โอ๊ต แอ ประกบคู่ภาพนตร์มหาบุญแห่งปี “777นะชาลีติ”

เปิดตัวภาพนตร์มหาบุญกุศลแห่งปี "777นะชาลีติ" ต้อนรับเดือนมหาบุญแห่งวัน มาฆบูชา 2561 โดยยกเอาเรื่องราวของ พระสีวลีเถระ หรือ พระสีวลี ผู้เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล อยู่ในพระครรภ์ถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน บรรลุพระอรหันต์ในขณะที่ปลงเกศานั่นเอง และหลังจากผนวช ท่านเป็นผู้มีลาภสักการะมากด้วยกุศลกรรมที่ทำมาแต่อดีต ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง ผู้มีลาภมาก เป็นที่น่ายินดีสำหรับคนไทยที่จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ อำนวยการสร้างโดย อ.โชตณภร บวรมหาบุญบารมี ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง ครูมิ้งค์-เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร พร้อมทั้งเขียนบท แถมได้ขนทัพที่ปรึกษาฝีมือเยี่ยมมากประสบการณ์อย่าง ต๋อย จรินทร์ พรหมรังสี ที่ปรึกษาภาพยนตร์-กำกับคิวแอคชั่น และ สิทธวัชร์ ทัพแป้นวง ที่ปรึกษาภาพยนตร์ มาร่วมทีมสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย

พร้อมกับทีมนักแสดงจิตอาสาที่มีแรงศรัทธาในเรื่อง "พระพุทธศาสนา" ที่ต่างตั้งใจร่วมบุญผ่านการแสดง นำแสดงโดย โอ๊ต สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์, แอ ภัทราริน ปัญญานุตธรรม, จ็อบ ไตรรงค์ ชัยนรานนท์, ตวง สาวิกา กาญจนมาศ, แจ็ค อธิบดี(แจ็คไอเฟล), เอ็มมี่ อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์, อาท รณชัย, วิน ภูริวัช สิงคลีบุตร , ต้อม นิรันดร์ อัญชลี , ชายแฮ็คส์ สุทธา ทวีศรีธนโชค (ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต ไอพีเอ็มทีวี), เอก ธนโชติ กุสุมรสนานันท์ (เอก เดอะสตาร์) , หญิง อภิสรา รักชาติ , กวางขาว อเนกลาภ , บิว นิภาวรรณ กวินทิพยกุล , เจนนี่ นภัสสร คิ้วงาม (ยายหวังดี-ตีสิบ), คุณสหรัตน์ นพรัตน์ ที่ปรึกษาโครงการพระสีวลี777ผู้ทรงเกียรติ พร้อมนักแสดงกิตติมศักดิ์ ม.ร.ว.จิราคม กิติยากร, โฉมฉาย อรุณฉาย, ว่าที่ร้อยตรี ธนัท ชัชวาลย์ , เมธา เทพพิทักษ์ พร้อมนักแสดงสมทบ อาร์ตี้ อชินวัฒ หุตะจิต , แอน ธิดารัตน์ มากศรี , เป้ อธิวัฒน์ จิรชยาสินธรณ์ , นริศ เกษร , บริ๊งค์ อภินันท์ วสุรัตต์ ,โตโต้ ธนเดช โอภาสธัญกร , เค เอกณัฎฐ์ ศิริพรภิรมณ์ , มี้นิล ชญาธร เจริญฤทธิ์ , นิ่ม ภูริชศักย์ ทรงแสงจันทร์, เบิ้ม นาตติพงษ์ ด้วงเพชร , ปาล์ม ชนาวัฒน์ อิศรางกูร ณ.อยุธยา , ไก่ สรฤกษ์ ถมยา , ร้อยเอก กฤตวัฒน์ สุพรรณนพสุพรรณนพ , เร รัตน์ฟ้า วีรยุพรัตน์ , อัม อมรา พลายมี, เก๋า นพวีท์ สร้อยเกสร, นกฮูก จงกล ศุภพรปัญญา, ชาไท วิยาทิตย์ แฝพิมาย ,ใบพัด ปภัสสร ตั้งอุดมรัตนกุล , มาสเตอร์ อัครนันท์ จรูญฐิติธรรม , อ.เปรม เปรมฤดี รณรื่น , และนักแสดงอีกคับคั่ง

