผมไม่สามารถที่จะบังคับอะไรใครได้ ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว"

ถือว่าพยายามจะเป็นมิตรกับ "ครับคนเราควรที่จะมีการพูดคุยกัน ผมก็พยายามนะ ในฐานะเป็นเพื่อนร่วมทริป ก็คือว่า เรามาเล่นเกมส์ เราก็ควรที่จะให้เป็นมิตรเป็นอะไรกัน ดีกว่าจะเป็นศัตรูกัน ผมลืมทุกอย่างที่เมืองไทย "

ก่อนหน้านี้ หมอกฤษณ์ ทราบอยู่แล้วว่า แมทธิว เขาจะไปด้วย แล้ว คาดหวัง อะไรจากการไปทริปครั้งนี้ จะให้ความสัมพันธ์มันเกิดขึ้นหรือเปล่า
 "ส่วนตัวผม ก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน ก็หวังว่า มันน่าจะมีโอกาสที่จะได้เล่นเกมส์ด้วยกัน มีโอกาสที่จะเจอกัน ก็น่าจะคุยกัน แบบที่ปกติคนเราบางที เหมือนอย่างมดดำกับวู้ดดี้ เค้าอาจจะไม่ชอบกัน ทะเลาะกัน แต่ถ้ามีโอกาสพูดคุยกัน ก็อาจจะดีขึ้น ก็เหมือนกรณีผมกับแมทธิวจะได้มีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกันมากขึ้น"


หมอกฤษณ์ เลือกที่จะเดินไปคุยกับเขาเลยใช่ไหม
 " ใช่ ก็คือปกติผม ก็เป็นคนที่ไม่ได้เป็นคนกลัวเรื่องอย่างนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีเรื่องรุนแรงอะไรร้ายแรง ผมถือว่า ผมเจตนาดี ผมเข้าไปคุย ในฐานะที่มาเป็นไทย แล้วเราก็เป็นคนร่วมทริปกัน แล้วก็น่าจะมีอะไร ที่แบบดีๆ ด้วยกันได้ ผมก็เรียกเขาว่า คุณ และ พี่ ทุกคำนะ ส่วนเรื่องคดีความ ผมบอกได้เลยว่า ลืมไปนานละ แล้วก็ผมก็ทิ้งมันไว้ที่เมืองไทย ผมไม่พกติดไปด้วย"


ตอนที่หมอกฤษณ์ เข้าไปคุยกับ แมทธิวเค้าพูดจากลับมาดีหรือเปล่า 
"แรกเริ่มเหมือนจะไม่ดีแต่ว่า ประมาณกลางทริปมันก็ดี ตอนที่เขาอยู่ญี่ปุ่น เขาก็ OK"


ก็คือแมทธิว ก็ไม่ได้มีท่าที แสดงออก ผมไม่ชอบคุณ คุณมาคอนเฟิร์ม แฟนผม เขาไม่ได้แสดงออกอย่างนั้นใช่ไหม
 "จริงแล้วช่วงแรกๆ อาจจะมีช่วงกลางๆ ทริป เนี้ย มันก็ไม่ได้มีอะไรมันก็ OK เขาก็พูดเหมือนพี่เหมือนน้อง แต่พอกลับมาถึงเมืองไทยเค้ากลับมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ผมก็ งง ว่ามันคืออะไร เราก็เป็นคนไทย ไม่ใช่ ไม่ถูกกัน ต้องมานั่งด่ากัน มีความจำเป็นหรอ หรือว่าไม่ถูกกันเจอหน้าก็ต้องต่อยกัน ด่ากัน เขม่นใส่กัน อย่างนั้น เป็นวิธีการที่ถูกหรือเปล่า คนเราไม่ถูกกัน จะต้องด่ากันทุกครั้งที่เจอเลยหรอ เหมือนคนไร้อารยธรรมอ่ะ"


