ฉอด ผู้บริหาร A-time // Gmm แจงคดีประมูลคลื่น ยันไม่ส่งผลต่อตำแหน่งและบริษัท

ทำเอาทั้งคนเป็นข่าวและผู้ที่อยู่รอบข้างตกใจเป็นแถวๆ เมื่อมีข่าวว่าเจ้าแม่คลื่นวิทยุ "ฉอด - สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา" ผู้บริหาร เอไทม์ มีเดีย ถูกควบคุมตัวไปที่ศาลอาญา ในกรณีที่ตกเป็นผู้ต้องหาว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริตในการประมูลคลื่นวิทยุ 94.5 ตั้งแต่ปี 2546 แต่เจ้าตัวออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่ได้มีอะไรร้ายแรงอย่างที่เป็นกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ โดย ฉอด เล่าถึงเหตุการณืให้ฟังว่า

"เรื่องคดีต้องบอกก่อนว่าคงพูดอะไรในเนื้อหาไม่ได้เยอะ เพราะว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในคดีเป็นขั้นตอนของทางด้านศาล หรือว่าเรื่องของทางทนาย ทางฝ่ายกฎหมายต่างๆ แต่ว่าสิ่งที่เล่าให้ฟังได้ก็คือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 46 ซึ่งเราก็เป็นบริษัทที่เข้าไปประมูลเรื่องสถานีวิทยุตามปกติแล้วเราก็เป็นผู้ได้ คงจะเป็นเรื่องของคนที่ทำอยู่เดิมก็มีการร้องเรียนกันเกิดขึ้นเป็นเรื่องราวสืบทอดมา ซึ่งมาถึง ณ วันนี้สถานีวิทยุที่ว่านี้ก็ไม่ได้ทำไปนานแล้ว ไม่ได้อยู่ใน 4 คลื่นที่เราทำอยู่ในปัจจุบัน บริษัทที่ไปร้องเรียนตอนนี้ก็ไม่ได้ทำแล้วเหมือนกัน ตอนนี้ใครก็ไม่รู้ทำอยู่ แม้แต่ท่านผู้มีอำนาจซึ่งตอนนั้นเป็นเจ้ากรมซึ่งเซ็นเรื่องนี้ท่านก็เสียชีวิตไปแล้ว มันนานมาก ก็มีเรื่องขึ้นมา

เมื่อวันศุกร์ (22 มกราคม) พี่ฉอดต้องเข้าไปในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตำแหน่งนี้ ก็ไปเพื่อรับทราบเรื่องที่มีการฟ้อง ทางฝ่ายกฎหมายก็บอกว่าไปรับทราบ ไปบอกกับศาลว่าเราขอสู้คดี ปฏิเสธทุกเรื่อง แล้วก็มีการแต่งตั้งทนายหรือฝ่ายกฎหมายเพื่อไปรับผิดชอบเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งก็เป็นขั้นตอนปกติมากของการที่การฟ้องร้อง ทุกอย่างเป็นข้อกล่าวหา ถูกผิดยังไงก็คงอีกนานกว่าจะดำเนินการไปตามเรื่องราวของคดี

แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ด้วยความรู้สึกที่ว่ามันไม่มีอะไร เขาบอกให้ไปแสดงตัว ไปเซ็นเอกสารเฉยๆ พี่ฉอดไปแล้วก็ไม่ได้บอกใครด้วยว่าจะไป ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องบอกใครๆ ไปทำงานคนเดียวแล้วก็มีทีมกฎหมายของทางแกรมมี่ไปด้วย ปรากฏว่าระหว่างที่นั่งอยู่ในนั้นก็ได้ทราบว่ามีข่าวออกไปอาจจะมีข้อความของข่าวประโยคที่ออกจะน่ากลัวเกินจริงไปนิดนึงว่า พี่ฉอดถูกจับ ญาติกำลังประกันตัวอยู่ มีคำว่าฝากขังด้วยนะคะ สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตก็คือทุกคนก็กระหน่ำมามีทั้งโทรศัพท์ ข้อความ ก็เลยตกใจตัวเองว่าเรื่องมันใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ จริงๆ แล้วก็ดีนะคะ จะได้ทราบว่ามีใครสนใจเราอยู่บ้าง ต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง"