ป๊อบ (โชตณภร บวรมหาบุญบารมี) ได้ตั้งจิตอธิฐาน จะมอบพระสีวลี ให้วัดทั่วประเทศไทย หลังจากเสร็จพิธีสมโภค ชาย (สุทธา ทวีศรีธนโชค) และ มี้นิล (ชญาธร เจริญฤทธิ์) ข้องใจเหตุใดที่ทำให้ป๊อบ มุ่งมั่นทำโครงการถวายพระสีวลีนี้ ป๊อบ จึงเล่าเรื่องอดีตชาติ 4 ชาติกำเนิด ก่อนมาเกิดเป็นพระสีวลี การสะสมบุญ สร้างบารมี มหาโภคทรัพย์ ของ พระสีวลีเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก

 

ภพชาติที่ 1 พระสีวลีเกิดเป็นเศรษฐีชื่อ นะชา (โอ๊ต สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) เป็นคนพาลเกเร ชอบเอาเปรียบชาวบ้าน จนได้มาเจอ พระสุทัสสนเถระ(โชตณภร บวรมหาบุญบารมี) บารมีของท่านทำให้ นะชา เลิกละนิสัยพาลเกเร หันมาสร้างบุญสร้างกุศล และอธิษฐาน ขอบุญที่สร้างสมให้ได้เกิดมาเป็นพระเถระที่มีบารมีมีลาภมาก เสมือนพระสุทัสสนเถระ พระปทุมุตระ สัมมาสัมพุทธเจ้า(ไตรรงค์ ชัยนรานนท์) จึงตรัสให้พรให้นะชาสมปราถนา

ภพชาติที่ 2 พระสีวลี เกิดเป็น ชาวบ้านป่าชื่อ ฉิมพลี (โอ๊ต สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) ฉิมพลีตั้งใจเอาน้ำผึ้งมาขายในเมือง แต่พอรู้ว่าชาวเมืองต้องการน้ำผึ้งไปถวาย พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า (ไตรรงค์ ชัยนรานนท์) เพราะ พระเจ้าพรหมทัต (เอกณัฎฐ์ ศิริพรภิรมณ์) และพระนางอุพพรี (ประภัสสร ตั้งอุดมรัตนกุล) ได้จัดแข่งถวายมหาสังฆทาน ระหว่างชาวเมืองกับราชวงศ์ ชาวเมืองแพ้ขาดน้ำผึ้ง ฉิมพลีเกิดกุศลจึงไม่ขายน้ำผึ้งแต่ขอร่วมถวายมหาสังฆทานครั้งนี้ ซึ้งเป็นการสะสมบุญครั้งยิ่งใหญ่ของฉิมพลี

ภพชาติที่ 3 พระสีวลี เกิดเป็น เจ้าชายลีติ (โอ๊ต สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) พระราชโอรส พระเจ้ากาสี (อธิบดี พันตาวงษ์) กับ มหาราณีทราวาตี (สาวิกา กาญจนมาศ) เวลานั้นกรุงพาราณาสี เกิดศึก พระเจ้าโกศล (จรินทร์ พรหมรังสี) ได้บุกเข้ายึดเมืองฆ่าพระเจ้ากาสีทิ้งและ

 

บังคับมหาราณีทราวาตีเป็นมเหสีตัวเอง เจ้าชายลีติ โกรธมากจะเข้าเมืองมาแก้แค้น บุญยังมี ราณีกุตลา (ภุมวารี ยอดกมล) พระชายาห้ามไว้ทัน แม่ทัพทยุมัน (ธนโชติ กุสุมรสนานันท์) จึงได้เล่าแผนการที่มหาราณีทราวาตีวางแผนไม่ต้องรบแต่ให้ล้อมเมืองทุกด้านตัดขาดจากโลกภายนอกไม่นานก็ชนะ

