Welcome to University with SWEE:D [พิม จินนี่ และมิน]

วันนี้ Skoolbuz ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ 3 สาวสวยมากความสามารถ “SWEE:D”  "พิม จินนี่ และมิน" ที่สามารถสอบเข้าเรียนคณะในฝันได้เป็นผลสำเร็จ โดยจินนี่และพิมได้เป็นนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ (หลักสูตรนานาชาติ) หรือ CommDe จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนมินที่ชื่นชอบด้านภาษาได้เป็นนักศึกษาน้องใหม่ที่ คณะศิลปศาสตร์ โครงการอังกฤษ-อเมริกันศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ) หรือ BAS มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันนี้ SWEE:D จะมาเปิดเผยความรู้สึกและเล่าประสบการณ์พร้อมแนะนำการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ชาว Skoolbuz ฟัง จะสนุกสนาน ตื่นเต้นแค่ไหน ไปติดตามบทสัมภาษณ์ได้เลยจ้า

 

 

 

 

แนะนำตัวกันหน่อย

พิม,จินนี่ และมิน  : สวัสดีค่ะ พวกเรา SWEE:D (สวีต-ดี) ค่ะ มิน-มีนาพร วงศ์โฆษวรรณ ค่ะ พิม–พิมประภา ตั้งประภาพร ค่ะ จินนี่-ผุสชา โชติวิจิตร ค่ะ

พูดถึงอัลบั้มนี้กันหน่อย ชื่อ SWEE:D มีที่มายังไง

มิน : ชื่อ SWEE:D มันมาจากความหวานของแต่ละคนค่ะ คือพวกเราสามคนก็จะมีความหวานที่เหมือนกัน และก็มีบางมุมที่ต่างกันบ้าง เพราะความหวานของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน

พิม : มันก็เหมือนกับขนมหวานที่มีรสหวาน เปรี้ยว หรือขม แต่ก็อร่อยเหมือนกันแล้วแต่คนจะชอบ (ยิ้ม)

มิน : ใช่แล้ว ส่วนแนวเพลงก็จะเป็นแนว Pop Dance คือหลายคนอาจจะติดภาพจาก Seven Days แต่ SWEE:D ก็จะเป็นผู้หญิงที่โตขึ้นแล้ว ก็อยากฝากเพื่อนๆ ช่วยติดตามด้วยนะคะ

แล้วเราสามคนมารวมเป็น SWEE:D ได้อย่างไร

มิน : เราฟอร์มวงขึ้นมาใหม่ เป็นเหมือนน้องใหม่อีกวงหนึ่งของ Kamikaze (หัวเราะ)

พิม : ค่ะ เป็นวงที่เด็กที่สุดเลย (หัวเราะ) ล้อเล่นค่ะ

จินนี่ : คือแต่ละคนก็จะมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันไป แต่ว่าพวกเราชอบสไตล์เพลงแบบเดียวกัน ก็เลยลงตัว

มิน : ก็อยากให้ติดตามฟังเพลงของพวกเรา และที่สำคัญในคอนเสิิร์ต Kamikaze wave เราจะมีโชว์แบบเซอร์ไพรส์ด้วย

พิม : ใช่แล้ว 26 มิ.ย.นี้ ที่อินดอร์สเตเดียว หัวหมาก ก็จะเป็นการเปิดตัว SWEE:D เป็นครั้งแรกที่แรกเลยค่ะ ก็อยากให้เพื่อนๆ ไปกันนะคะ แล้วรีบฝึกร้องเพลงของพวกเราด้วยนะคะ

ตอนนี้ พิม,จินนี่ และมิน เรียนที่ไหนกันบ้าง

มิน : มินเป็นเฟรชชี่น้องใหม่ของ ม.ธรรมศาสตร์ เรียนอยู่คณะศิลปศาสตร์ โครงการอังกฤษ-อเมริกันศึกษา (BAS)

พิม : พิมศึกษาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่คณะสถาปัตย์ภาคอินเตอร์ Communication Design ชั้นปีที่ 1 ค่ะ

จินนี่ : ตอนนี้จินนี่ก็ศึกษาอยู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะสถาปัตย์อินเตอร์ Communication Design เหมือนกับพิมค่ะ ชั้นปีที่ 2

