ฟลอเรนซ์อุทิศตัว เลือกฝันโกอินเตอร์

"ถ้าตัวเองยังไม่มีความสุขก็ไม่สามารถทำให้คนอื่นมีความสุขได้"

หายหน้าจากวงการบันเทิงไทยไปซะนาน สำหรับนางแบบสาว "ฟลอเรนซ์"วนิดา เฟเวอร์ ที่โกอินเตอร์ไปทำงานถ่ายแบบเล่นหนังที่ต่างแดน ล่าสุดเธอกลับมาอีกครั้งกับผลงานภาพยนตร์เรื่อง "The E-ephant King"ในโอกาสที่บินกลับไทยเพื่อโปรโมตหนังเรื่องดังกล่าว เลยคว้าตัวมานั่งคุย ก่อนที่เธอจะเหินฟ้าคืนนิวยอร์กทำงานที่รักต่อไป

- เข้าวงการมาได้ยังไง?

ฟลอเรนซ์ - "ตอนนั้นอายุ 13 พอดีพี่ชายอัดรายการ "ทีนทอล์ค" และถ่ายแบบอยู่กับเพื่อนๆ บางทีจะมีพวกโปรดิวเซอร์มาหาที่บ้าน เขาก็เห็นฟลอเรนซ์แล้วบอกว่าสูงดีผอมดี น่าชวนมาถ่ายรายการ ตอนนั้นไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอได้ยินว่าออกทีวีก็โอเคเลย พอออกไปครั้งแรกเขาก็ชวนเป็นพิธีกรต่อ ตอนนั้นฟลอเรนซ์ทำอยู่ 2 รายการคือ ทีนทอล์ค กับ อีฟอร์ทีน ทำพิธีกรได้ปีนึงก็มีคนเริ่มติดต่อไปถ่ายแบบเดินแบบบ้าง"


- สนใจวงการอยู่แล้วหรือเปล่า?

ฟลอเรนซ์ - "ตอนแรกไม่คิดเลยว่าจะเป็นนักแสดง แต่พอเข้ามาได้สักแป๊บก็เริ่มเป็นช่วงเติบโตของชีวิต จำได้ว่านอนแช่อ่างอาบน้ำแล้วคิดมากกับชีวิตว่าเราเป็นใคร อยากทำอะไร ช่วงนั้นมีหลายอารมณ์ หลายบุคลิก ก็คิดไม่ตกว่าตัวเองจะเป็นผู้หญิงแบบไหนดี สุดท้ายก็บอกตัวเองว่าไม่ต้องเลือกนี่ เดี๋ยวลองมาเป็นนักแสดงหนังดีกว่าจะได้เล่นเป็นคนนั้นคนนี้ แล้วไอ้ที่คิดมากเนี่ยคืออายุประ มาณ 13 เองนะ จากนั้นก็มีงานเดินแบบ ถ่ายแบบ เล่นหนัง แต่ไม่ได้รับละครเพราะไม่มีบทที่ถูกใจ อีกอย่างคือมีงานโมเดลลิ่งทุกวัน ไม่มีเวลาเล่นละครอยู่ดี แล้วงานโมเดลลิ่งเป็นงานวันต่อวัน เมื่อไรไม่อยากรับก็ไม่ต้องรับ แต่งานละครถ้ารับแล้วต้องเล่นยาวเลย"

- ช่วงนั้นก็มีชื่อเสียง ทำไมถึงเฟดตัวออกจากวงการบันเทิงไทย?

