เอมมี่ปลื้มบทคุณสน เป็นมาสเตอร์พีซการแสดง

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง แนะนำ พรีวิว หนังดัง เอมมี่ปลื้มบทคุณสน เป็นมาสเตอร์พีซการแสดง

ตี บท 'คุณสน' ในละครเรื่อง "อาญารัก" ทางช่อง 7 ชนิดร้ายสุดขั้ว จนชาวบ้านอิน ก็ขนาดตัวเองที่เล่นบทนี้ยังไม่กล้าเดินตลาดเพราะกลัวแม่ค้าตบ

วันนี้ จังหวะเหมาะ ลัดเลาะเข้ากองถ่ายละคร "อาญารัก" เพื่อหาเวลาคุยกับนักแสดงสาว 'เอมมี่'มรกต กิตติสาระ ที่กลายเป็นสาวฮอต หลังเล่นบทร้าย 'คุณสน' และถ่ายแบบชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ที่สร้างความฮือฮา

เพราะอะไรถึงยอมพลิกเล่นร้ายสุดขั้วในละคร "อาญารัก"
เอม มี่ - "จริงๆ เรื่อง อาญารัก มี่ถูกผู้ใหญ่วางตัวให้เล่นบทคุณสนตั้งแต่แรก แต่เราปฏิเสธ เพราะไม่เชื่อมั่นในฝีมือตัวเอง กลัวทำได้ไม่ดี รู้สึกกดดันมาก กลัวทำให้ทุกคนผิดหวัง แต่ก็ดีใจที่ผู้ใหญ่ยื่นโอกาสให้ และทางผู้ใหญ่ก็เรียกไปคุยที่ช่องอีกครั้ง พี่หน่อง (พลากร สมสุวรรณ) บอกว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้แสดงฝีมือ ก็เลยคิดว่าโอเคค่ะ รวมถึงมีโอกาสเจอพี่ดุ๊ก-ภาณุเดช ที่เคยเล่นเรื่องนี้ เขาก็เชียร์ให้เล่นและให้คำแนะนำว่าเวลาเล่นให้เต็มที่อย่ากั๊ก และบอกว่ามี่ได้เล่นเรื่องนี้ถือเป็นเกียรติอย่างสูงมาก"

คาแร็กเตอร์ 'คุณสน' เป็นอย่างไร
เอม มี่ - "ตัวสนเป็นลูกสาวกำนัน ห้าวๆ มันยากกว่าทุกเรื่อง ด้วยภาษาที่ย้อนยุค ไม่เคยพูดและไม่ เคยเรียนภาษาไทยจริงจัง มี่เรียนภาษาไทยจากพระใน วัดไทยในอังกฤษ และที่อ่านได้ก็เพราะคุณยายบังคับให้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยให้ท่านฟังทุกวัน มี่พูดไทยชัดเพราะคุณพ่อคุณแม่บังคับเวลาอยู่บ้านต้องพูดไทย ถึงจะเกิดและโตที่อังกฤษก็ต้องไม่ลืมภาษาไทย เป็นข้อดีที่ทำให้มี่นำมาใช้ในการอ่านบทได้ แต่บทเรื่องนี้เป็นภาษาไทยโบราณเราไม่คุ้น"

"ถ่ายช่วงแรก เครียดร้องไห้ คาแร็กเตอร์ยังไม่ลงตัว ทำให้ เล่นเกร็ง หลังๆ อาดาว (ดวงดาว จารุจินดา) แนะนำตอนเช็กเทป พอเข้าฉากกับพี่ทราย (เจริญปุระ) บ่อยๆ ก็สนิทกัน พี่ทรายเหมือนพี่สาวเป็น พี่เลี้ยงที่ดีค่ะ พอเข้าใจคาแร็กเตอร์และจับจุดได้ ยิ่งเล่นก็ยิ่งสนุก ตอนหลังเริ่มค้นพบตัวเองอย่างแท้จริง