แต่ละคนเลือกคณะเรียนกันยังไง

มิน : จริงๆ แล้วมินหยุดเรียนไปหนึ่งปี แล้วก็เหมือนกับว่าเราจะต้องเอาใหม่ เริ่มตั้งต้นใหม่ ก็เลยเลือกเฉพาะคณะที่เป็นทางด้านภาษา แล้วที่ธรรมศาสตร์ก็มีคณะนี้ แล้วมินก็สนใจเกี่ยวกับอังกฤษและอเมริกันด้วย ซึ่งจะได้เรียนพวกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม

พิม : พิมชอบวาดรูป พวกดีไซน์ มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว คณะนี้ก็เป็นคณะในฝันที่อยากจะเข้าอยู่แล้ว ตอนที่อยู่โรงเรียนก็ถนัดพวกอาร์ต พวกดีไซน์อยู่แล้วค่ะ ก็เลยเข้าคณะนี้ค่ะ

จินนี่ : จินนี่ก็ชอบอาร์ตเหมือนกัน แล้วก็ชอบพวกแฟชั่นดีไซน์ กราฟฟิกดีไซน์ ก็สนุกมากค่ะเวลาคิดออกแบบ

ตอนสอบเข้าเตรียมตัวกันยังไง แล้วสอบเข้าด้วยวิธีไหนกันบ้าง

มิน : มินตรียมตัวในเรื่องของภาษาอังกฤษค่ะ  ก็จะเรียนพิเศษเพิ่ม แล้วก็ไปสอบIELTs ค่ะ แล้วก็เอาไปยื่นกับคณะ ต่อมาสอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ อีกทีค่ะ

พิม : ส่วนพิมก็คล้ายๆ กับพี่มินค่ะ ก็สอบวัดภาษาพวก IELTs , SAT แล้วของจุฬาก็จะมี CU-TEP ส่วนของคณะสถาปัตย์ก็จะมีข้อสอบหมือนกัน คือ CU-TAD แล้วก็ไปยื่นสมัคร แต่พิมโชคดี มีจินนี่ช่วยติวให้ เอาหนังสือสำหรับเตรียมสอบเข้ามาให้เพียบเลย

จินนี่ : จินนี่ก็เหมือนกับพิมนะคะ เพราะว่าเรียนคณะเดียวกัน และก็ต้องมี portfolio ที่ต้องยื่นด้วยนะคะ เป็นผลงานที่เกี่ยวกับพวกศิลปะของเรา ไปให้ยื่นให้ทางคณะดูว่าเรามีผลงานอะไรบ้าง

พิม : ใช่ค่ะ แล้วพอทำพอร์ตเสร็จแล้ว งานของเราก็จะไปอยู่ในตอนสัมภาษณ์ เค้าก็จะถามว่างานนี้มาจากไหน และ inspiration ยังไง
 

 

ความรู้สึกแรกเป็นอย่างไร ที่ได้รู้ว่าเราสอบผ่าน

มิน : ตอนแรก มินคิดว่า เฮ้ย ใช่ชื่อเราจริงหรือเปล่า เช็คทั้งชื่อจริง นามสกุล เลขบัตรประชาชน ว่าเป็นของเราจริงๆ หรือเปล่า

พิม : ตอนนั้นก็ดีใจมากๆ ตื่นเต้นมากๆ นอนไม่หลับเลย คือผลมันออกตอนตี 3 ก็รอดูตอนนั้นเลย ดีใจมาก

จินนี่ : สำหรับจินนี่ก็โทรบอกทุกคนเลยค่ะว่าติดแล้วนะๆๆ

ตอนสอบสัมภาษณ์นี่ตื่นเต้นมั้ย รู้สึกยังไง

พิม,จินนี่ และมิน : ตื่นเต้นมากค่ะ

มิน : ตอนนั้นต่อแถวยาวมากค่ะ แล้วก็เข้าไปเป็นห้องใหญ่ เหมือนห้องประชุม แล้วก็จะมีคุณครู เป็นชาวต่างชาติหมดเลย ก็นั่งอยู่หลายๆ โต๊ะ ก็ต้องสุ่มว่าเราจะได้ไปอยู่โต๊ะไหน โต๊ะนึงก็จะมีคุณครูอยู่ 2-3 คน เขาก็จะรุมยิงคำถาม คนนี้ถาม คนนั้นถาม หนูก็หลบเลยค่ะ ล้อเล่นค่ะ (หัวเราะ) ก็ต้องตอบไป เหมือนไปต่อยมวยเลยค่ะ