ส่วนเรื่องจะมีผลกระทบกับการทำงานบ้างหรือเปล่านั้น ฉอด ปฏิเสธว่า "คงไม่มีค่ะ อย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องเก่านานมาแล้ว ถ้าพูดในแง่ลักษณะของการประมูลหรือว่ามีการกล่าวหากันก็เป็นเรื่องปกติในกลไกของธุรกิจอยู่แล้ว โดยตำแหน่งหน้าที่ก็คงต้องเข้าไปเป็นชื่อของคนที่รับผิดชอบ แต่ว่าการดำเนินการจริงๆ เป็นเรื่องของทนายหรือว่าฝ่ายกฎหมายของบริษัทมากกว่า" ผู้บริหารสาวยังพูดต่อไปว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจ "ถ้าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไร ตอนที่เขาบอกให้ไป แค่ไปรับทราบไปเซ็น มาตกใจตอนที่ทุกคนตกใจมากกว่า พอก็อปปีออกไปแบบนั้นแล้วบอกต่อๆ มันก็ไปเรื่อยๆ ก็มีคนตกใจเข้ามา ก็ไม่เคยเห็นพี่ฉอดทำอะไร นอกจากทำงานกับทำบุญ แล้วไปทำผิดอะไรให้ถูกจับตอนไหน"

สำหรับเรื่องที่มีกระแสออกมาว่าทางแกรมมี่อาจจะสั่งปลดนั้น ฉอด กล่าวว่า "ต้องเรียนว่าสิ่งใดๆ ก็ตามที่ทำพี่ทำในนามของบริษัท พี่ไม่ได้ทำอะไรเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าทำอะไรเป็นส่วนตัวเนี่ยคงเป็นผลกระทบ ต้องขอบพระคุณคุณไพบูลย์ (ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม) ด้วยซ้ำไป เพราะว่าคุณไพบูลย์น่ารักมาก เป็นห่วงเป็นใยตลอดเวลา เพราะรู้ว่าพี่ทำไปในหน้าที่ของบริษัท คุณไพบูลย์จะให้กำลังใจแล้วก็คอยตกใจแทนตลอดเวลาว่าเป็นอะไรหรือเปล่า พี่ว่าพี่เป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ ค่อนข้างมั่นคงในสิ่งที่ทำมา พอถึงเวลาที่มีเหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ก็จะไม่ค่อยตื่นตระหนกตกใจมากมาย แค่ว่าเราทำให้ดีที่สุด อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องแล้วแต่"

ส่วนประเด็นข่าวที่ออกมาทำให้หุ้นของแกรมมี่ตกเลยนั้น ฉอด พูดว่า "อันนี้ต้องเป็นเรื่องของทางฝ่ายจัดการทางด้านนั้นแล้วค่ะ เพราะทุกคนก็คงทราบ โดยตำแหน่งพี่ฉอดทำซีอีโอตรงนี้ พี่ก็มีขอบเขตภาระหน้าที่ในการดูแลรับผิดชอบอยู่ในส่วนตรงนี้ แกรมมี่เองใหญ่มากก็มีหลายๆ ส่วนรับผิดชอบอยู่ เขาคงดูแลกันไปในแต่ละส่วน เท่าที่บอกกันมาก็บอกว่าไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร อย่างที่บอกในแง่ของคนที่ทำงานธุรกิจตรงนี้เขาจะรู้ว่าเป็นวิถีของธุรกิจปกติ เวลาไปประมูลแล้วมีการร้องเรียน ถือเป็นวิถีของมันซึ่งคงต่อสู้กันไป จะแพ้จะชนะเดี๋ยวก็ว่ากัน"

http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=1393261


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์