ฟลอเรนซ์ - "ตอนแรกหายไปพักนึงก่อน คือตอนอายุ 17-18 ถ่ายหนัง "ทวิภพ" ประมาณ 13 เดือน หลังถ่ายหนังเสร็จก็ย้ายไปอยู่นิวยอร์กเลย ก่อนหน้านี้เคยไปนิวยอร์กครั้งแรก ตอนอยู่ม.3 (พ.ศ. 2542) แล้วที่นั่นเขาอยากให้อยู่ทำงานต่อ แต่แม่บอกว่าให้กลับมาเรียนไฮสคูลให้จบก่อนแล้วค่อยย้ายไปอยู่ก็ได้ ซึ่งพอดีถ่าย "ทวิภพ" จบพอดีก็ไปเลย ช่วงที่มาเรียนไฮสคูลให้จบก็คิดตลอดว่าถ้าเรียนจบเดี๋ยวจะไปนิวยอร์กแล้ว ไปบุกวงการแฟชั่นที่นั่น แล้วคนในวงการบันเทิงเมืองไทยก็เชียร์ให้ลองไปดู งานที่ไปทำที่นิวยอร์กตอนแรกก็จะเป็นถ่ายแบบอย่างเดียว หลังๆ เริ่มมีไปออดิชั่นหนังบ้าง ซึ่งชีวิตการทำงานที่นิวยอร์กถือว่าโอเค แฮปปี้ อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ก็พอใจแล้ว"

- บางคนบอกว่าถ้าฟลอ เรนซ์อยู่เมืองไทยจะดังกว่านี้?

ฟลอเรนซ์ - "ฟลอเรนซ์เลือกที่จะทำอะไรก็เต็มที่ไปเลยอย่างหนึ่ง ถ้ามาแบ่งแยกสองฝ่ายก็ไม่เต็มที่เท่าไร ถือว่าตัวเองโชคดี ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้โอกาสอย่างนี้ เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ของชีวิต ฟลอเรนซ์อยู่วงการเมืองไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2541 ทำงานในเมืองไทยก็ 8-9 ปีแล้ว มันก็ถึงจุดนึงแล้ว เลยอยากไปลองที่อื่นบ้าง ส่วนงานที่เมืองไทยถ้ามีช่วงจังหวะที่พอดี หรือเจองานเจ๋งๆ เข้ามาก็รับตลอดอยู่แล้ว"

- อยู่ที่นิวยอร์กมีคนดูแลมั้ย?

ฟลอเรนซ์ - "ฟลอเรนซ์อยู่สังกัดที่เอ็มซีสแควร์ เพิ่งจะมีผู้จัดการดูแลได้ 6 เดือนแล้ว เขาจะดูงานหนังให้ที่นั่น ค่อนข้างจะปลุกกระแสฮอลลีวู้ดเหมือนกัน บินไปมาระหว่างแอลเอกับนิวยอร์ก งานที่ฟลอเรนซ์ทำอยู่ก็จะมีถ่ายแบบกับแคสติ้งหนัง หลังๆ งานไม่ค่อยเยอะเท่าไร เพราะเศรษฐกิจแย่ลง"

- รู้มั้ยว่าตอนอยู่เมืองนอก มีภาพหลุดที่ฟลอเรนซ์ไปเล่นหนังฝรั่งเศส เรื่อง"โชคดี"มีฉากเปลือยอกขณะร่วมรักกันบนเตียงนอนด้วย?

ฟลอเรนซ์ - "ได้ข่าวเหมือนกัน ช่วงนั้นเขาพยายามขายหนังมั้งเลยดึงฉากนี้ของหนังมา จะได้เปรี้ยงๆ แต่ฟลอเรนซ์รู้ตัวว่าถ่ายอะไรไป ไม่ได้คิดว่ามันจะอะไรขนาดนั้น เลิฟซีนตัวนั้นที่ถ่ายไปก็ออกมาสวย ดูมีรสนิยม คือฉากนั้นฟลอเรนซ์ก็เปลือยบ้างแหละแต่ไม่ทั้งหมด ฟลอ เรนซ์ไม่คิดอะไรมาก คนรอบข้างเข้าใจก็โอเค"

- ตอนที่ฟลอเรนซ์หายไปมีข่าวว่าติดยา?

