นักร้อง-นางเอกสุดแบ๊ว โฟร์-ศกลรัตน์





ก้าวกระโดดมาไกลถึงขั้นการมาเป็นหนึ่งในนักร้องดูโอ "โฟร์-มด" ขวัญใจวัยรุ่นรวมกว่า 7 ปี แล้ว ณ วันนี้สาวร่างบาง "โฟร์" ศกลรัตน์ วรอุไร กล่าวตอบกลับมาว่า...เต็มไปด้วยความยินดี และพอใจกับโอกาสการทำงานที่ได้รับ โดยเฉพาะกับละครเรื่องล่าสุดในฐานะนางเอก "เศรษฐีข้างเขียง" ของผู้จัดละครคุณภาพ "ตู่" นพพล โกมารชุน ที่กำลังออนแอร์อยู่ ณ ขณะนี้ ในช่วงละครเย็นของทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เจ้าตัวได้โอกาสสัมผัสการทำงานชีวิตตามท้องเรื่องที่แตกต่าง เป็นกำลังใจให้ตนได้โตขึ้นอีก พร้อมเปิดเผยถึงเบื้องลึกเรื่องส่วนตัวด้านอื่นๆ ของเธอที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้ล่วงรู้เลยก็ได้

ก่อนอื่นถามถึงงานที่เปลี่ยนโหมดนักร้อง มาเป็นนักแสดงชั่วคราวในช่วงนี้
"จริงๆ ก่อนหน้านี้โฟร์เล่นละครมากว่า 5 เรื่องแล้วนะคะ ตั้งแต่เข้าวงการมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นละครในแนวคอมเมดี้หมดเลย โดยจะมีเรื่อง "หิมะใต้พระจันทร์" เมื่อหลายปีก่อนที่ออกมาแนวดราม่าหน่อย ที่ตอนนั้นโฟร์รับบทเป็นเด็กเอาแต่ใจ เพราะลุกส์ของโฟร์จากการเป็นนักร้อง รวมถึงรูปร่างดูเด็กๆ ด้วย ก็เลยได้รับบทนั้น

หรืออย่างกับเรื่อง "เศรษฐีข้างเขียง" ที่โฟร์ได้มารับบท ช้อนทอง ในละครเรื่องนี้ คือ อาตู่ นพพล อยากทำละครวัยรุ่นบ้าง ก็เลยอยากได้วัยรุ่นมาร่วมแสดง ก็เลยกลายเป็นโฟร์ เป็น พี่บีม กวี, ต้อล วันธงชัย (AF4), กรีน อัษฎาพร (AF5) มาร่วมแสดง"

จำวันแรกที่เข้ากองละคร "เศรษฐีข้างเขียง" ได้หรือเปล่า?
"จำได้ค่ะ (หัวเราะ) กองถ่ายวันแรกๆ รู้สึกเกร็งมากๆ เพราะมี อาตู่ นพพล ลงมากองฯ ดูแลความเรียบร้อยนี่แหละค่ะ คือ โฟร์-พี่บีม เราเล่นละครกันมาไม่กี่เรื่องเอง แถมไม่ได้เล่นละครมานาน บวกกับทั้ง ต้อล และ กรีน เอง ก็เป็นนักแสดงใหม่ถอดด้าม (หัวเราะ) เรา 4 คนก็เลยมาจับกลุ่มคุยกัน จะทำอย่างไรให้งานออกมาดี เรื่องไหนดี-ไม่ดี ทุกคนจะช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน อย่างของโฟร์ก็จะเจอตลอดเรื่องของการพูดรัว เร็ว ไม่มีคำควบกล้ำเลย ก็จะได้เพื่อนๆ นี่แหละคอยเตือน และช่วยในการปรับปรุง ซึ่งจริงๆ อาตู่ใจดีนะคะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครๆ คิด"

รู้มาว่า...ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อ โฟร์ก็ไม่มั่นใจเท่าไรว่าตัวเองจะเล่นแนวนี้ได้?
"ค่ะ ก็ในบทโฟร์เล่นเป็นเด็กต่างจังหวัดอ่ะ เราเองก็ไม่แน่ใจในคาแรกเตอร์หรือการแสดงมันจะได้หรือเปล่า? ในเรื่องเล่นเป็น ช้อนทอง เด็กต่างจังหวัด ลูกของแม่ค้าร้านเป็ดพะโล้ที่มีความใฝ่ฝันอยากร้องเพลง ในเรื่องโฟร์ต้องสับเป็ดเองด้วย ตัวโฟร์เองก็ตัวเล็ก ถือมีดอีโต้ก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว (หัวเราะ) และต้องโชว์ลีลาอีก แต่พอเราลองทำก็โอเค.เราก็ทำได้นะ"

