อาร์เอส เผยรายได้ Q3/52 สดใส กำไรต่อเนื่อง


























อาร์เอส เผยรายได้ Q3/52 สดใส กำไรต่อเนื่อง 



 



“ อาร์เอส ” ทำกำไรสวนกระแสเศรษฐกิจ แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 52 สดใส ทำรายได้รวมกว่า 554 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท ทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ผ่านมา ภายหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กร และปรับกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจครั้งใหญ่ ที่เริ่มส่งผลและปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ


ลาดพร้าว – นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 ปี 2552 บริษัทฯ มีรายได้รวม 554.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 52.34 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 29.12 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ125.4 และปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ที่ 35.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 218.9 เลยทีเดียว


โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่เป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจเพลงและดิจิตอล (Music & Digital)  ที่ยังคงเป็นดาวเด่น และระเบิดภาพความสำเร็จทางการเงินของกลุ่มทั้งหมด โดยไตรมาส 3 ของปี 52 ธุรกิจเพลงและดิจิตอลสามารถทำรายได้ไปกว่า 232.9 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 32.2 ล้านบาท หรือโตขึ้นประมาณ 16.1 % ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ธุรกิจดิจิตอลมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆปี โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ออกแคมเปญ ซุปเปอร์เหมา *339 โหลดเพลง อาร์เอส ยกค่ายแบบไม่อั้น เบอร์เดียวโหลดได้ทุกเครือข่ายเป็นเจ้าแรก ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ที่นิยมชมชอบการดาวน์โหลดเพลงทางโทรศัพท์ จนทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพียง 2 เดือนแรกของการเปิดใช้บริการ สามารถทำยอดสมาชิกได้กว่า 1 ล้านราย โดยคาดว่าสิ้นปี 52 จะมีสมาชิกเพิ่มเป็น 2  ล้านราย และสิ้นปี 53 เราตั้งเป้าว่าจะมีผู้ใช้มากถึง 3 ล้านราย อีกทั้ง บริษัทฯ ยังได้พัฒนาคอนเทนต์ที่มีอยู่ ให้สามารถรองรับการใช้งานในระบบ 3 G ที่กำลังจะเปิดใช้งานได้จริงในอนาคตอันใกล้อีกด้วย


นอกจากนั้นการที่บริษัทฯได้ทำการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่และปรับกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ด้วยการลดสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ทำรายได้ ตัดการลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงและมีผลตอบแทนในระดับต่ำ ปรับโครงสร้างต้นทุนบางประเภท ควบคู่กับการปรับรูปแบบช่องทางการหารายได้ และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจสื่อที่มีศักยภาพที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งการเดินหน้าธุรกิจด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวเริ่มเห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ภาพรวมของบริษัทฯในไตรมาสนี้แสดงตัวเลขที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามลำดับ
  
ในขณะที่ธุรกิจสปอร์ต (Sport) ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในปี 53 เนื่องจากบริษัทฯ สามารถคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดศึกการแข่งขันบอลโลก 2010 (2010 FIFA World Cup South Africa) ซึ่งได้รับการตอบรับจากสปอนเซอร์เป็นอย่างดี และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายใน Q2 และ Q3 ของปี 53 อีกทั้งยังคงเดินหน้าธุรกิจกีฬาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด อาร์เอส สามารถคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 (25th SEA Games Vientiane) มาได้อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรุกธุรกิจแซทเทิลไลท์ทีวี อย่างจริงจัง โดยเรามีช่องแซทเทิลไลท์ทีวี ที่ออกอากาศในปัจจุบันถึง 2 ช่อง ได้แก่ “YOU Channel” ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่องรายการมิวสิควาไรตี้ จับกลุ่มวัยทีน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “YOU Channel เพื่อนคุณ 24 ชม.” และช่อง“สบายดี ทีวี” ภายใต้คอนเซ็ป “เพลงไทยหลายสไตล์ ดูสบายทั้งครอบครัว”  เป็นแนวเพลงลูกทุ่ง , เพื่อชีวิต , ลูกทุ่งเพื่อชีวิต และเพลงดังในอดีต ที่ยังคงได้รับความนิยมของค่ายอาร์เอส และเตรียมเปิดช่องรายการทีวีใหม่อีก 2 ช่อง ภายในต้นปี 53 อีกด้วย


การดำเนินเนินงานของบริษัทในช่วง 3 เดือนหลังของปี 52 กลุ่มธุรกิจทั้งหมดของ อาร์เอส จะเดินหน้าไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Entertainment & Sport Content Provider ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจเพลงและดิจิตอล , โชว์บิซ , ภาพยนตร์ , กีฬา และกลุ่ม Media Service ประกอบด้วย ธุรกิจทีวี , วิทยุ , สื่อในโมเดิร์นเทรด ซึ่งทั้งหมดเป็นช่องทางสำคัญในการเอาคอนเทนต์ของ อาร์เอส ไปต่อยอด ภายใต้แนวคิดการ Synergy ธุรกิจทั้งหมดมาสนับสนุนซึ่งกันและกัน อันจะทำให้ธุรกิจทั้งหมดของกลุ่ม อาร์เอส มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
 
“  การดำเนินธุรกิจของ อาร์เอส จนถึงสิ้นปีนี้ จะยังคงเน้นการเป็นผู้ผลิตและบริหารจัดการคอนเทนต์บันเทิง และกีฬา อย่างต่อเนื่อง  โดยยังคงเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานในทุกหน่วยธุรกิจ และบริหารต้นทุนอย่างระมัดระวัง อันจะเห็นได้จากอัตราการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นมาตามลำดับ แม้ว่าปัจจัยลบทางธุรกิจทั้งเรื่องปัญหาทางการเมือง รวมถึงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น แต่เราเชื่อว่าคนไทยยังต้องการความบันเทิง และด้วยการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค จะเป็นส่วนช่วยในการผลักดันให้ผลการดำเนินงานให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน ” นายดามพ์กล่าวทิ้งท้าย



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์