หมอกฤษณ์ กลัวไหมที่ออกมาพูดกัน กลัวว่า เจอกันตามงานหรือ เจอกันที่อื่น คุณแมทธิว จะเข้ามาทำร้ายเรา 
"ไม่นะ ถือว่า เราทำดีที่สุดแล้ว แล้วผมถ้าเจอแล้ว เค้าทำอย่างนั้น ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไง เพราะโดยส่วนตัว ผมจะบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องกรณีที่เรา อาจจะมีปัญหากัน อย่างที่บอก เราอยู่ในวงการบันเทิงมันโขนอันหนึ่งที่ใส่อยู่ในหัว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงต่างๆ มันเป็นภาพลวงตา ข่าว หรือเรื่องอะไรต่างๆ เป็นภาพลวงตา เวลาที่ผมเลิกเป็นหมอดู ผมออกนอกกล้องผม ก็เป็นคนธรรมดา และผมก็ลืมทุกอย่างไม่ว่า จะเป็นเรื่องอะไรต่างๆ ที่มีปัญหากัน ผมลืมมันไปหมด คือผมออกนอกประเทศ ผมก็เป็นคนที่ไปเล่นเกมส์ อายุ
23 ปี ไปเล่นเกมส์ หมอดูกฤษณ์ คอนเฟิร์ม ทิ้งเอาไว้ที่ไทย ผมไปที่นู้น หลายอย่างผมฝืนตัวเอง"


อย่างเช่นอะไรบ้าง
 
"ปกติ ผมไม่คุยกับใครหรอก บอกได้เลย จะให้หมอกฤษณ์ ไปแสดงมิตรไมตรีกับใครก่อน จะไม่ค่อยทำ ส่วนใหญ่ไม่ส่วนตัว ผมอยู่เมืองไทย ผมไม่เที่ยวกลางคืน ผมทำงานกลับบ้านอ่านหนังสือ แล้วก็พยายาม ฝึกการดูดวงให้มันมากขึ้น แต่ผมก็พยายามจะพูดคุยกับคนนั้นคนนี้ ชวนคนนั้นคนนี้คุย ซึ่งผมบอกตรงๆ ว่าไม่ใช่ตัวผม แต่ผมพยายามทำ ผมอยากให้ทุกอย่างดีขึ้น"


หมอกฤษณ์ เหมือนจะพยายามบอกว่า อย่างน้อยๆ ผมก็พยายามที่จะฝืนตัวเอง เพื่อให้ทริปนี้ เป็นทริปที่ดี
 " เพราะเริ่มต้น ถ้าทริปนี้ เป็นทริปปกติ มันก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ทริปนี้ ก็รู้ๆ กันอยู่แล้วว่า ไปแล้วก็มันก็มีคนเป็นโจทก์ เป็นกรณีกันอยู่ แล้วก็ยังมีเรื่องอื่น ไหนจะคนอาชีพเดียวกัน โอกาสที่มันจะกระทบกระทั่งกัน มีสูง คือ มันตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก "


ถ้าอยากจะฝากอะไรถึงคุณแมทธิว ได้จะฝากอะไรถึงเค้ามั้ย
"ก็คือว่า อย่างที่ผมบอกว่า ผมทำดีที่สุดแล้ว ผมไม่ได้มีจุดประสงค์เรื่องอื่น ถ้าคุณบอกว่า ด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องคดี ผมอยากบอกว่า ผมลืมหมดแล้ว เพราะผมบอกแล้วว่า ชีวิตในวงการเหมือนหัวโขน ชื่อเสียงคือหัวโขน ตัวเราคือหัวโขนชีวิตคือละคร ชีวิตความเป็นจริงเราเอง ไม่มีในโลกนะ เพราะสักวันเรา ก็ต้องตาย ทำไป ในฐานะผมอยู่เมืองไทย ผมคือหมอกฤษณ์ ที่มีคนดูดวงเยอะ เป็นล้านคน แต่ไปที่นู้น ผมคือผู้ชายคนหนึ่ง อายุ 23 ปี"


คือไปที่นู้นคุณโนเนม
 "ถูก ไปที่นู้น ผมคือผู้ชายคนหนึ่ง แล้วไปเพื่อเล่นเกมส์ ซึ่งผมบอกได้เลยว่าคุณแมทธิว ก็เป็นพี่ที่อายุมากกว่าผมนะ" 

 
เป็นรุ่นพี่
 
"ก็ผมเรียกพี่ ทุกคำ ก็เหมือนกับว่าเด็กคนหนึ่ง ที่อาจจะมีปัญหากับผู้ใหญ่ ก็จะขอเข้าไปคุย จะขอเข้าไปเคลียร์ปัญหาเท่านั้นเอง"  


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี INN NEWS


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์