‘แอนนี่ บรู๊ค’ ปิดประตูรัก ลุยงานเพื่อลูก

“ลัคกี้ อิน เกม ลัคกี้ อิน เลิฟ” ถ้าเลือกได้ ใครๆ ก็คงอยากได้ทั้งสองอย่าง รวมถึงเธอคนนี้ “แอนนี่ บรู๊ค” ถึงแม้ใครจะมองว่า “แอนนี่” จะไม่ “ลัคกี้” อะไรเลย แต่เธอก็พร้อมสู้ชีวิตเต็มที่ทุกรูปแบบ และดูเหมือนเธอจะมีความสุขด้วยซ้ำ สุขยังไง ไปอัพเดทกันเลยดีกว่า

ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่บ้าง ?
แอนนี่ : “งานตอนนี้เป็นพิธีกรค่ะ ทางเคเบิ้ล ชื่อรายการ โฮม ชิล โฮม ก็จะเป็นพิธีกรคู่กับน้อง ‘ฑีฆายุ’ เลย ช่องเอช พลัส ชาแนล จะเป็นรายการเรื่องครอบครัว สุขภาพ และความสวยความงาม ออกอากาศทุกวันจันทร์ อังคาร พุธ เวลาบ่ายโมง”

เรื่องของคดีความเป็นยังไงบ้าง ?
แอนนี่ : “ก็ยังมีอยู่ 3 คดีค่ะ ก็มีของทางพี่พจน์ ของเฮีย (เฮียฮ้อ) แล้วก็ทางฝั่งเขาฟ้องเรา”

แล้วมีการจะยอมความบ้างมั้ย
มีข่าวว่า ‘แอนนี่’ ไม่ยอม เพราะอะไร ?
แอนนี่ : “ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไร แอนนี่ก็คิดมาตลอดนะคะ อยากจะให้มันมีอะไรดีๆ เกิดขึ้น อย่างศาลเองก็อยากจะไกล่เกลี่ยให้มันดีที่สุด แต่ว่าตอนนี้ก็ยังไม่ไปถึงไหน ก็คงจะต้องติดตามดูต่อไปว่ามันจะเป็นยังไง แต่ถ้าถามลึกๆ แล้วแอนก็อาจจะตอบอะไรมากไม่ได้ เพราะว่าเป็นผลทางคดีความ ถ้าถามว่ามันไปถึงไหนแล้ว ก็ต้องตอบว่ามันก็คงดำเนินการของมันไปเรื่อยๆ ทุกขั้นตอนก็อยู่ที่ศาลค่ะ”

ตอนนี้งานโชว์ตัวเป็นยังไงบ้าง ?
แอนนี่ : “งานโชว์ตัวตอนนี้ไม่มีค่ะ ไม่มีเลย

(ต่างกับช่วงแรกที่เรามีข่าวตอนนั้นใช่มั้ย ?)
ใช่ค่ะ คือเราก็เข้าใจว่ากระแสมา คนก็อยากจะเห็นเราว่าอะไรยังไง แต่ถ้าถามว่าเยอะไหม มันก็ไม่ได้เยอะอะไร รู้สึกจะแค่ 2 งานเอง นอกนั้นก็ไม่มีอะไร แล้วบางที ก็จะมีแบบเหมือนกับโดนบล็อกด้วย ที่เรารู้ก็เพราะว่าอย่างบางคนเขาโทรมาถามเราว่าค่าตัวเป็นยังไงเท่าไหร่ เราก็บอกว่าเท่านี้ เราไม่ได้บอกว่าจะอัพค่าตัว แต่ค่าตัวเราก็เท่ากับที่เคยมีมา เคยคิดยังไงก็คิดยังงั้น เราก็เลยอ้าว แต่คนนั้นคนนี้เขาบอกไม่ใช่นะ เราก็รู้แล้วว่ามีคนบล็อกเราแน่นอน สายนี้ก็จะมีสกัดดาวรุ่งนิดหน่อย (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส เราก็เข้าใจว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น แล้วมันจะเกิดอะไรต่อไป แล้วทำไมถึงมีคนทำแบบนี้ เราก็ต้องเข้าใจเขาด้วย”