ฟลอเรนซ์ - "(นิ่งไปพักใหญ่) เหรอ...อันนี้ไม่เคยได้ยินเลยนะ(น้ำตาคลอ) อึ้งเลยอ่ะ รู้สึกไม่ดีเลย ทำไมคนพูดแบบนั้นล่ะ พูดจากไหนเนี่ย เลิกคิดได้แล้วล่ะ คนมันแบบโชคดีมีโอกาสไปทำงาน ขอไปเหอะ ไปดีๆ อย่าว่ากันแบบนั้นสิ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องเข้มแข็งเพราะรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ไม่จำเป็นจะต้องแก้ข่าวด้วยซ้ำ ขอให้คนรอบข้าง คนที่รู้จักฟลอเรนซ์ จริงๆ รู้อย่างเดียวพอแล้ว"

- วางแพลนชีวิตของตัวเองไว้อย่างไร?

ฟลอเรนซ์ - "ไม่ได้วางอะไรมากมาย ก็จะกลับไปทำงานที่นิวยอร์ก แคสต์หนังและถ่ายแบบไปเรื่อยๆ"

- ไม่คิดถึงแฟนๆ คนไทยบ้างเหรอ?

ฟลอเรนซ์ - "ก็คิดถึงนะ แต่บางทีเราต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง อุทิศตัวเองไปเลย ก็เป็นความฝันว่าอยากเป็นนักแสดงที่โน่น สุดท้ายก็อยู่เพื่อตัวเอง ถ้าตัวเองยังไม่มีความสุขก็ไม่สามารถทำให้คนอื่นมีความสุขได้ ตอนนี้พ่อแม่พี่ชายอยู่เมืองไทยหมดเลย อยู่นิวยอร์กคนเดียวก็เหงาแหละ แต่ก็สู้ต่อไป"

- จะก้าวข้ามเบญจเพสแล้วเป็นยังไงบ้าง?

ฟลอเรนซ์ - "ตื่นเต้นชะมัด อยากให้ผ่านไปไวๆ เพราะโดนมาเต็มๆ ทั้ง 2 ปีที่ผ่านมา ตอนอายุ 24 ตรงกับปีชง จากนั้นก็เข้าเบญจเพส หมอดูบอกว่าทำอะไรกับมันไม่ได้หรอก ถ้ามันจะมาก็มาเต็มๆ แต่ช่วยตัวเองได้อย่างเดียวคือต้องใจเย็นไว้ ฟลอเรนซ์เป็นคนเชื่อเรื่องเบญจเพสนะ อยู่เมืองไทยมาหลายปีได้ยินคนพูดถึงเบญจเพสบ่อยจนเข้าใจว่ามันคืออะไร ตอนที่ฟลอเรนซ์คิดว่าตัวเองเจอเบญจเพส ทุกอย่างประดังเข้ามาหมด จริงๆ มันเริ่มจากมีอะไรมากระทบชีวิตส่วนตัวก่อน จากนั้นก็จะกระทบกับทุกอย่างรอบข้าง แย่มากๆ ค่ะ"

แต่หลังจากนี้ไป ดูท่าว่าชีวิตของเธอจะสดใส เหมือนดั่งฟ้าหลังฝนแล้วล่ะ

จีรณัฐ จงประสพมงคล เรื่อง


เปิดรับสองวัฒนธรรม

เพราะพ่อเป็นคนฝรั่งเศส แม่เป็นคนไทย ดารานางแบบสาว "ฟลอเรนซ์"วนิดา เฟเวอร์ จึงมีใบหน้ากระเดียดไปทางฝรั่ง โดยเจ้าตัวเผยภูมิหลังให้ฟังว่า

"ฟลอเรนซ์เกิดที่กรุงเทพฯ จริงๆ คุณแม่ตั้งท้องที่ฝรั่งเศส แต่คุณแม่อยากจะกลับมาคลอดที่เมืองไทย ฟลอเรนซ์เลยมีเชื้อชาติไทย สัญชาติฝรั่งเศส เป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส หลังจากคลอดได้ 2 เดือนก็ย้ายครอบครัวไปอยู่ฝรั่งเศส 8 ปี ที่เมืองเอ็กซ์-ออง-โพรวองซ์(Aix-En-Provence) เป็นเมืองเล็กอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส อยู่ใกล้ๆ คานส์กับมาร์กเซย เป็นเมืองเล็กๆ สงบๆ มีทุ่งลาเวนเดอร์ ทุ่งทานตะวัน"

