สงกรานต์ เปิดใจเรื่องรักกับ แมท ภีรนีย์ แพลนแต่งงาน มีแววหรือยัง? (คลิป)

หลังจับมือผ่านดราม่ากันมาได้ก็ดูเหมือนว่าช่วงนี้คู่ของ สงกรานต์ เตชะณรงค์ และ แมท ภีรนีย์ จะเริ่มเปิดเผยเรื่องความรักกันมากขึ้น ดูได้จากการเริ่มลงภาพคู่ในอินสตาแกรมส่วนตัวบ้างแล้ว ซึ่งหลายคนแอบอยากรู้ว่าเมื่อไรฝ่ายชายจะพร้อมพาแฟนสาวไปเจอกับ น้องปีใหม่ ลูกสาวสุดที่รัก และมีแพลนแต่งงานกันไว้บ้างด้วยหรือเปล่า

ล่าสุดสงกรานต์ ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องความรักครั้งนี้ผ่าน จริง ๆ ก็ไม่ได้เปิดตัวอะไรมากขึ้น เราใช้ชีวิตตามปกติ เรื่องลงรูปก็มองว่ารูปมันสวยและเหมาะสมจึงตัดสินใจลง ยอมรับว่าตัวกระแสก็มีส่วนในการลงรูป ส่วนเรื่องที่ปิดคอมเมนต์นั้นก็ยอมรับว่าเป็นการเซฟในระดับหนึ่ง เพราะบางทีมันก็มีคำหยาบเกินไป กับ แมท ภีรนีย์ ที่โดนกระแสโจมตี ตนมองว่าเขาแข็งแรงอยู่แล้ว เขาอยู่ในวงการ ทำงานมาตั้งแต่เด็ก เขาผ่านมาเยอะ หนักกว่านี้เขาก็ผ่านมาได้ ส่วนถามว่าเราชินหรือยัง เราเองก็โดนด่ามาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน และที่เราตอบคอมมเนต์กลับไปอย่างที่บอกว่าเป็นการเตือนสติ ไม่ได้หาเรื่อง

เมื่อถูกถามว่ากระแสโจมตีต่าง ๆ ทำให้เหนื่อยกับรักครั้งนี้ไหม สงกรานต์ ก็เผยว่า วัน ๆ เจอเรื่องเหนื่อยกว่านี้เยอะ ทำงานเหนื่อยกว่านี้อีก คือถ้าเรามองให้ใหญ่มันก็ใหญ่ ถ้าเรามองมันเล็กมันก็เล็ก เราไม่ใช่ฟองน้ำ เราไม่จำเป็นต้องซึมซับทุกอย่างเข้ามา เราสามารถเลือกได้ เขาเองก็เข้มแข็ง

ส่วนเรื่องสถานะที่คบหากันมาเกือบครบปีแล้วสามารถใช้คำว่า แฟน ได้หรือยัง เจ้าตัวก็เผยว่า มันไม่ต้องบอกแล้ว แค่การกระทำและการใช้ชีวิตก็ชัดเจนในตัวของมันแล้ว ถามว่ามีมองเรื่องอนาคตถึงขั้นแต่งงานไว้เลยไหม ตนมองว่า ก่อนจะคิดถึงตรงนั้น ตนก็ต้องทำตัวเองให้พร้อมทุกอย่างก่อน เรื่องงานและอะไรหลาย ๆ อย่างต้องชัดเจนก่อน ก่อนจะลากใครมาร่วมชะตากรรมก็ต้องพร้อมที่จะซัพพอร์ตคนอื่นก่อน เราเองก็ยังไม่ได้คุยกัน ตอนนี้ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าตัวเองยังไม่แข็งแรงพอทั้งกายและใจ

สงกรานต์ ยังเผยต่อว่า แมท ได้มีโอกาสได้เจอกับทางครอบครัวบ้างแล้ว เขาก็ถามถึงเรื่องทั่ว ๆ ไป ส่วนกับ น้องปีใหม่ เขาก็โตขึ้นเร็วมาก เจอกันทุกอาทิตย์ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง เริ่มรู้เรื่องมากขึ้น มีสไตล์เป็นของตัวเอง ไม่มาทางสปอร์ตแบบเราเลย เขาชอบแสดงออก เราเองก็พยายามระวังตัวเองมากขึ้นเวลาพูดจาอะไร เพราะกลัวลูกพูดตาม กลัวแม่เขาว่าด้วย ถามว่าจะเริ่มคุยกับลูกเรื่องการแยกทางกันของพ่อแม่เมื่อไรนั้น ตนมองว่ามันยังไม่ถึงเวลา แต่เราเองก็ต้องวางแผนให้ดี เขาเองก็ยังไม่เคยถาม

หากถามว่ากังวลไหมหากไปโรงเรียนแล้วเขาจะโดนคนอื่นถาม คิดว่าคงไม่มี เราเองก็สแตนด์บายอยู่ตลอดเวลา ถ้าเขาต้องการเรา เราก็ไปได้ทันที เขาไม่ได้ขาดอะไร ส่วนที่หลายคนโจมตีว่าเราไม่ค่อยลงรูปกับลูก ตนมองว่าเราห้ามความคิดคนไม่ได้