หนิงVsไฮโซน้ำหวาน ต่างฝ่ายต่างขอจบ!

เป็นประเด็นไม่จบ หลังจากมีกระแสข่าวว่า “ไฮโซน้ำ วรพรรณ” โพสต์รูปกรวดน้ำ

 คนเลยมองว่าเหน็บคู่กรณี “หนิง ปณิตา” ล่าสุดเจอตัว “ไฮโซน้ำหวาน” ในงานเปิดตัวธุรกิจความงาม Skin Buffet จึงถามเรื่องนี้กัน

“ที่สัมภาษณ์ก็คือจะไม่มีคำตอบใดๆ ออกมาจากหวานอีกแล้ว เรื่องจบไปนานแล้ว”

 แล้วที่เราโพสต์รูปกรวดน้ำ คนเลยโยงไปหาหนิง?
 “หวานว่ามันคงไม่มีโพต์อะไรต่างๆ นานาขนาดนั้นจากหวานค่ะ ถ้าคิดว่าหวานทำไม่ดีหรือไม่สมควรและไม่เหมาะก็ขอโทษ ณ ตรงนี้ หวานอยากให้เรื่องจบ ไม่อยากให้ยืดเยื้ออีกต่อไป หวานเป็นเด็กก็ขอโอกาสให้หวานได้ทำงาน เราเป็นหุ้นส่วนคนนึงก็อยากให้เกียรติสถานที่ที่นี่ ไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานมาเกี่ยวข้องกัน”

กับตำแหน่งที่ถูกยัดเยียดว่า “เมียน้อย” หนิงบอกไม่ได้พูดแต่สังคมเป็นคนมอบให้?

 “หวานไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้เลยค่ะ ไม่โกรธหรือว่าอะไรเลยแล้วแต่ความคิดเห็นคน”

ช่วงนี้ยังเครียดและกดดันอยู่ไหม?
 “ไม่ค่ะ หวานก็อยู่อย่างนี้ ทำงานไปเรื่อยๆ หวานเพิ่งจบมาก็อยากทำงานให้พ่อแม่ภูมิใจบ้าง ที่ผ่านมาก็มีเรื่องมาเยอะพอแล้ว” ครอบครัวว่าอย่างไรกับเรื่องข่าวบ้าง? ”เขาไม่อยากเข้ามายุ่งเรื่องนี้ เขาก็ให้กำลังใจอยู่ค่ะ”

เรายังติดใจเอาความคนที่ว่าเราอยู่ไหม?
“ไม่มีเลยค่ะ” พี่หนิงบอกว่ายังไม่เคยได้ยินคำขอโทษจากปากเราเลย? “เมื่อกี้หวานก็ขอโทษไปแล้ว ถ้าใครคิดว่าหวานทำอะไรไปโดยที่ไม่ถูกต้อง หวานก็ไม่สามารถไปบังคับความคิดของใครได้”

ถ้าอีกฝั่งยังบอกว่ามีหลักฐานใหม่อยู่ล่ะ?
“ก็ไม่เกี่ยวกับหวานแล้วล่ะค่ะ

ในขณะที่ฝั่ง 'หนิง ปณิตา' เองก็ขอ ยุติเรื่องราว ทั้งหมด ให้จบเพียงเท่านี้ ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดอีก

“เขาขอโทษมา ก็โอเคค่ะ จริงๆ หนิงก็ไม่ได้ติดใจอะไร ถ้าเขาบอกจบก็คือจบจริงๆ ค่ะ เรื่องอื่นๆ ก็ยืนยันว่าไม่มีความคิดเห็นอะไรค่ะ ส่วนในอินสตาแกรมของหนิงก็ยังมีคนมาวุ่นวายอยู่ ก็ยังมีอยู่แต่ตัวหนิงเองถ้ามีอะไรเข้ามาในฐานะเจ้าของ หนิงก็จะลบทิ้งไป ไม่อย่างนั้นแฟนคลับหรือคนที่รักหนิงเขาก็จะเอาไปเขียนตีกันไปมา แล้วเรารู้สึกว่าอินสตาแกรมมันเป็นที่ที่เราแฮปปี้จะลงรูปหรือโพสต์ข้อความคุยกับคนที่รักเรา พอมีเรื่องที่คนมาทะเลาะกันแล้วเราต้องอ่านเรารู้สึกว่าเราไม่แฮปปี้ค่ะ ก็ไม่ได้สืบว่าใครก่อกวน ปล่อยไปแล้วกัน เพราะจริงๆ แล้วโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คมันจับมือใครดมลำบากค่ะ

ถ้าถามตัวหนิงเองตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้มันส่งผลเยอะแน่นอน อย่างที่บอกคือเวลามางานเราก็ต้องมานั่งตอบคำถามเดิมๆ แล้วเวลาหนิงไปไหนแทนที่ใครๆ เขาจะสนใจลูกหนิง กลายเป็นพูดถึงแต่เรื่องนั้น ซึ่งมันก็ตอกย้ำเรา พอตอกย้ำเยอะๆ เข้าเราเป็นผู้หญิงเราก็มีหัวใจ บางทีมองภายนอกอาจจะเหมือนว่าเราแข็งแรงแต่จริงๆ แล้วเราไม่ใช่ หนิงเป็นคนค่อนข้างเซ้นซิทีฟเรื่องนี้เหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าใครเจอหน้าหนิงก็อย่าถามเรื่องนี้เลยค่ะ เรื่องคลื่นใต้น้ำก็ขอให้มันไม่มีเถอะค่ะ ภาวนาให้ครั้งนี้ไม่มีอะไรอีกแล้ว มันจะได้ดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ส่วนจินก็คอยให้กำลังใจหนิงอยู่ตลอดว่าอย่าไปคิดอะไรมาก อย่าไปใส่ใจ คือเขาก็ดีเพราะเขาคอยให้กำลังใจเราตลอด เขาก็ทำได้อย่างเดียวคือคอยให้กำลังใจแต่สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับหนิงว่าหนิงจะแข็งแรงได้เร็วแค่ไหน กำลังใจสำคัญที่สุดค่ะ อีกอย่างที่สำคัญสำหรับหนิงก็คือลูก ทุกวันนี้ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่หนิงทำได้ทุกอย่างเพื่อลูกค่ะ”