ชีวิตวัยเด็กที่ฝรั่งเศส ด.ญ.ฟลอ เรนซ์ค่อนข้างเป็นอิสระ พ่อแม่ปล่อยให้ไปบ้านเพื่อน ทำโน่นนี่หลายอย่าง แต่พอย้ายกลับมาเมืองไทยกลับตรงกันข้าม

"อาจเพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่กว่าเมืองที่เคยอยู่ที่ฝรั่งเศส ฉะนั้นวิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่จะเปลี่ยนไปทันที คือปกป้องดูแลมากขึ้น ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปบ้านเพื่อน" ถามว่าชอบที่ไหนมากกว่ากัน ระหว่างเมืองไทยกับฝรั่งเศส เจ้าตัวอธิบายความมาว่า "ถ้าเป็นตอนเด็กพอรู้ว่าต้องกลับมาเมืองไทยฟลอเรนซ์โกรธมากเลย เพราะมันเสียความเป็นอิสระ ไปไหนก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องอยู่บ้านตลอด แต่พอเริ่มโต อายุ 14-15 ก็รู้สึกว่าโอเค เมืองไทยก็ใช้ได้อยู่นะ กลายเป็นว่าฟลอเรนซ์อยู่เมืองไทย 12 ปีก่อนจะย้ายไปอยู่นิวยอร์ก"

สำหรับสาเหตุที่กลับมาอยู่เมืองไทย เธอว่า "กลับมาอยู่ใกล้ๆ กับทางครอบ ครัวของคุณแม่ บ้านฟลอเรนซ์ที่เมืองไทยเป็นครอบ ครัวใหญ่ มีคุณปู่ คุณตา คุณยาย มีคุณลุง คุณน้า รวมกัน 12 คน"

แล้วคิดว่าตัวเองมีความเป็นไทยหรือฝรั่งมากกว่ากัน "ก็มีทั้งคู่ค่ะ พ่อแม่สอนมาตั้งแต่เด็ก โดยเอาสิ่งดีๆ ของวัฒนธรรมไทยอย่างเรื่องการเคารพผู้ใหญ่ การพูดจามีหางเสียง เพราะฝรั่งไม่ค่อยเคารพนับถือผู้ใหญ่เท่าไร อย่างบางทีฟลอเรนซ์ได้ยินลูกครึ่งบางคนพูดจาทีก็รู้สึกแย่เลย เลยดีใจกับตัวเองที่พ่อแม่สอนมาดี ส่วนวัฒนธรรมแบบฝรั่งที่พ่อแม่สอนคือการเปิดใจรับสิ่งรอบข้าง กล้าคิด กล้าทำ กล้าโชว์ ทำให้ฟลอเรนซ์มีความมั่นใจในตัวเองสูงค่ะ"

และนั่นทำให้เธอมีโอกาสโกอินเตอร์ได้อย่างสวยงาม


ถูกใจหนุ่มโรแมนติก-ยี้พวกขี้อ้อน

"หัวใจสวยงาม สีแดงเต้นตุ้บๆ อยู่ทุกวัน ตอนนี้อินเลิฟกับชีวิตและงานมากค่ะ"


สาวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส "ฟลอ เรนซ์"วนิดา เฟเวอร์ แง้มเรื่องหัวใจ หลังปิดฉากรักกับหนุ่ม "ขันเงิน เนื้อนวล" มาหลายปีแล้ว พูดอย่างกับยังไม่มีแฟนแน่ะ เจ้าตัวหัวเราะในคำแซว ก่อนกล่าวว่า "แฟนน่ะมี มีตลอด หนีไม่พ้นหรอก พูดเล่นค่ะ จริงๆ ก็มีเรื่องโน้นเรื่องนี้ มีคนที่ทำให้ตื่นเต้นกระชุ่มกระชวยตลอดเวลา"