ฉากไหนเล่นแล้วเครียดมากๆ
เอม มี่ - "ฉากที่โดนเสือหนักที่เล่นโดยพี่ตั๊ก (นภัสกร มิตรเอม) ข่มขืนค่ะ เครียดมากๆ เพราะไม่เคยเข้าฉากกับพี่ตั๊กมาก่อน และด้วยศักยภาพพี่เขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถทางการแสดงสูง มีรางวัลการันตี ได้ยินคนในกองถ่ายชม เรายิ่งเกร็ง และซีนแรกที่ต้องเข้ากับพี่ตั๊กคือซีนถูกเขาข่มขืน วันนั้นมี่จะไม่คุยกับใครเลย โดยเฉพาะพี่ตั๊ก แค่ไหว้เขาอย่างเดียว เพราะเราต้องการทำสมาธิ ถ้าคุยเดี๋ยวจะเกลียดเขาไม่ได้และไม่สามารถร้องไห้ได้"

"พอ เล่นออกมาแล้วก็ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง ฉากนี้ตอนเล่นมี่เจ็บตัวมาก เป็นแผลทั้งเนื้อทั้งตัวเลย เรารู้เราเล่นละครมาเยอะจะใช้เทคนิคเวลาโดนเหวี่ยงจะต้องล้มแบบไหน แต่เรื่องนี้ไม่ใช้เทคนิคเลย โดนลากจริงโดนใบไม้เปื้อนดินก็เปื้อนจริง พี่ตั๊กแรงเยอะค่ะ แต่เขาก็เซฟเราระดับหนึ่ง พอเขาลากเราไปและสั่งคัตปุ๊บ เขาก็อุ้มเราเพราะกลัวเราเจ็บ เล่นซีนข่มขืนเทกเดียวผ่าน"

คุ้มหรือเปล่ากับการเล่นละคร "อาญารัก"

เอม มี่ - "คุ้มมากค่ะ เป็นบทที่หินและเป็นบทมาสเตอร์พีซที่สุดตลอดเวลา 9 ปีที่ทำงานมา ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบท ผู้กำกับฯ และนักแสดงร่วม มี่เห็นพัฒนาการตัวเองตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ รู้สึกว่าตัวเองเล่นดีขึ้นจริงๆ และสิ่งที่ดีสำหรับละครที่ถ่ายไปออกอากาศไปคือมันสดมาก เวลาใครติชมมาเราสามารถแก้ไขได้"

เครียดไหมที่คนเอาไปเทียบกับ 'นก-จริยา' ที่เล่นเวอร์ชั่นก่อน
เอม มี่ - "ช่วงแรกๆ อาจจะเครียดด้วยคำพูดคน แต่ตอนหลังๆ ไม่รู้สึก เพราะไม่สามารถเปลี่ยนความคิดเขาได้ เป็นใครเล่นก็ถูกเปรียบเทียบอยู่ดี ไม่รู้ว่าจะแบกรับภาระความเครียดทั้งหมดนี้ทำไม เราก็ทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ค่ะ"

ผลตอบรับหลังละครออกอากาศมา เป็นอย่างไรบ้าง

เอม มี่ - "(หัวเราะ) เริ่มมีคอมเมนต์ในอินสตาแกรมว่าอยากตบ บางข้อความว่ากรรมสมัยนี้ตามทันนะ บ้างก็ว่าทำกับเนียนเดี๋ยวจะตกนรก คนดูเริ่มอินมาก เริ่มไม่กล้าเปิดอ่านข้อความแล้ว (หัวเราะ)"

"ตอน นี้ถือเป็นช่วงที่โอเค ไม่ว่าจะเป็นละคร ถ่ายแบบ เดินแบบ ทุกอย่างลงตัว คนให้ความสนใจ และด้วยบทที่แรง อีสน-อีช้อย เวลาไปไหนคนจะเรียกชื่อสองคนนี้ตลอดเวลาว่าเกลียดมาก ซึ่งเรากลัวจริงๆ นะ ไม่กล้าเดินตลาด เพราะคนในตลาดจะอินมาก (หัวเราะ) ตรงนี้ถือเป็นกำลังใจที่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะตายใจ ยังไงเราก็ต้องพัฒนาฝีมือตัวเองไปเรื่อยๆ และมี่ว่าเป็นนักแสดงที่ดีต้องมีความตั้งใจที่ดี ต้องมาจากข้างในจริงๆ มาตอนนี้ไม่ได้ยึดว่าต้องเป็นนางเอก เราอยากเป็นนักแสดงที่ทุกคนนับถือและชื่นชมยกย่อง คือต้องเล่นได้ทุกบท"

