ไขรหัสทุกคำถามเกี่ยวกับ แอนนา นิโคล สมิธ

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดารานานาชาติ ไขรหัสทุกคำถามเกี่ยวกับ แอนนา นิโคล สมิธ

จากการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ แอนนา นิโคล สมิธ อดีตดาวยั่วนางแบบเพลย์บอยชื่อดัง

ได้สร้างคำถามให้เกิดขึ้นมากมายเพราะขณะที่เธอยังมีชีวิตอยู่หลายๆปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอเองก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดออกมา และเมื่อเธอมาเสียชีวิตลงอย่างกระทันหันทำให้คำถามต่างๆเพิ่มขึ้นทวีคูณ ตามรายงานจากพีเพิล

การเสียชีวิตอย่างกระทันหันครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามที่ว่าเธอเสียชีวิตได้อย่างไร?

การเสียชีวิตของเธอยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งการชันสูตรศพจะทราบผลที่แน่ชัดในเร็วๆนี้และการทดสอบทางพิษวิทยาจะเป็นการตัดสินสาเหตุการเสียชีวิตของเธอในท้ายที่สุด เมื่อไม่นานมานี้แอนนาก็ต้องต่อสู้กับปัญหาทางด้านสุขภาพมาได้ระยะหนึ่ง นอกจากนั้นในสถานที่เกิดเหตุที่โรงแรมก็มีพยาบาลอยู่กับเธอในห้องพักและสิ่งนี้ก็สร้างข้อสงสัยเช่นกัน

ว่าทำไมพยาบาลถึงต้องอยู่ที่นั่นด้วย

เมื่อมองย้อนไปจะพบว่าก่อนหน้านี้แอนนาเคยถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ครั้งนั้นเธอมีไข้ขึ้นสูงและเป็นปอดบวมก่อนที่เธอจะมาเสียชีวิตลงในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามไซรีล เวชช์ท ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพยาธิวิทยาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการเสียชีวิตของลูกชายแอนนาที่เชื่อว่าการเสียชีวิตของลูกชายเธอมาจากหลายสาเหตุทั้งเรื่องของการใช้ยาและเกี่ยวกับโรคหัวใจ และเขาเองก็คาดการณ์ด้วยว่ามีความเป็นไปได้ที่แอนนาจะมีปัญหาของโรคหัวใจแบบเดียวกับที่ลูกชายเธอเป็น

อีกหนึ่งคำถามที่คนอยากรู้มากเลยทีเดียว เกี่ยวกับเรื่องมรดกของแอนนา ว่าจะจัดการอย่างไรและจะตกอยู่กับใคร?

เรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นไปด้วยดีสำหรับแอนนา เธออ้างว่าอดีตสามี เจ. ฮาวาร์ด มาร์แชลที่สอง เศรษฐีน้ำมันพันล้าน ได้ให้สัญญาว่าจะยกทรัพย์สินหลายล้านเหรียญให้กับเธอหลังจากที่เขาเสียชีวิตลงเมื่อปี 1995 มรดกดังกล่าวทำให้เธอต้องพัวพันยุ่งเหยิงอยู่กับลูกชายของมาร์แชล ที่ต้องต่อสู้กันเรื่องมรดกไม่จบไม่สิ้น โดยคำตัดสินของศาลแคลิฟอร์เนีย ได้ตัดสินให้แอนนาได้รับเงินจำนวน 474 ล้านเหรียญสหรัฐ

และต่อมาก็มีการล้มล้างคำสั่งของศาล

โดยสหพันธรัฐซึ่งครั้งนี้ได้สั่งให้ลดจำนวนเงินที่เธอควรจะได้รับทั้งหมดลงเหลือแค่ 88 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อมาเธอก็ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลจากนั้นก็ศาลก็ตัดสินว่าคำสั่งนั้นไม่มีผลใดๆกับเธอเพราะว่าศาลสหพันธรัฐไม่มีอำนาจในการตัดสินคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลเท็กซัส แต่ว่าเมื่อเร็วๆนี้ทางศาลสูงก็ล้มล้างคำตัดสินล่าสุดนั้นอีกครั้งและอนุญาตให้ทนายความของทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอกันอีกครั้งทีศาลในการนัดครั้งหน้า

เมื่อแอนนา เสียชีวิตลงจึงมีคำถามว่า แล้วทรัพย์สินเหล่านั้นจะตกถึงมือทายาทตัวน้อยอย่าง แดเนียลลีนหรือไม่?