อยู่ในกองถ่ายต่างจังหวัด โฟร์ก็มีความสุขดี?
"ก็ชอบนะคะ เพราะมันง่ายๆ ไม่ต้องเยอะ ไม่ฟุ่มเฟือย ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน อย่างใส่ผ้าถุงอาบน้ำริมคลอง ร้องเพลงเพี้ยน เลี้ยงเป็ด คุยกับเป็ด (หัวเราะ) ในเรื่องเวลาที่ช้อนทองมีปัญหาอะไร ก็จะเล่าให้เจ้าเป็ดมันฟังตลอดเหมือนเราเป็นเพื่อนกับมัน ระบายความในใจให้มันฟัง (หัวเราะ) ยอมรับเลยว่า...กลิ่นมันเหม็นมากๆ ได้ใจจริงๆ เพราะล้างเท่าไหร่ก็ไม่หายเหม็น แต่มันก็ทำให้โฟร์เข้าใจ สงสารมันมากขึ้นเพราะอยู่กับมันมาตั้ง 8-9 เดือน ช่วงที่ผ่านมาหรือช่วงนี้เองโฟร์จึงเลือกที่จะไม่ทานเป็ดเลย"

คุยเรื่องงานนักร้องบ้าง?
"ช่วงนี้อยู่ในช่วงปล่อยซิงเกิลใหม่ค่ะ "เลิฟวิลล่า" ก็น่าจะมีอัลบั้มเต็มออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แหละค่ะแป๊บเดียว โฟร์เป็นนักร้องมา 7 ปีแล้วค่ะ ก็ดีนะคะ พอใจ เหมือนทุกๆ อัลบั้มของโฟร์-มด ที่ออกมา ก็มีคนติดตามและชอบกันตลอด อย่างเพลง "เลิฟวิลล่า" คนฟังเพลงก็ชมบอกว่า...น่ารัก เราเองก็พอใจในผลตอบรับ ซึ่งโฟร์เองไม่ได้มองไปไกลมากนะคะ ไม่รู้เหมือนกันมันจะเป็นอย่างไร แต่ยังไงเร็วๆ นี้ผลงานเพลงยังคงต้องเป็นในนาม "โฟร์-มด" อยู่นั่นแหละ เพราะเราก็โชคดีที่ยังมีคนให้การตอบรับที่ดีกับเราอยู่ เรื่องการร้องเพลง ยังไงโฟร์ก็รักกับงานตรงนี้ โตมาจากทางนี้ เราก็ไม่อยากทิ้งแน่นอน"

ช่วงอายุที่เริ่มมากขึ้น จะเปลี่ยนจากแนวแบ๊วๆ มาเป็นเซ็กซี่ได้หรือยัง?
ไม่ถนัดเลยค่ะจริงๆ ส่วนเรื่องการร้องเพลงให้ไปในแนวโตขึ้น เซ็กซี่ขึ้น โฟร์ก็ว่า...โฟร์ไม่ถนัดเหมือนกัน มันไม่ใช่เรา ถ้าทำมันก็คงทำออกมาได้ไม่ดี แถมอาจดูฝืนๆ ไม่เป็นธรรมชาติ อย่างแฟชั่นก็อาจจะได้นิดๆ หน่อยๆ การแต่งตัว การโพสท่า แต่ถ้าเต็มตัวอย่างชุดว่ายน้ำ โฟร์ไม่สนใจ เพราะคิดว่า...ตัวเองไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถ่าย โฟร์ก็แบบหุ่นไม่ได้ดีอะไรด้วย ถ่ายคงไม่สวย แต่ที่สำคัญที่สุดคือไม่ชอบ ที่ผ่านมาก็เคยมีคนติดต่อมาตลอดให้ถ่ายเป็นแพ็กคู่ดูโอ โฟร์กับมดเลย เมื่อ 3 ปีก่อน แต่คุยคอนเซ็ปต์ดูชุดแล้วมันไม่ใช่ รับไม่ได้"

ชื่อของ "โฟร์-มด" ก็ติดกระแสแล้ว คิดจะทำธุรกิจค้าขายอะไรในแบรนด์ของตัวเองบ้างหรือเปล่า?
"โดยส่วนตัวของโฟร์ โฟร์อยากทำนะคะ ประมาณร้านทำผม ร้านทำเล็บ เพราะโฟร์เองก็ชอบทำ ดูแลตัวเอง ชอบทางนี้ แต่ก็คิดอีกทีช่วงนี้งานของโฟร์แค่การเป็นนักร้องอย่างเดียว เรียนหนังสือ มันก็แทบไม่มีเวลาแล้ว และถ้าเรามีร้าน ไม่มีเวลาอยู่ร้าน ไม่ได้ดูแลลูกค้าของเราจริงๆ แล้วเราจะสนุกไหม?"