ตอนนี้สัญญากับช่อง 7 หมดหรือยัง
เอม มี่ - "ตอนนี้ยังมีสัญญาอยู่ค่ะ ยังไม่ได้คิดว่าจะต่อหรือไม่ต่อ มี่ว่าเราโฟกัสเป็นเรื่องๆ ดีกว่า ตอนนี้ขอโฟกัสเรื่อง อาญารัก ก่อนค่ะ"

แต่ก็มีข่าวว่าพอหมดสัญญากับช่อง 7 จะตาม 'ชมพู่-อารยา' เพื่อนสนิทไปอยู่ช่อง 3

เอม มี่ - "มันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้มี่ยังไม่ได้คิดถึงจุดนั้น ยังไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่เลย เราเองโตแล้ว ไม่ใช่เด็กแล้ว รอให้จบเรื่องนี้ปิดกล้องก่อนแล้วรอว่าผู้ใหญ่ท่านจะว่าอย่างไรดีกว่าค่ะ ตอนนี้ขอมุ่งโฟกัสเรื่องละครก่อน มี่ยังแฮปปี้กับทางช่อง 7 อยู่ เพราะถ้าไม่แฮปปี้คงไม่เล่นละครและทุ่มเททั้งกายและใจแบบนี้ ขอจัดการทีละเรื่องก่อนดีกว่าค่ะ"

มาทุกวันนี้ชีวิตลงตัวหรือยัง
เอม มี่ - "มี่ว่าตอนนี้เราบ้างาน นอกจากงานแสดงแล้วก็มีธุรกิจร้านเสื้อผ้า MERERA ที่สยามและอีกสาขาที่เอกมัย และตอนนี้กำลังทำเสื้อผ้าแบรนด์ตัวเองซึ่งมี่เป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ มีน้องๆ ดีไซเนอร์ที่เราต้องดูแล ซึ่งธุรกิจก็ไปได้ด้วยดี งานแสดงก็โอเคค่ะ"

วางอนาคตตัวเองอย่างไร
เอม มี่ - "ถ้าเรื่องงานแสดงมี่สนุกกับมัน ซึ่งก่อนจะเล่นละครเรื่อง อุบัติเหตุ เราอาจรู้สึกว่า หรือเราพอแล้วกับงานแสดง เพราะไม่ค่อยอินกับมันแล้ว แต่พอมาเล่น อุบัติเหตุ มันสนุก พอมาเล่น อาญารัก ยิ่งสนุก ทำให้มีไฟการแสดงมากขึ้นอีกครั้ง มี่คิดว่าด้วยเวลาการทำงานด้วยต้องเลือกบทที่เราอยากเล่น และธุรกิจส่วนตัวก็ไปได้สวย มี่อยากให้มันมั่นคงแล้วมี่ถึงจะวางมือได้ ตอนนี้ขอลุยงานแสดงและธุรกิจของเราค่ะ"

เอมมี่ปลื้มบทคุณสน เป็นมาสเตอร์พีซการแสดง

เรียกว่าอะไรๆ ก็ลงตัว

ขอยืนได้ด้วยตัวเองก่อนฝากชีวิตไว้กับใคร

"ตอนนี้ไม่ได้โฟกัสมากค่ะ แต่ก็มีคุยบ้าง" สาว 'เอมมี่-มรกต' เผยถึงเรื่องความรัก
จาก นั้นก็กล่าวว่า "มนุษย์มันต้องมี เพื่อให้รู้สึกว่าตัวเรามีค่าหรือมีใครสักคนที่ เขารอเรา อยู่และให้ความรู้สึกดีๆ กับเรา ให้เราพร้อมจะทำงานต่อ แต่สำหรับมี่ตอนนี้ก็แฮปปี้ที่จะอยู่แบบนี้ ไว้ให้มีเวลาที่จะโฟกัสและชัวร์ที่จะมั่นคงและมั่นใจกับตัวเองก่อนค่อยว่า กันอีกทีค่ะ"