เรื่องนี้ยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่นอน แต่เวลานี้มีทายาทเพียงผู้เดียวที่มีชีวิตอยู่นั่นคือ แดเนียลลีน หนูน้อยวัย 5 เดือน ที่ก่อนหน้านี้แดเนียล พี่ชายของเธอเพิ่งเสียชีวิตหลังจากที่หนูน้อยเกิดเพียง 3 วัน ตามหลักทฤษฎีแล้วลูกสาวอย่างเธอมีสิทธิ์เกือบทั้งหมดในทรัพย์สินถ้าไม่รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดของแอนนา ที่ต้องถูกเพิ่มเข้าไปในการสืบทอดมรดกครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามการตายของแอนนาในครั้งนี้ยังคงยุ่งเหยิงสับสนและยังไม่ได้รับการตัดสินใดๆ

ถ้าเช่นนั้นแล้วเธอได้จัดเตรียมหรือทำอะไรไว้เพื่อลูกสาวตัวน้อยของเธอหรือยัง?

จากกรณีดังกล่าวถ้าเธอเสียชีวิตลงโดยยังไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ตามกฏหมายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะตกเป็นของหนูน้อยแดเนียลลีน แต่ถึงกระนั้นในกรณีเช่นนี้เป็นไปได้ว่าจะทำให้มีความยุ่งยากมากขึ้นในชั้นศาลเป็นเวลาหลายปีเลยทีเดียว

ในกรณีความสัมพันธ์ของแอนนาและฮาร์วาร์ด เค. สเทิร์น ได้สร้างคำถามขึ้นมาว่าเขาได้แต่งงานกับนางแบบสาวอย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง?

คำตอบคือ ยัง พวกเขาสองคนแค่มีพิธีแต่งงานกันเท่านั้นในวันที่ 28 ก.ย. ที่บาฮามาส แต่มันก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องตามกฏหมายของบาฮาเมียนหรือกฏหมายอเมริกัน แต่ว่าทนายความของแอนนาได้กล่าวสรุปความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่า "พวกเขาสองคนเป็นสามีภรรยากันซึ่งมันเป็นความสัมพันธ์กันทางใจ"

นอกจากนั้นสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นข้อกังหาสำหรับหลายๆคนที่ว่าแล้วคุณพ่อที่แท้จริงของหนูน้อยแดเนียลลีนคือใคร?

เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ทั้งสเทิร์นและลาร์รี เบิร์คเฮด ช่างภาพ ( อดีตแฟนเก่าของแอนนาที่อ้างว่าเป็นพ่อของหนูน้อยเพียงแค่ไม่กี่วันก่อนที่แอนนาจะเสียชีวิต) ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้นำดีเอ็นเอของเขา มาตรวจพิสูจน์กับดีเอ็นเอของแอนนาและหนูน้อยแดเนียลลีน เพื่อค้นหาคำตอบที่แท้จริงว่าใครคือพ่อของหนูน้อยกันแน่ และเพียงไม่นานหลังจากที่เธอเสียชีวิตลงทนายความของเบิร์คเฮด ก็รีบมีคำสั่งด่วนให้รีบตรวจดีเอ็นเอจากร่างไร้วิญญาณของแอนนาทันที ซึ่งทนายของแอนนา ได้ประณามและคัดค้านอย่างรุนแรงพร้อมกล่าวว่า "ไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะสามารถทำอะไรที่ต่ำทรามได้ขนาดนี้"

เมื่อแอนนาเสียชีวิตลงและยังไม่ทราบว่าใครคือพ่อที่แท้จริงของหนูน้อยก็เกิดคำถามขึ้นว่า แล้วใครกันที่จะมีสิทธิในการดูแลหนูน้อยแดเนียลลีน?

