หน้าด้าน อ่านบทสัมภาษณ์บางตอนจาก เข็ม ตีสิบ

ดาราพิธีกรสาวชื่อดัง กฤตธีรา อินพรวิจิตร หรือ เข็ม ตีสิบ แถลงข่าวถึงกรณีวิวาทกับดารานางร้าย เมย์ เฟื่องอารมย์ กับเพื่อนนางเอกสาว อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรียม ย่านสุขุมวิท กลางสตูดิโออัดรายการ ตีสิบ ณ เซ็นทรัล พระราม 2 ท่ามกลางทัพนักข่าวทุกแขนง ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป


เปิดฉากถูกนางเอกด่า หน้าด้าน
สำหรับบรรยากาศการแถลงข่าวซึ่งได้บันทึกเทป เพื่อนำไปออกอากาศในรายการตีสิบนั้น  ดร.อ้อ-กฤติกา คงสมพงษ์ อดีตพิธีกรชื่อดังจากรายการกำจัดจุดอ่อน รับหน้าที่เป็นพิธีกรสัมภาษณ์ ซึ่งเข็มได้เริ่มต้นเล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า


ได้เดินทางไปที่ห้างดิ เอ็มโพเรียม เพื่อไปเอาหนังสือที่สั่งไว้ที่ร้าน โตเกียวโด พอรับหนังสือเสร็จมีเพื่อนโทรศัพท์มาให้ไปหาที่เซ็นทรัล ชิดลม ชวนไปดูลูกของเพื่อนแสดง จากนั้นตัวเองได้เดินทางไปโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งรถได้จอดทิ้งเอาไว้ และหลังจากกลับจากเซ็นทรัล ชิดลม ก็ได้กลับมาเอารถที่จอดทิ้งไว้ที่ชั้น 3 ของห้างดิ เอ็มโพเรียม ก่อนกลับได้แวะทานอาหาร เมื่อเสร็จจะกลับบ้านก็ไปเอารถที่จอดทิ้งไว้ก่อนหน้านี้


ระหว่างที่กดรีโมตเปิดประตูรถ สังเกตเห็นว่ามีผู้ชายนั่งรออยู่แถวๆ นั้น และมีรถโฟร์วีลสีขาวจอดขนาบข้างอยู่ รู้สึกเหมือนกันว่าไม่ค่อยปกติ จากนั้นพอเข้าไปในรถได้มีผู้หญิง 2 คน คือ ทีแรกไม่ทราบว่าเป็นใคร พอเข้ามาใกล้ๆ จึงรู้ว่าเป็นเมย์และอั้มเดินมาจับประตูรถเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้ขับรถออกไป


จากนั้นจึงถามออกไปว่า มีอะไร  ซึ่งทางพิธีกรสาวยืนยันว่า นางเอกสาวเซ็กซี่วิกเจ็ดสีพูดคำว่า หน้าด้าน โดยสาวอั้มกล่าวว่า เอารถคนอื่นไปแบบนี้ไม่หน้าด้านไปหน่อยเหรอคะ สำหรับตัวเองแล้วเพิ่งเคยเจอ อั้ม-พัชราภา เป็นครั้งแรก โดยที่ตนยังตอบกลับไปว่า ทำไมถึงพูดแบบนี้ และทั้งสองคนพยายามให้ตนเองลงจากรถให้ได้ แต่ก็บอกว่า เดี๋ยวจะให้  หนุ่ม กรรชัย เอารถไปคืนให้ และก็มีผู้ชาย 2 คน มายืนขวางด้านหน้าและหลังรถไว้


จากตรงนี้ทำให้ตัวเองรู้สึกกลัว เลยพยายามที่จะสตาร์ทรถออกไป ซึ่งขณะนั้นเมย์ได้โทรศัพท์หาหนุ่มและยื่นโทรศัพท์ให้พูดด้วย ซึ่งฝ่ายชายถามว่า เป็นอะไรไหม แล้วเมย์ก็ดึงโทรศัพท์กลับไป แต่พอได้จังหวะมีช่องทางจึงพุ่งรถขับหนี และตลอดระยะเวลาการมีปากเสียงกัน ฝ่ายเมย์และอั้มได้ถ่ายวิดีโอไว้ด้วย  พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้มีการตบตีตามที่เป็นข่าว