แต่พระเจ้าลีติกลับล้อมเมืองอยู่ถึง 7ปี7เดือน ถึงได้รู้ว่าทหารเมืองโกศลแอบออกนอกเมืองทางประตูเล็กเลยไม่เดือดร้อน พระเจ้าลีติจึงปิดล้อมประตูเล็กอีก7วัน เป็นเหตุให้พระเจ้าโกศลถูก คนสนิทฆ่าตัดคอและคืนเมืองพาราณาสีให้พระเจ้าลีติ แม้จะชนะศึกแต่ท่านสร้างบาปไว้มาก เพราะมีชาวเมืองที่อดตายขาดอาหารและยา เมื่อพระเจ้าลีติตาย จึงได้ตกนรกไปฟังคำตัดสินจาก พยายมราช(ว่าที่ร้อยตรี ธนัท ชัชวาล)

ภพชาติที่ 4 สมัย พระสมณโคตรม สัมมาสัมพุทธเจ้า(ไตรรงค์ ชัยนรานนท์) มหาราณีทาราวาตีมาเกิดเป็น พระนางสุปปวาสา (สาวิกา กาญจนมาศ) พระธิดาเจ้าเมืองโกลิยะ พระเจ้าโกลิยะ (ม.ร.ว.จิราคม กิติยากร) พระมเหสีพระนางมาลินี (โฉมฉาย อรุณฉาน) พระนางสุปปวาสา ทรงรับกรรม ในอดีตชาติ ที่ยุยงบุตรชายไปล้อมเมืองผู้ครองเมือง7ปี7เดือน7วัน ทำให้ตั้งครรถ์นานถึง7 ปี7เดือน เกิดทุกข์เวทนายิ่งนัก ก่อนตายจึงขอให้พระสวามี เจ้าชายลิลิจฉวี (อธิบดี พันตาวงษ์) ไปนิมนต์พระพุทธเจ้ามารับถวายทาน นางอัมราปารี (เอ็มมี่ อมลวรรณ) และ นางมหาสุภัทรา (หญิง อภิสรา) ได้ช่วยดำเนินการจนพระพุทธเจ้ารับนิมนต์ และให้พร พระนางสุปปวาสาว่า "พระนางสุปปวาสา ผู้เป็นพระราชธิดาของพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข ประสูติพระโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด" เมื่อสิ้นพระพุทธดำรัส พระนางสุปปวาสา ได้ประสูติพระโอรสง่ายที่สุดเปรียบประดุจน้ำไหลออกจากหม้อ พระญาติทั้งหลายได้ขนานนามให้ว่า "สีวลีกุมาร" สีวลีกุมาร(ด.ช.อัครนันท์) เห็นทุกข์ตั้งแต่อยู่ในครรถ์พระมารดา จึงออกบวชตามคำชวนของพระ พระสารีบุตรเถระ(อาท รณชัย) และบรรลุธรรมเป็นพระอรหัต ขณะปลงผมบวชด้วยวัย 7 ปี

เมื่อเติบใหญ่ พระสีวลี (โอ๊ต สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) ถูกพระปุณณมันตานีบุตร (เมธา เทพพิทักษ์) ริษยา แต่ด้วยพระเถระรูปนี้ปฎิบัติดีแต่ขาดวิจารณญาณทำให้กิเลสครอบง่ำ พระพุทธเจ้า จึงตรัสกับ พระอานนท์ (นิรันดร์ อัญชลี) จะสอนบทเรียนพระปุณณมันตานีบุตร ด้วยการเดินธุดงส์ไปเยี่ยมพระเรวตะที่ป่าไม้ตะเคียน ซึ่งเป็นเส้นทางกันดานไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่การเดินทางครั้งนี้ กลับสะดวกสบายไม่ลำบากเพราะ พระมหาพรหมชินนะปัญชะระ (สุทธา ทวีศรีธนโชค) และพญานาคทัตเทวราช (วิยาทิตย์ แฝพิมาย) เนรมิตศาลาริมทางพร้อมถวายอาหารตลอดเส้นทาง ด้วยบารมีพระสีวลี และคำสอนจากพระสารีบุตร และ พระโมคคลานะ(ภูริวัช สิงคลีบุตร) ทำให้พระปุณณมันตานีบุตร เข้าใจในบารมีของพระสีวลี ละกิเลสได้