ขณะนี้สเทิร์นเป็นผู้ดูแลอยู่ ซึ่งคำถามถึงสิทธิในการดูแลเด็กก็ถูกสานเข้าด้วยกันกับคำถามที่ว่าใครเป็นพ่อที่แท้จริงของหนูน้อย และท้ายที่สุดแล้วทางศาลจะตัดสินออกมาอย่างไร ซึ่งสเทิร์นก็ตัดสินเองโดยไม่รอคำสั่งศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเขาคือพ่อและยังเป็นผู้ที่จะดูแลหนูน้อยรวมถึงสิทธิในการเลี้ยงดูของหนูน้อยด้วย ซึ่งในช่วงเวลาที่แอนนาเสียชีวิตลงหนูน้อยไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่เธออยู่ที่บาฮามาสกับเพื่อนของแอนนา

ช่วงเวลาที่แอนนาเสียชีวิตเธอได้เสพยาเข้าไปหรือไม่?

แน่นอน ซึ่งตามรายงานจากแหล่งข่าวได้กล่าวไว้ว่า เธอกินยาแก้ไข้เข้าไป โดยการทดสอบทางด้านพิษวิทยาจะเป็นตัวตัดสินว่ายาที่เธอเสพเข้าไปนั้นมีการเสพยาตัวอื่นที่เป็นเป็นยาผิดกฏหมายด้วยหรือเปล่า? เพราะก่อนหน้านี้แอนนาอยู่ภายใต้การดูแลของจิตแพทย์ด้วย ซึ่งไม่รู้ว่ายาที่เธอเสพเข้าไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาเธอด้วยหรือไม่เช่นกัน

แล้วทำไมเธอถึงไปโผล่อยู่ที่ฟลอริดา?

เห็นได้ชัดว่าเธอเดินทางไปพักผ่อนที่ฟลอริดา เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า "เธอเป็นลูกค้าคนสำคัญของโรงแรมฮาร์ด ร็อก แอนด์ คาสิโน ซึ่งเธอไปที่นั่นอยู่บ่อย ๆ" ซึ่งงานนี้เธอมีแผนเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ในวันจันทร์และจะออกจากโรงแรมในวันศุกร์

สเทิร์น ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ด้วยหรือไม่?

ตามรายงานไม่ได้ระบุไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตัดสินใดๆว่าณ.สถานที่เกิดเหตุมีการกระทำที่ผิดกฏหมายด้วยหรือไม่ และยังไม่มีการระบุตัวผู้ต้องสงสัยใด ๆ ทั้งนั้นในกรณีนี้ สเทิร์นไปที่ฟลอริดาพร้อมกันกับแอนนา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังไม่ได้สรุปสำนวนว่าเวลานั้นเขาอยู่ในห้องพักที่โรงแรมในเวลาเดียวกับที่เธอล้มป่วยลงหรือไม่เช่นกัน

การเสียชีวิตครั้งนี้ของเธอมีผลกระทบอย่างไรบ้างกับการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย?

ไม่มีผลใดๆ ผู้บังคับบัญชาของบาฮาเมียนจะเดินหน้าสอบสวนคดีการเสียชีวิตของแดเนียล ลูกชายของเธอวัย 20 ปีที่เสียชีวิตเมื่อเดือนก.ย. ปีที่แล้ว ในเดือนหน้านี้ต่อไป ทางเจ้าหน้าที่ต้องการที่จะได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากสเทิร์น ซึ่งเขาเป็นผู้ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุในช่วงการเสียชีวิตของแดเนียล และเขายังเป็นผู้ร่วมเดินทางไปท่องเที่ยวในฟลอริดาครั้งนี้กับแอนนาอีกด้วย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์