ไม่ได้ตบตีแค่ดึงลากกระชาก
กับกรณีที่ว่ามีการทำร้ายร่างกายนั้น เข็มบอกว่า ไม่ใช่มาจากการตบตีกัน แต่มาจากการดึง ลาก กระชากกันเปิดปิดประตู อาการบาดเจ็บมีข้อมืออักเสบ ปวดที่คอ หลังช้ำ ข้อศอกมีอาการอักเสบ เนื่องจากถูกกระชาก อย่างแรง ทางคุณหมอให้พักผ่อนจนอาการดีขึ้น นอกจากนี้ เข็มกล่าวด้วยว่า หากคนที่ขับรถตามมาตอนที่ขับออกมาจากห้างเป็นใครก็ตาม อยากจะให้ช่วยออกมาพูดความจริงด้วย ในทีแรกที่ออกมากล่าวว่าเป็นการจัดฉาก เพราะเห็นว่ามีผู้ชายยืนอยู่  และบริเวณที่จอดรถค่อนข้างเปลี่ยว แล้วปกติก็เป็นคนที่ระวังตัวอยู่เสมอๆ


เกทับที่บ้านมีรถ 11 คัน
สำหรับรถมินิคูเปอร์คันเจ้าปัญหา พิธีกรสาวกล่าวว่า หนุ่ม-กรรชัย เอามาจอดทิ้งไว้เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จริงๆ ตนไม่จำเป็นจะต้องเอารถคันดังกล่าวมาขับ เพราะที่บ้านมีรถอยู่ถึง 11 คันแล้ว เพียงแต่คิดจะซื้อรถยี่ห้อนี้ และด้านหนุ่มเองมีรถยี่ห้อดังกล่าว เลยไปปรึกษาพร้อมกับให้เอารถมาลองขับดู แล้วฝ่ายหนุ่มเองบอกอยากจะขายรถคันนี้ พอดีรู้ว่าเป็นรถของหนุ่ม เพราะเห็นว่าขับมาตลอด แต่ไม่ทราบว่าชื่อเจ้าของรถเป็นชื่อเมย์  และเรื่องที่ว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องในการผ่อนรถ ไม่เคยพูดออกมาเลย การตกลงจะซื้อขายรถก็เป็นเพียงการพูดทางวาจาเท่านั้น ถ้าหากฝ่ายนั้นคิดว่ามีคนขโมยรถน่าจะโทรศัพท์ถามหนุ่มก่อน ซึ่งถ้ารู้แต่แรกจะไม่มีทางแตะรถและคนของเขาโดยเด็ดขาด


เรื่องรถนั้นสามารถมารับได้เลย จอดไว้เป็นอย่างดีในโรงเก็บรถบ้านคุณทอม แต่ต้องรู้แน่ชัดว่า คนที่มารับเป็นคนที่ได้รับมอบหมายมาจริงๆ  เพื่อที่จะได้ไม่ถูกหลอก


ถ้าผิดคือผิดที่ทำให้แม่ร้องไห้
จากนั้นเข็มยังได้กล่าวขอโทษคุณแม่ด้วยน้ำตาว่า รู้สึกผิดและสงสารที่ทำให้บุพการีต้องมาเสียน้ำตากับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะตั้งแต่เด็กเคยเห็นคุณแม่ร้องไห้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น อีกอย่างไม่เคยคิดว่า ต้องมาร้องไห้ในรายการของตัวเองด้วย พร้อมกับขอสัญญากับคุณแม่และครอบครัวว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก อีกทั้งยังได้กล่าวคำขอบคุณ ติ๊ก และ ทอม เครือโสภณ มากๆ ที่เป็นเพื่อนที่หวังดีมาตลอด เข้าใจว่าทุกสิ่งที่ทำไปเพราะความเป็นห่วงเป็นใยในตัวเพื่อน ขอบคุณแฟนๆ เพื่อนๆ ทุกคนกับข้อความที่ส่งมาให้กำลังใจ


เข็มขอยุติเรื่องทุกอย่างในวันนี้ทั้งหมด และไม่อยากให้คิดว่า เรื่องที่เกิดเป็นเรื่องปกติธรรมดาเท่านั้น เพราะตอนนี้สังคมมีแต่ความรุนแรง ไม่ใช่สิ่งที่ดีกับเรื่องแบบนี้ และกล่าวเป็นนัยว่า อย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม ก่อนจะโทษตัวเองว่าตกเป็นเหยื่อ จากนี้จะทำความดี พูดความจริงตลอดชีวิต


สุดท้ายพิธีกรสาวขอร้อง อย่ามายุ่งกับตนอีก หากมีเรื่องต้องฟ้องร้องก็ยินดีที่จะตั้งรับและพิสูจน์ความจริง


