โม โต้ข่าวตบกลางผับ

"แตงโม" ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ยืนกรานความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยเข้าไปทำร้ายใครตามที่เป็นข่าว

ปลงตกไม่ขอยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกต่อไป ขอโทษประชาชนที่มีส่วนทำให้ภาพวงการดูไม่ดี  มีข่าวฉาวๆ ตลอดทั้งปีเหมือนกัน สำหรับดาราสาว "แตงโม" รวมถึงเรื่องล่าสุดที่มีข่าวออกมาว่ามีคลิปภาพของเธอกำลังตบตี ทะเลาะกับคนนอกวงการในผับย่านเอกมัย ซึ่งดาราดังแจกแจงให้ฟังระหว่างถ่ายทำละคร "เพียงผืนฟ้า" ว่า
 

 "จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องของโม ต้องย้อนไปว่าวันนั้นเป็นวันฮัลโลวีน โมทำงานเสร็จแล้วก็ไปเที่ยว

โต๊ะโมมี 20 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายไม่ค่อยมีผู้หญิง แล้วมันก็เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เรื่องเป็นยังไงโมไม่ทราบ ไม่ทราบที่มาที่ไป แต่โมห่วงว่าเพื่อนโมต้องเจ็บแน่นอน จะให้โมยืนเฉยๆ ก็ทำไม่ได้ โมก็เลยจะเข้าไป แต่ไม่ได้เข้าไปห้าม และก็ไม่ได้เข้าไปช่วย เพราะโมไม่รู้เรื่องว่าใครทำยังไง โมแค่จะเข้าไปเอาเพื่อนออกมา ตัวโมไม่ได้โดนลูกหลงอะไรเลย เพราะอยู่ห่างประมาณ 3-4 โต๊ะ 

 "วันนั้นก็มีแสงแฟลชถ่ายรูป โมก็ไม่ทราบว่าผู้ใหญ่จะว่ากับเรื่องนี้ยังไง แต่โมมีเหตุผล

และคิดว่าผู้ใหญ่ก็คงเข้าใจ เห็นผลที่โมรักเพื่อน ช่วงนี้นางเอกช่อง 7 ก็ขยันรักเพื่อนด้วย (หัวเราะ) แต่โมว่าก็คงเป็นอย่างนี้กันทุกคน ถ้าเป็นพี่ๆ สื่อมวลชนก็ต้องเป็นอย่างโม แต่ว่าต่อไปนี้ก็คิดเหมือนกันว่าจะไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านแล้ว เพราะเป็นเรื่องคนอื่น แต่สุดท้ายโมรับ ก็ขอแอบเป็นห่วงอยู่เงียบๆ ดีกว่า" 

 "แต่ก็เอาเถอะ ไม่เป็นไร ก็เข้าใจว่าที่โดนถ่ายคลิปวิดีโอ เพราะตัวเองเป็นคนที่คนอื่นรู้จัก เขาก็ต้องถ่ายเรา" 

 ต่อคำถามที่ว่า การที่เธอจะเข้าไปช่วยเพื่อนคนดังกล่าว ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหนุ่มไฮโซที่ตกเป็นข่าวกับเธอด้วย ซึ่งก็คือ "ก้อง" การุณ ซอโสถิกุล นั่นเอง กับตรงนี้ แตงโม กล่าวว่า เธอไม่ขอเอ่ยถึง ให้ไปถามทางเจ้าตัวเอง
 

 "ต่อไปนี้เวลาจะทำอะไร ก็คงจะต้องคิดถึงผลได้ผลเสียมากขึ้น โมเองก็ยอมรับเลยว่าตัวเองขาดสติ ปีนี้ไม่รู้เป็นยังไง โดนมา 3 เรื่องแล้ว ตั้งแต่เรื่องรถ เรื่องรถคว่ำ และก็มาเรื่องนี้อีก ถามว่าทำบุญบ้างไหม ตัวโมเองนับถือศาสนาคริสต์ แต่ก็มีซื้อโลงศพสะเดาะเคราะห์บ้าง
 

ซึ่งโมเชื่อว่าทุกเรื่องขึ้นอยู่ที่ว่าเรามีสติหรือเปล่า

จริงๆ โมเป็นคนใจเย็น แต่นาทีนั้นมันเหมือนเห็นพ่อเราตกอยู่ในสภาพที่เราทนเห็นไม่ได้ มันยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ก็ต้องขอโทษประชาชนที่อาจจะมองว่าวงการนี้ดี แต่พวกโมกลับมาทำแบบนี้ คนก็อาจมองว่าทำไมเป็นดาราแล้วใจร้อน ก็คิดว่าต่อไปนี้คงจะต้องรักษาภาพให้มากขึ้นกว่านี้" โม กล่าวปิดท้าย