ชมพู่ ย้ำ ชัวส์แล้ว เรยา เดอะมิวสิคัล ได้เล่นแน่นอน

"ชมพู่" ย้ำ ชัวส์แล้ว เรยา เดอะมิวสิคัล ได้เล่นแน่นอน

หลังจากที่ปีที่แล้ว นางเอกสาว ชมพู่-อารยา เอฮาร์เก็ต ทำให้เกิดกระแส “เรยา ฟีเวอร์” ในเมืองไทย ดังนั้นพอมีข่าวว่าจะมีการทำละครเวที “เรยา เดอะมิวสิคัล” สาวชมพู่ก็ได้รับการทาบทามให้มาเล่นเรื่องนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ติดขัดเรื่องคิวงานนิดหน่อย แต่ตอนนี้ชมพู่คอนเฟิร์มแล้วว่าเล่นละครเวทีเรื่องนี้แน่นอน

ชมพู่ กล่าวว่า “จริง ๆ เรื่องเพิ่งสรุปเองค่ะ เมื่อวานไปคุยกันเรื่องเวลา เรื่องคิว รายละเอียดต่าง ๆ ก็น่าจะชัวร์แล้วค่ะ น่าจะเริ่มซ้อมจริง ๆ ประมาณเดือน พ.ค. ชมต้องไปเรียนร้องเพลงค่ะ แล้วก็ซ้อมเข้าคิวประมาณเดือน ก.ค.” รู้สึกยังไงบ้าง? “ตื่นเต้นมาก คือมันท้าทายค่ะ   แคสติ้งคนอื่น ๆ เขาเป็นนักร้องโอเปร่าหมดเลย” กังวลตรงไหนที่สุด? “อยากร้องให้ดีที่สุดค่ะ เราก็งู ๆ ปลา ๆ ไม่เคยไปเรียนแบบจริงจัง คิดว่าเป็นช็อตบังคับต้องเรียนแล้วค่ะ” กำหนดเล่นวันที่เท่าไหร่? “เดือน ก.ย. ทั้งหมด 20 รอบ งานนี้ท้าทายมาก คงต้องใช้พลังเยอะค่ะ มันสดเนอะ เทคไม่ได้ แล้วมันเป็นมิวสิคัลอีก” จะกระทบละครไหม? “อันนี้คือเคลียร์แล้วค่ะ ตอนนี้ชมถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง คือ “รักคุณเท่าฟ้า” และ “หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ” ซึ่งก็จะปิดกล้องประมาณเดือน พ.ค. นี้ และพอเดือน พ.ค. จะเปิดกล้องละครของพี่นก-จริยา อีกเรื่องนึง ซึ่งเท่ากับว่าชมจะเหลือสัปดาห์นึง 4 วันไปจนถึงปลายปีเลย ชมก็ใช้เวลาตรงนี้ที่มีมาซ้อมและเล่นละครเวที พอปิดจากละครเวทีก็เปิดกล้องละครอีก 2 เรื่องค่ะ” ละครกับพี่นก-จริยา ชื่อเรื่องอะไร?  “สามีกำมะลอ” ค่ะ น่าจะเล่นคู่กับ คุณโฬม-พัชฏะ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ เท่าที่ชมได้ยินล่าสุดนะคะ”

กับละครเวทีเราเล่นกับใครบ้าง? “อย่างที่บอกว่าเป็นนักดนตรี เป็นนักร้อง ถ้าคนที่อยู่ในวงการละครเวทีจะรู้จักเขา แต่ถ้าเป็นดาราก็มีเราคนเดียวค่ะ” พอเป็นละครเวทีคิดว่ากระแสจะดีไหม? “ชมไม่ได้มองเรื่องกระแสเป็นหลักเนอะ เราไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ถ้าได้รับความสนใจก็ดี แต่คิดว่าเท่าที่คุยกับทุกฝ่าย เขามีความตั้งใจที่จะทำออกมาให้ดีที่สุดค่ะ ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่จะได้ทำ คิดว่าถ้าเราไม่ได้ทำครั้งนี้ก็คงไม่มีแล้วค่ะ” เรื่องราวยังแรงเหมือนเดิมไหม? “จริง ๆ    วิธีการเล่าก็จะแตกต่างไปจากละคร ดีเทลบางอย่างต้องลดไปอยู่แล้วเพราะว่าเรื่องมันต้องจบภายใน 2 ชม. แต่ว่าชมเชื่อว่า “ดอกส้มสีทอง” คนจะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง ก็คงมีวิธีการถ่ายทอดและมุมมองที่แตกต่างจากละครโทรทัศน์ เพราะอันนี้มันเป็นมุมมองของอาจารย์ ถ่ายเถา สุจริตกุล จริง ๆ ค่ะ”.