งานในวงการก็ก้าวหน้าตลอด ส่วนเรื่องเรียนของโฟร์ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว?
"(หัวเราะ) ตอนนี้โฟร์ย้ายจากมหาวิทยาลัยรังสิต มาเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง รัฐศาสตร์ ปี 2 แล้วค่ะ ความจริงโฟร์ก็พยายามทำให้มันดีที่สุดนะคะ ทั้งการเรียนและการทำงาน แต่จริงๆ คือโฟร์เป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่ง ในเมื่อเราโชคดีได้โอกาสทำงานตรงนี้ไปด้วย ก็คงต้องค่อยๆ เรียนไป ตอนนี้ก็ยังไปเรียนอยู่ตลอดค่ะ ลงเทอมละ 2-4 ตัว อาจจะช้ากว่าคนอื่นๆ ก็ไม่เป็นไร

แต่ยังไงโฟร์ก็จะพยายามทำให้ได้ค่ะ เพราะคุณแม่ของโฟร์เองก็คาดหวัง อยากให้โฟร์เรียนจบให้ได้ ถึงจะช้าก็ไม่เป็นไร ที่บ้านทุกคนเป็นกำลังใจและรอวันที่โฟร์จะเรียนจบ ทำให้ทุกคนได้ภูมิใจให้ได้ อย่างโฟร์เองก็ให้กำลังใจตัวเราเองตลอดและก็ได้เห็นจากประสบการณ์ตัวเราเองด้วย ว่า...คนเราเรื่องการเรียนไม่มีคำว่าสายเกินไปจริงๆ อย่างที่โฟร์เรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็มีนักศึกษารุ่นคุณแม่-คุณป้า อายุ 40-50 อัพกัน แล้วมาเรียนห้องเดียวกันด้วย เขามีความตั้งใจที่จะเรียนกันจริงๆ เขาก็มานั่งเรียนกันแบบไม่มีเขินอาย ก็รู้สึกอบอุ่นมากๆ ไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวเลยที่ไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันเรียนด้วย"

เรื่องความรักกับนักร้องหนุ่มร่วมค่าย "พิชญ์ กาไชย" เป็นอย่างไรบ้าง มีข่าวรัก-เลิก กันตลอด?
"มันเป็นกระแสมากกว่าค่ะ งอนกันจริง ทะเลาะกัน แต่ถามว่าเลิกกันไหม? ก็ไม่ได้เลิกอ่ะ เวลานี้ความรักก็โอเค. ก็มีบ้างที่เรางอนกันแต่ก็เฉยๆ ไม่ได้รุนแรงอย่างข่าว ซึ่งเราก็รู้กันสองคนอยู่แล้ว มันเป็นอย่างไร คนอื่นๆ ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร"

เคยโกรธกับข่าวที่เกิดขึ้นบ้างไหม?
"ไม่นะคะ เพราะที่ผ่านมาตัวโฟร์เองก็รู้สึกว่าตัวเองเจอข่าวที่ไม่ดีน้อยมากๆ โฟร์เลยรู้สึกว่าอะไรที่ดีเราคงรักษาเอาไว้ แต่อะไรที่ไม่ดีแล้วเขาบอกมา เราก็ปรับปรุงตัวให้มันดีขึ้น บอกตามตรงไม่เคยโกรธพี่ๆ นักข่าว โฟร์มองว่า...ที่เขาลงข่าว เล่นข่าวให้เรา ก็เป็นเพราะเขายังรักและคิดถึง ถ้าเกิดเขาไม่สนใจ เขาก็คงไม่เขียนข่าวเกี่ยวกับเราเลย"

คาดหวังกับความรักครั้งนี้แค่ไหน?
"ไม่รู้สิคะ แต่โฟร์ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับมันเท่าไหร่เลย เพราะเหมือนทางที่บ้านของโฟร์เองเขาก็เห็นว่า...โฟร์ยังเด็ก อยากให้เราโฟกัสในเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องงานมากกว่า ซึ่งทางบ้านโฟร์ก็เข้าใจว่ามันเป็นธรรมชาติที่ลูกสาวจะมีเพื่อนผู้ชายที่สนิทสนมไปไหนมาไหนด้วย ถึงแม่กับป๊าจะเป็นห่วง แต่เขาก็เข้าใจ

ตอนนี้เราสองคนก็คงเรื่อยๆ คุยกันต่อไป เรื่องไหนยอมให้กันได้ อยู่กันได้ก็โอเค. แต่ถ้าเรื่องซ้ำซากโฟร์กับพิชญ์เองก็มองเราสองคนอย่าฝืน ต่างคนต่างไปดีกว่า เพราะถ้ายื้อกันไปก็คงไม่มีความสุขแถมจะทุกข์เอาอีก แต่บอกตามตรงความสัมพันธ์เราก็ยังโอเค.ดีเหมือนเดิม ไม่ได้รุนแรงเหมือนตามข่าวเลยค่ะ"

ภาพแฟชั่นในฉบับ คลิ๊ก!!



ข้อมูลโดย ภาพยนตร์บันเทิง


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์