เข็มไม่ได้เข็ดกับเรื่องความสัมพันธ์ แต่เข็ดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน อีกทั้งไม่คิดว่าเป็นการเสียหน้าหรือถูกฉีกหน้าเมื่อถูกตัดความสัมพันธ์ ว่าไปแล้วน่าจะเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน ไม่ควรเปิดเผยสู่สาธารณชนเช่นนี้ ช่วงนี้ขอเก็บตัวอยู่คนเดียวเงียบๆ  ส่วนเรื่องของพี่หนุ่มนั้นคงหยุดความสัมพันธ์ไว้เพียงเท่านี้ หากดีจริงก็คงเป็นเพื่อนกันได้ ตนเองพร้อมให้อภัยทุกอย่างทุกคนกับเรื่องที่เกิดขึ้น


หนุ่มยกนิ้วให้เปล่าประชด
ในขณะที่พิธีกรสาวจากรายการตีสิบให้สัมภาษณ์ หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เดินทางมายืนดูขณะเข็มให้สัมภาษณ์แล้วก็เดินออกไป จากนั้นสักประมาณ 15 นาที ดาราหนุ่มชื่อดังกลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับเปิดใจกับสื่ออีกครั้งว่า ที่มานั้นฝ่ายเมย์รับรู้และเป็นคนบอกให้มา ซึ่งเข็มเองทราบดีว่าตนเองจะมา ในฐานะคนกลางต้องฟังความทั้งสองฝ่าย จากเรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเป็นคนผิด สร้างปัญหาไม่เลิก ผู้หญิงทั้งสองคนไม่ได้ผิด พร้อมยอมรับเคยคบ ไม่อยากจะให้ทั้งสองฝ่ายมีปัญหา และตนก็ไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเข็มหรือเมย์


แล้วคำพูดที่พูดออกมาว่า เก่งมาก ก่อนที่จะเดินออกไปจากสตูดิโอนั้น ไม่อยากให้ตีความไปในทางที่ไม่ดี แต่ยกนิ้วพร้อมปรบมือให้ด้วยความจริงใจ เข้าใจว่าต่างคนต่างมีเหตุผล ผู้หญิง 2 คนไม่ผิด ตัวเองต่างหากที่ผิด รวมถึงเรื่องรถตนเป็นคนซื้อในชื่อของเมย์ ซื้อมา 3 ปี ใส่ชื่อเมย์ไว้ เลยไม่แปลกที่เมย์จะคิดครอบครองว่าเป็นรถของเขา ด้านเข็มก็ไม่ผิด เพราะตนเป็นคนเอารถไปให้เข็มใช้ โดยไม่บอกว่าเป็นชื่อของเมย์


เข็ด โกหก รับผิด สูตรสำเร็จ หนุ่ม
พิธีกรหนุ่มกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์ตนกับ เมย์ เฟื่องอารมย์ ขณะนี้ไม่ใช่แฟนกัน เพราะด้านเมย์คงต้องดูพฤติกรรมของตนก่อน และเมื่อครั้งพูดตัดสัมพันธ์กับเข็มว่า จากนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันนั้น ไม่ได้เป็นการฉีกหน้าพิธีกรสาว ที่บอกตัดสัมพันธ์ คือ ในฐานะคนเคยดูใจ แต่ในความเป็นเพื่อนยังมีให้กันอยู่ ไม่ถึงขนาดตายก็ยังไม่เผาผีกัน


หนุ่ม-กรรชัย กล่าวเสริมด้วยว่า ไม่กล้าที่จะพูดว่าเข็ด เพราะรู้สึกเข็ดมาหลายครั้งหลายครา แต่ครั้งนี้ถือว่าใหญ่สุดในชีวิต เพราะถูกสังคมพิพากษา ในเมื่อเป็นคนก่อเรื่องขึ้นมาก็ต้องกล้ารับ สิ่งที่เกิดขึ้นคงจำไปจนตาย และเรื่องดังกล่าวคงกลายเป็นตำนานไปแล้ว ต่อให้อีก 10 ปีข้างหน้าคนก็คงยังจำได้


ตอนนี้แทบจะไม่ได้คุยกับทั้งสองฝ่าย และไม่กล้าที่จะคุยเพราะรู้ตัวว่าผิด เพียงแต่อยากจะทำทุกอย่างให้ออกมาดี และการที่เข็มกล่าวว่า อย่ามายุ่งกันอีก ไม่ทราบว่าหมายถึงใคร ก่อนจะโบ้ยให้ไปถามเอากับเจ้าตัว แต่ในความคิดของตนเข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร และก็พร้อมถอยออกมา สุดท้ายขอสัญญา จะไม่ขอโกหกใครอีกแล้ว


ขณะเดียวกันได้มีนักเขียนนวนิยายรายหนึ่ง ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ จะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นพล็อตเรื่องเขียนเป็นนวนิยาย ซึ่งเร็วๆ นี้คงจะวางขายอย่างแน่นอน



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์