ด้วยวัยเกือบจะ 30 ปีแล้ว มุมมองความรักแตกต่างจากช่วงวัยรุ่นอย่างไรบ้าง เอมมี่ตอบ "เมื่อก่อนอาจเป็นแนวทุ่มเทใหัความรัก พอไม่ได้ก็เสียใจ แต่ตอนนี้คิดว่าถ้าเราไม่สามารถยืนได้ด้วยตัวเอง เราคงไม่สามารถไปฝากชีวิตไว้กับใคร มี่เชื่อว่าผู้ชายสมัยนี้คงไม่มองที่รูปลักษณ์ภายนอก เขาต้องมองลึก เราต้องเป็นผู้หญิงที่เขาเคารพก่อน เราถึงจะเคารพเขา มี่ว่ายุคนี้ต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เอะอะอะไรต้องพึ่งคนอื่น"

ดารา สาวกล่าวต่อว่า "เวลาที่มี่เลือกจะเอาใครมาอยู่ข้างกาย เชื่อว่าเขาต้องเป็นคนจิตใจกว้าง เข้าใจการทำงานและจุดยืนของเรา รวมถึงเข้าใจชีวิตในวงการบันเทิงของเรา ชีวิตของเราเป็นชีวิตหน้ากล้อง ทุกอย่างในชีวิตต้องถูกเปิดเผย"

"อย่างเรื่องความรักมี่ก็ อยากเก็บเป็นเรื่องส่วนตัวบ้าง แต่ไม่ได้เก็บซ่อนแบบเล่นซ่อนแอบ เราเปิดเผยในบางจุดที่พอเปิดเผยได้ ไม่ถึงขั้นต้องปิดบัง ณ วันนี้ก็ขอศึกษาไปเรื่อยๆ มี่ว่าด้วยประสบการณ์พอเราโตขึ้น เราก็รู้เองว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด และถ้าจะใช่ก็ใช่เอง อย่าไปฝืนธรรมชาติ หรืออย่าไปเร่งให้เป็นไปตามที่ต้องการ"

ส่วน เรื่องสเป๊ก เอมมี่แง้ม "เมื่อก่อนตอนเด็กๆ อาจจะมี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ขอแค่ขยันทำงาน สามารถทำงานด้วยตัวเองได้ พึ่งตัวเองได้ เราอยากทำทุกอย่างให้คุณพ่อ คุณแม่ และคุณยายสบายใจ"

ครอบ ครัวเร่งเรื่องแต่งงานหรือเปล่า "ไม่เร่งเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่เป็นแนวสมัยใหม่ ชิลชิลมาก ส่วนคุณยายจะเร่งนิดนึงเพราะอายุ 80 กว่าแล้ว แต่ท่านก็ไม่ได้เร่งรัด ท่านตามใจหลานค่ะ"

ได้แม่ดัน
เข้า วงการบันเทิงมา 9 ปีแล้ว สำหรับนักแสดงสาว 'เอมมี่-มรกต' เริ่มกรุยทางจากการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส เมื่อปีพ.ศ.2547 โดยเล่าว่า "ตอนนั้นมี่อยู่อังกฤษ พอดีกลับมาเมืองไทยและมีเหตุบางอย่างทำให้อยู่เมืองไทยนานก็เลยมีโอกาสเข้า ประกวด พอได้ตำแหน่ง เลยทำให้ทุกอย่างเปลี่ยน แปลง"

เคยคิดไหมว่าจะก้าวมาเป็นนักแสดง เอมมี่ปฏิเสธ "ไม่เลยค่ะ ตอนเด็กๆ ชื่นชอบวงการบันเทิง แต่ไม่คิดว่าจะได้เข้ามาทำงาน ส่วนเรื่องการประกวดคุณแม่ ชอบ ตอนแม่สาวๆ มีคนทาบทามให้ประกวด แต่คุณปู่ของแม่ไม่อนุญาตเลยไม่ได้ประกวด ก็เลยมาดันลูกสาวแทน (หัวเราะ)"