ตอนนี้ก็เลยหันมาทำธุรกิจตัวเอง ?
แอนนี่ : “ใช่ค่ะ เป็นเครื่องสำอาง เรื่องครีม เรื่องความสวยความงาม ชื่อ นีออน ค่ะ แอนทำ ผลิตภัณฑ์สำหรับสปา เปิดคลินิกสำหรับผิวหน้า ยารักษาผิวหน้าแอนก็มีให้ส่งให้ แล้วก็ดูแล ทุกๆ ปัญหาผิวหน้าได้ แล้วก็ขายเครื่องสำอางให้กับยี่ห้ออื่นด้วยค่ะ อย่างสมมติว่า พี่ๆ เขาฝากขาย แล้วให้เปอร์เซ็นต์หนูมา หนูก็วิ่งขายให้”

ตอนนี้เลยทำทุกอย่างหมด เหนื่อยมั้ย ?
แอนนี่ : “มากค่ะ เพราะว่ามันเหมือนกับ มันเหนื่อยเป็นสองเท่า เมื่อก่อนเราทำงานในวงการ มันเหมือนกับเราได้เงินมาง่ายๆ เออทำงานไม่ต้อง ไปวิ่งไปเจอใคร ไม่ต้องไปต่างจังหวัด อะไรมากมาย ไม่ต้องเหนื่อย ตอนนี้แอนไปออกบู๊ธที แอนคุยกับลูกค้า วันหนึ่งมีคนเข้างานประมาณ 500 คน 100 คน ต้องได้คุยกับแอนแน่ๆ จริงๆ แอนเคยทำสถิติไว้เลยว่าวันนี้แอนคุยกับลูกค้ากี่คน แล้วแอนต้องอธิบายเรื่องเดิม น้ำลายแตกฟองมาก ยิ่งกว่าเป็นพิธีกรอีก ที่สุดของที่สุดแล้ว มันเหนื่อย แอนว่าอย่างบางคนที่เห็นเรา ทำมาหากิน เขาก็สนับสนุนโดยที่เราไม่ต้องพูดมาก มีบางคนซ้ำเติมสมน้ำหน้าก็มี มีแบบเดินเข้ามาเป็นผู้ชายด้วย แล้วพูดว่าเป็นยังไงล่ะ ไม่ได้เป็นดาราแล้วละสิ ถึงต้องมานั่งขายของอยู่อย่างนี้ สมน้ำหน้า ชัดเจนมาก (ท่ามกลางผู้คนเลยเหรอ ?) ใช่ค่ะ แล้วเขามากับครอบครัวด้วย แล้วภรรยาเขาก็อายมาก เหมือนแบบคุณเป็นผู้ชาย แต่คุณแบบเหยียบย่ำผู้หญิง แบบนี้เหรอ เขาคงอาย แอนก็บอกว่าขอบคุณค่ะ คือมันสุดๆ เลยค่ะ ไม่ซื้อไม่หาไม่ว่า ไม่คุย กับเราก็ได้ เดินผ่านไปเฉยๆ ก็ได้ แต่นี่เดินมาแล้ว ด่าเราด้วย”

แล้วที่คุย 100 คน กี่เปอร์เซ็นต์
ที่ซื้อ ของเรา ?
แอนนี่ : “80 เปอร์เซ็นต์ค่ะ ขายดีมากตอนนี้ ก็คือมีกี่ชุดก็เกือบหมด บางคนก็ซื้อด้วยเพราะความเป็นเรา หรือบางคนเขาซื้อเพราะเขายืนดูเราพรีเซ็นต์จริงๆ อันนี้มันคืออะไร อันนี้มันทำยังไง ทำประโยชน์อะไรกับเขาได้บ้าง ปัญหาเขาคืออะไร คือแอนจะแบบไม่ปล่อยให้ลูกค้าหลุดออกไป (หัวเราะ) ก็จะดูเขามีปัญหาอะไร แล้วเรามีผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาเขาได้หรือเปล่า”