อยู่เมืองนอกฮอตมั้ย ได้ข่าวว่ารับโทรศัพท์มือเป็นระวิงเลย

"มีโทร.มาจีบ แต่จีบไม่ติดไง(หัวเราะ) คือฟลอเรนซ์อยากทำงานด้วยแหละ ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องความรักเท่าไร มันยังไม่ถึงช่วงในชีวิตที่แบบจะต้องตามหาความรัก ถามว่าเหงามั้ย ก็อย่างที่บอกว่ามีคนโทร.มาคุยเยอะแยะเลยไม่เหงาไง แต่ยังไม่มีใครเป็นพิเศษ ตอนไปอยู่โน่นใหม่ๆ ก็มีแฟนบ้างแหละ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว"

ถามถึงสเป๊กผู้ชาย เจ้าตัวกล่าวอย่างละโมบ

"ชอบหมดแหละ จะฝรั่ง คนไทย ลูกครึ่ง แต่อย่างหนึ่งที่ไม่ชอบคือผู้ชายขี้อ้อน อ้อแอ้ หรือมีนิสัยแบบผู้หญิง แต่จะชอบผู้ชายที่หน้าตาแบบผู้หญิงนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แล้วชอบผู้ชายสวีตๆ เพราะฟลอเรนซ์จะรู้สึกว่าเขานึกถึงเรา พยายามหาวิธีที่จะเอาใจเรา โรแมนติกประมาณนึงอย่ามากเกินไป มันดูน้ำเน่า ขอแบบที่แมนๆ เท่ๆ ลุยๆ สมบุกสมบัน เพราะฟลอเรนซ์เป็นคนสบายๆ ค่ะ"

สำหรับความรักในแบบฉบับของ "ฟลอเรนซ์" เธอบอก

"ฟลอเรนซ์มองว่าเหตุผลที่คนเราจะมาเจอกัน ใช้ชีวิตด้วยกันมันจะมีอะไรสักอย่างที่ดึงเรามาหากัน ถึงแม้ว่าจะบุคลิกต่างกัน แต่สุดท้ายก็จะยอมรับความแตกต่างของอีกคน และหาทางจูนให้เข้ากับบุคลิกของเราจนได้ ความเข้าใจกันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความรัก"

ดาราสาวเปรียบความรักเหมือนการทำงานและศิลปะ โดยให้เหตุผลว่า

"มันต้องควบคู่กันไป เรื่องของความสัมพันธ์เป็นอะไรที่เราต้องศึกษาเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างต้องดีหมด พอไม่ดีแล้วจะเลิกกันไป"

"บางครั้งเราต้องยอมบ้าง เพื่อให้ความสัมพันธ์คงอยู่ได้ค่ะ" ดาราสาวสรุป

ประทับใจหนังสวย

ผ่านงานบันเทิงรวมแล้ว 13 ปี หากให้คัดสรรงานชิ้นโบแดง นางแบบสาว "ฟลอ เรนซ์"วนิดา เฟเวอร์ ยกให้เป็นผลงานชิ้นล่าสุดใหม่หมาด นั่นคือภาพยนตร์เรื่อง "The E-ephant King"

"หนัง "The E-ephant King" เป็นหนังที่สวยมาก ฟลอเรนซ์ประทับใจหนังเรื่องนี้มาก เป็นหนังที่เชื่อมความสัมพันธ์ของใครได้หลายคน ฟลอเรนซ์เป็นคนซีเรียสเรื่องชีวิตและความรู้สึกอยู่แล้ว ซึ่งเราสัมผัสกับความรู้สึกตัวเองได้มาก พอมาเล่นหนังเรื่องนี้ก็จะทุ่มความรู้สึกไปกับมันเต็มที่ เชื่อว่าคนดูดูแล้วจะอินกับตัวละครค่ะ"


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์