ไก่-มีสุข เมินหมอดูทักดวงขึ้นคาน!ยันรักอังกูรฉลุย

ซีเรียสมั้ยเพราะเดี๋ยวมีคนเอาชื่อดาราไปดูดวงบ่อย

"เอ่อ...ถามว่าซีเรียสมั้ย พี่ว่าถ้าคนมีความเชื่อเรื่องหมอดูเค้าก็จะเชื่ออยู่แล้ว แต่ถ้าเราเชื่อเยอะ พอเราไปดู แล้วเชื่อเค้าเกิน 50% จิตเราจะถูกสั่งอย่างนั้นเลย ยิ่งคนบอกว่าหมอดูคนนี้แม่นด้วย ยิ่งแล้วใหญ่ เราก็จะเชื่อว่าเราขึ้นคาน จากนั้นเราก็จะใช้ชีวิตแบบคนเตรียมขึ้นคานนะ อย่างเนี่ยเค้าบอกว่าเราขึ้นคาน

เพราะฉะนั้นเวลาเราทะเลาะกับใครมันก็จะไม่มีการอะลุ่มอะล่วย

เพราะเรารู้สึกว่าจะต้องขึ้นคานในอนาคตแน่นอน ก็เลยบู๊เต็มที่ แต่สำหรับตัวพี่ไก่เองเนี่ย ไม่ได้ลบหลู่นะคะ แต่ก็เวลาพี่ทำงาน เวลาใช้ชีวิต ก็จะมีแนวทางของตัวเองอยู่แล้ว และก็เชื่อว่าสุดท้ายชีวิตคู่จะไปรอดหรือไม่รอด มันก็ขึ้นอยู่ที่คนสองคนจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่หมอดู พ่อแม่ ครอบครัว หรือคนรอบข้าง มันอยู่ที่คนสองคนจริงๆ ค่ะ"

โกรธมั้ยที่มีคนมาฟันธงแบบนี้

"ไม่เลย จริงๆ นะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะกังวลนะ แต่เดี๋ยวนี้ถ้าเค้าเอาดวงเราไปดูก็แสดงว่าเรายังเป็นคนที่เค้าให้ความสนใจอยู่ ก็ขอบคุณค่ะ"

แล้วจะมีโครงการวิวาห์เร็วๆ นี้ไปเลยมั้ย

"ไม่เร็วๆ นี้หรอกค่ะ ก็คุยกันบ้าง คุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายก็คุยกัน แต่ก็ต้องดูที่ความลงตัวเป็นหลัก คงต้องรอปฏิทินปีหน้าก่อน แล้วค่อยเอาดวงเราสองคนไปดูว่าได้วันไหน แล้วก็ต้องดูฤกษ์สะดวกด้วยค่ะ"

ถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นปีหน้าใช่มั้ย

"ก็ถ้าคบถึงปีหน้าก็โอเคค่ะ (หัวเราะ) พูดเล่นนะคะ"

เสียความรู้สึกมั้ยที่นอกจากจะเลื่อนงานแต่งแล้วยังมีหมอดูมาฟันธงซ้ำอีก

"ไม่เลยค่ะ เพราะว่า กว่าที่พี่จะอายุ 34 เนี่ย เราเจออะไรมาเยอะมากนะ แต่ที่พวกเรารู้กัน ที่เป็นข่าวเนี่ย มันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมามันมีทั้งภาพที่เป็นความสุข และมรสุม แต่เราผ่านพ้นไปได้เพราะ เราต้องมีจุดยืนเป็นของตัวเองเสมอทุกครั้งที่เกิดเรื่อง ทุกอย่างเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ความสุขของวันนี้พอจบวันนี้มันก็จบ มันไม่มีอะไรแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าวันหนึ่งมีความทุกข์มันก็จะผ่านไป อย่าไปฟูมฟายว่าชีวิตนี้จะไม่มีอะไรอีกแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ มันต้องมีทั้งสองมุมค่ะ"

คุณพ่อคุณแม่เร่งมั้ย

"ไม่เลย เค้าจะรู้ว่าไก่ทำงานหนักมาก ทุกครั้งที่ทำงานเสร็จ แล้วมีตังค์ส่งให้ที่บ้าน ให้น้องได้ พอเห็นเราทำงานหนัก คุณพ่อคุณแม่ก็จะไม่มานั่งจู้จี้กับเรา เราก็สบายใจค่ะ" ไก่กล่าว