เรื่องการขายเป็นธุรกิจที่เลี้ยงตัวเอง
หากไม่มีงานในวงการบันเทิงแล้ว ?
แอนนี่ : “ใช่ค่ะ เพราะแอนมองว่า บางครั้ง เราจะไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงแล้วหรือเปล่า เนื่องด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ก็เข้าใจ ผู้ใหญ่ด้วย เราก็เข้าใจทุกอย่าง แต่เราก็มองว่ายังไงลูกเราก็ยังต้อง กินข้าวกินนม เราเองก็ยังต้องดูแลครอบครัว ต้องหาอะไร ทำให้เราเดินต่อไปได้ เรื่องความสวยความงามนี่เราถนัดอยู่แล้ว เพราะว่าเราค่อนข้างที่จะดูแลตัวเอง อยู่แล้ว แบบเราเคยเรียนมาเรื่องพวกนี้ด้วย คิดว่ามันตรงตัวที่สุด เลยเลือกทำตัวนี้”

ตอนนี้ก็ยังดูแลคุณแม่ที่ลำปาง ?
แอนนี่ : “ค่ะ จริงๆ แอนไม่ได้ให้คุณแม่ทำงานตั้งแต่แอนอายุ 19 แล้ว เพราะว่าแอนเริ่มเล่นหนัง เรื่องแรก แอนบอกแม่เลยว่าไม่ต้องทำงานแล้ว เราจะเลี้ยงเอง สุขภาพก็ตามประสาคนแก่ค่ะ ตอนนี้ท่าน อายุ 60 แล้ว เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน แต่เคยพามาอยู่กรุงเทพฯ แล้วแม่ไม่ชอบ”

แล้วที่เวิร์คพอยท์ จริงๆ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ?
แอนนี่ : “จริงๆ เวิร์คพอยท์ทำงานมาด้วยกันเกือบ 6-7 ปี ตอนนี้มันก็มีบ้างที่ต้องปรับเปลี่ยนรายการอันนี้หนูก็เข้าใจอยู่แล้ว แต่ว่าเขาไม่ได้ทิ้งเรา เขาบอกว่าถ้ามีบทอะไรที่มันเหมาะกับเรา เพราะว่า หนูก็ยังเล่นตลกได้อยู่ (หัวเราะ) อาจจะดูหน้า ไม่ค่อยเข้า แต่หน้าหนูก็เป็นได้อยู่ อย่างผู้ใหญ่บางคนก็ทราบดี ถ้าเกิดมีบทตรง ก็จะส่งมาให้”

แล้วผู้ใหญ่ช่อง 3 เงียบไปเลยใช่มั้ย ?
แอนนี่ : “ไม่ขอพูดถึงดีกว่าค่ะ (ยิ้ม)”

ปีนี้มีคนทาบทามให้ถ่ายนู้ด
ถ่ายเซ็กซี่ บ้างมั้ย ?
แอนนี่ : “มีคนถามมาค่ะ แต่แอนบอกว่า ถ่ายกับน้อง มันเป็นเหมือนน่ารักมากกว่า อย่างนี้ แอนถ่าย ไม่ใช่ว่าถ่ายเพื่อขายเนื้อหนังเพื่อแลกตังค์มาเลี้ยงลูก เพราะว่าตั้งแต่แอนอยู่เวิร์คพอยท์ แอนไม่ได้เลือกที่จะทำแบบนี้ ไม่เคยเลือกที่จะเป็นเซ็กซี่สตาร์ ไม่ได้อยากเลือกที่จะถ่ายโป๊ แอนเลือกไม่ได้ เพราะว่า แอนเข้าวงการบันเทิงมาตัวคนเดียวเลย ไม่มีใครสนับสนุนทั้งสิ้น ไม่มีใครดูแล ไม่เคยมีสังกัด ยืนได้ อยู่ได้คนเดียว ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครเข้ามาอะไร แล้วเราไม่ใช่คนสวยที่จะเลือกงานแบบฉันจะเป็นนางเอกนะ ฉันจะเป็นตัวรองนะ ทำไม่ได้ คือมีอะไรเข้ามาต้องทำ ที่สำคัญแอนไม่ใช่คนรวย แอนเป็นคนจน เพราะฉะนั้นแอนทำเพื่อความอยู่รอดจริงๆ อย่างน้อยแค่เราถ่ายรูปมันก็เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ถ้าเรามองในแง่ดี ที่ผ่านมานะคะ อดีตที่ผ่านมาเราไม่ได้มองในแง่ร้าย และเราก็ได้เงินมาช่วยครอบครัว หลังจากนั้นพอมี บทตลกมา แอนทิ้งเรื่องถ่ายหวือเซ็กซี่เลย เพราะเรา รู้แล้วว่าเรามีทางเลือกอื่น ที่เราสามารถทำอย่างอื่นได้”