พิม : พิม โดนเค้ายิงคำถามอย่างเดียวเลยค่ะ คือพิมได้สัมภาษณ์กับอาจารย์ที่ดูดุหน่อย เค้าเหมือนกับจะลองเชิงเรา จะวัดว่าเรามีความอดทนไหม ค่อนข้างมีการใช้จิตวิทยานิดหน่อย เขาก็ถามว่าอยู่จุฬา อยู่คณะนี้มันงานหนักนะ จะอยู่ได้เหรอ เธอเป็นศิลปินทำไมมาเข้าคณะนี้ แล้วก็เหมือนกับเค้าจะดูว่าเราตอบกลับยังไง คือบางคนก็ร้องไห้ ตอนนั้นพิมก็อดทนสุดชีวิต ก็ตอบเต็มที่ แล้วพอออกมาก็ร้องไห้โฮเลย ตอนแรกนึกว่าไม่ได้แต่พอได้ก็ดีใจมาก

มิน : มินว่าน่าจะอยู่ที่ความมั่นใจ แล้วก็ที่สำคัญ ยิ้มอย่างเดียวเลยค่ะ ช่วยได้ (หัวเราะ)

พิม : เราต้องยิ้มแล้วก็ตอบคำถาม คือตามความจริงเลยค่ะ ไม่ว่าเราจะพูดยังไง อาจารย์ก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว แค่อยากดูว่าเรามีความสามารถแค่ไหน

จินนี่ : อาจารย์เขาจะเทสต์ดูเฉยๆ แต่จินนี่โชคดีนะคะ ได้อาจารย์ที่ใจดีมาก ก็พูดคุยแล้วก็ถามคำถามค่ะ

แล้วจินนี่ที่ผ่านชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยมาแล้วหนึ่งปี ได้แนะนำอะไรกับพิมและมินบ้าง

จินนี่ : ก็อยากให้ตั้งใจเรียนนะคะ ยิ่งเรามีงานด้วย ช่วงนี้ก็จะมีปล่อยเพลงในอัลบั้มแล้ว ซึ่งเราก็เรียนหนักค่ะ เลยเป็นสองเท่าเลย อย่างจินนี่เอง หลังทำงานเสร็จ เที่ยงคืนก็ต้องนั่งทำการบ้านถึงตีสี่ตีห้า สุขภาพก็จะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ก็อยากให้ตั้งใจเรียน แล้วก็แนะว่าให้คุยกับเพื่อนๆ หรือคุณครู ให้ช่วยแนะนำและก็ช่วยเหลือค่ะ
 

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยแตกต่างกับตอนเรียนมัธยมมากไหม

จินนี่ : ต่างค่ะ เพราะเราต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้้น คุณครูก็จะไม่ได้มาตามเราตลอดเวลาเหมือนตอนเราเรียนมัธยมปลายด้วย

สำหรับมินกับพิม วันที่เจอเพื่อนมหาวิทยาลัยครั้งแรก รู้สึกยังไง

พิม : วันนี้ (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 พ.ค.) เพิ่งไป Chula First date มาค่ะ คือเป็นกิจกรรมให้เราได้พบกับรุ่นพี่ และเขาก็จะให้แนะนำตัวกับเพื่อนที่คณะ ก็สนุกมากๆ เลย แล้วก็ได้ไปช้อปปิ้งซื้อเสื้อมหาวิทยาลัย พวกอุปกรณ์การเรียน ก็สนุกและตื่นเต้นมากๆ เลย

จินนี่ : แล้วหมดไปเท่าไหร่คะพิม

พิม : ก็เยอะเหมือนกัน อย่าบอกเลย เดี๋ยวเพื่อนๆ จะตกใจ (หัวเราะ)