"มี่ มาประกวดเพราะเรากลับมาเมืองไทย เผอิญคุณแม่ประสบอุบัติเหตุตกบันได กระดูกสันหลังเคลื่อนต้องรักษาตัวที่ร.พ. 3 เดือน และช่วงเดือนที่ 3 ไม่มีอะไรทำ เริ่มเบื่อและเห็นโฆษณาเกี่ยวกับการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สก็สนใจ และคุณแม่ก็สนับสนุนด้วย ตอนนั้นมี่อายุ 20 ยังเรียนอยู่ปี 2 ที่อังกฤษ ไม่หวังอะไรและไม่มั่นใจเลยในเรื่องภาษาไทย รวมถึงกิริยามารยาท พอได้ตำแหน่งปุ๊บก็ไปประกวดนางงามจักรวาลที่เอกวา ดอร์ พอกลับมาได้ 2 อาทิตย์ คุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) ก็ให้ลงละครเรื่องแรก 'หลงทางรัก' เล่นคู่กับพี่ป๋อ (ณัฐวุฒิ สกิดใจ)"

พอได้เล่นละครคุณแม่ ชอบไหม "เรื่องเล่นละครคุณแม่อาจจะไม่ได้คาดหวัง เขาจะคาดหวังเรื่องนางงามมากกว่า เพราะเป็นเรื่องที่แม่ฝังใจ แต่เรื่องละครจะเป็นความชอบของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะคุณยายจะดีใจที่สุด ติดตามดูละครไทยแซตเทิลไลต์ตลอด ดูผ่านจานดาวเทียม เช่าวิดีโอมาดู คุณยายดีใจมากที่หลานสาวได้เล่นคู่กับพี่ป๋อ เพราะช่วงนั้นพี่ป๋อพีกมากๆ และเขาเป็นป๋าดันให้เราในละครเรื่องแรกเลยค่ะ"

"หลังจากนั้นก็มีงานละครเข้ามาเรื่อยๆ จนมา ณ วันนี้ 9 ปีน่าจะประมาณ 18-19 เรื่องค่ะ"

แฮปปี้ที่ได้ทำ

ทําเอาคนฮือฮา สำหรับแฟชั่นชุดว่ายน้ำที่สาว 'เอมมี่-มรกต' เป็นแบบขึ้นปกให้นิตยสาร IMAGE ซึ่งหลายคนมองว่าโป๊

เอม มี่กล่าวว่า "ถามว่าโป๊ไหม มันขึ้นอยู่กับการยอมรับของแต่ละคน แสงและแบล็ก กราวด์ของฉาก อาจดูขาวๆ กลม กลืนกับผิว แต่ไม่เห็นสรีระเป็นชิ้นเป็นอัน มันมีปิดด้วย อยู่ที่การโคลสและทางที่คนอยากมองมากกว่า แฟชั่นชุดนี้แรงที่สุดที่เคยถ่ายมาค่ะ"

คุณพ่อคุณแม่ว่า อย่างไรบ้าง ดาราสาวกล่าวว่า "พอหนังสือวางแผง คุณพ่อบอกว่ากวาดซื้อให้หมดเลย คนอื่นจะได้ไม่ต้องดู (หัวเราะ) เขาห่วงลูก คุณยายชอบ บอกว่าหลานสวย คุณพ่อคุณแม่มี่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เปิดกว้างในเรื่องการทำงาน"

"คือ ถ้ามี่ถ่ายหลังจากนี้ตอนอายุ 30 กว่าหรือจะมีข่าวดี อาจมีผลกระทบ และมี่ยังไม่ได้เป็นแม่คน ยังพอทำได้ และมี่ห่างจากตำแหน่งนางงามมา 9 ปี คงจะไม่ทำลายภาพพจน์ ตอนประกวดมี่ก็ใส่ชุดว่ายน้ำ ด้วยมันรีทัชทำให้ภาพเลยดูแรง ก็พร้อมรับคำวิจารณ์ แฟชั่นชุดนี้ถือว่ามี่พอใจ แฮปปี้ที่ได้ทำค่ะ"

คนดูก็แฮปปี้ที่ได้ดูเช่นกัน