มิน : สำหรับมินวันนี้มี TU First Meet แต่มินไม่ได้ไป ส่งเพื่อนไปแทนค่ะ แล้วเพื่อนก็จะโทรรายงานตลอดเวลา เพื่อนก็โทรมาบอกว่า เฮ้ย เขามีจัดโต๊ะกันแล้วนะ มินก็เลยบอก ลงชื่อมินไปด้วยนะคะ (ทำเสียงอ้อน) แล้วก็จะมีไปอีกทีคือวันปฐมนิเทศ วันนั้นก็คงได้เจอกับเพื่อนๆ ค่ะ

ได้ร่วมกิจกรรมรับน้องบ้างหรือยัง เป็นอย่างไรบ้าง

มิน : เมื่อวานมินไปที่ธรรมศาสตร์มา ก็เห็นรุ่นพี่รับน้อง ก็จะมีร้องเพลงมีเชียร์ เราก็เลยจินตนาการภาพตัวเองอยู่ว่า เราจะนั่งตบมือร้องเพลงยังไงดี จริงๆ แล้วถึงแม้ว่าอากาศจะร้อน แต่มินเชื่อว่าทุกคนต้องเต็มที่มากๆ ค่ะ แล้วก็อยากให้ทุกคนร่วมสนุกไปกับกิจกรรมที่พี่ๆ เขาจัดให้ค่ะ

พิม : ส่วนพิมก็ตื่นเต่้นมากๆ เลยค่ะ ก็พยายามที่จะไม่พลาดเลย ถึงแม้เราจะมีคอนเสิร์ตมีซ้อมคอนเสิร์ต แต่ถ้าว่างพิมก็จะไปพบรุ่นพี่และก็จะได้สนิทกับเพื่อนๆ ไว้ด้วย เพราะเราต้องเรียนด้วยกันถึง 4 ปีเลยในคณะ เห็นเขาบอกว่ามันเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่เราจะมีโอกาสได้รับน้อง พิมก็จะเต็มที่มากๆ ค่ะ แต่ที่ surprise สุดๆ ก็คือ ได้รู้ว่าเป็นน้องรหัสจินนี่ด้วย

จินนี่ : ใช่ๆ ตกใจเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะบังเอิญขนาดนี้ใช่มั้ยน้องรหัสจินนี่ (หัวเราะ)

สำหรับจินนี่ล่ะ ประสบการณ์การรับน้องในปีที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง

จินนี่ : ในปีที่ผ่านมา จินนี่ไม่ได้มีโอกาสเข้าไปรับน้องในทุกๆ ครั้งนะคะ ก็มีไปบ้างค่ะ เพราะว่าตอนนั้นติดงานค่ะ แต่พอได้ไปร่วมก็สนุกค่ะ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ก็มีกิจกรรมมากมายเลย

SWEE:D มีอะไรจะฝากถึงน้องๆ ที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีหน้าบ้าง

มิน : จริงๆ เราต้องรู้ก่อนว่าเราชอบอะไร อยากเรียนอะไร แล้วก็มุ่งๆ ไปเลย เพราะถ้าเรามาหว่านมาสุ่มเอา เราก็จะทำงานหนักกว่าเพื่อน ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดีกันนะคะ

พิม : ถ้าเพื่อนๆ ท้อก็ท้อได้ แต่ว่าอย่าถอยเลยนะคะ ให้มีความอดทนขยัน ถ้าเรามีความพยายาม ยังไงก็สำเร็จแน่นอนค่ะ ทุกคนก็จะมีกำลังใจทั้งจากเพื่อนๆ จากครอบครัว ก็อยากให้ทุกคนสู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

จินนี่ : พวกเรา 3 คนก็เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ ก็อยากให้เพื่อนๆ ตั้งใจเรียน ขอให้เข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองอยากเรียนให้ได้นะคะ

 

 

 

สำหรับน้องๆ ที่กำลังติดตามอัลบั้ม "SWEE:D" พิม จินนี่ มิน คอนเฟิร์มแล้วว่า พวกเราจะได้ฟังซิงเกิ้ลแรกเต็มๆ ในวันจันทร์ที่ 7 มิ.ย. แน่นอนที่ www.ilovekamikaze.com และ www.pleng.com

 เครดิต zheza