แล้วเรื่องการแสดง ยังไม่คิดลาวงการ ?

แอนนี่ : “คือแอนเข้ามาตรงนี้ เพราะแอนรักแอนชอบมันจริงๆ แต่เพียงแค่ว่าแอนไม่ค่อยมีโอกาสเท่านั้นเอง แต่ว่าตอนนี้ ถ้ามันจะมีโอกาสเข้ามาอีก สักครั้งหนึ่ง แอนก็ยังยืนอยู่ตรงนี้”

กับคู่กรณีเก่าๆ ได้คุยกันบ้างมั้ย ?
แอนนี่ : “ไม่เลยค่ะ ไม่เลย”

‘น้องฑีฆายุ’ เป็นยังไงบ้าง ?
แอนนี่ : “แสบมาก เขาจะมีเทคนิคของเขา เจ้าชู้มาก เห็นสาวเป็นไม่ได้ เขาจะค่อยๆ เอามือไป จับแก้ม ถ้าพี่เจอเขานะ เขาจะยิ้มจนมองไม่เห็นลูกตาข้างใน ตอนแรกเขาเหมือนมีตาสองชั้น แต่ตอนนี้เหมือนกับตาชั้นเดียว กลายเป็นตี๋ฝรั่งไปแล้ว เขาก็จะยื่นมือไปจับแก้มแล้วยื่นหน้าเข้าไปมองแบบลึกซึ้ง แล้วเวลาที่เขาเจอสาวๆ ตัวขาวๆ ตัวเล็กๆ เขาจะทำตาลึกซึ้งตลอด แต่กับแม่นี่จะดึงผม ไม่เห็นจะทำแบบนั้นเลย แล้วถ้าสมมติแอนโกรธ ก็จะเอาเขาวางไว้ที่มุมห้อง แล้วเราก็จะอยู่อีกมุมหนึ่งแล้วหันหลังให้ แล้วบอกถ้าน้องฑีซนแบบนี้ ไม่ฟังคุณแม่ จะไม่คุยด้วย เขาก็ทำเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะทำเหมือนเล่นกีตาร์เพราะเราเล่นกีตาร์ให้เขาฟังบ่อย เพื่อง้อให้เราหายงอน ตอนนี้เขาเริ่มเกาะยืน เขาก็จะเกาะขึ้นมาแล้วก็กอดหอม แล้วเอาปากมากินจมูก ทั้งอันเลย (หัวเราะ) ตอนนี้เรียกว่ารักลูกหลงลูกมาก เขาฉลาดมีพัฒนาการ เรื่องการเป็นนกหงส์หยก ต้องยกให้เขา ทุกอย่างที่เป็นกระจกเขาจะดูหมด เด็ก 10 เดือนกว่า เหมือนเด็ก 2 ขวบเลย”

แล้วมีคนทาบทามให้เข้าวงการหรือยัง ?
แอนนี่ : “ยังไม่มีเลยค่ะ ถ้ามีโอกาส ก็อยากให้น้องลองดูว่าทำได้ไหม ถ้าน้องทำได้ก็ถือว่าโอเค ก็ถือว่าเขาพร้อม ที่จะเป็นเด็กกล้าแสดงออก แล้วมีคนขอถ่ายรูปนะ ก็จะมีการขอดูรูปตัวเองด้วยนะ (หัวเราะ) ไม่งั้นจะงอแงมากเลย คือขอถ่ายรูปเขาแล้วเขาจะรู้ แล้ว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้ เสร็จแล้วเขาก็จะมาขอดูคนที่มาถ่ายรูป เมื่อเห็นแล้วก็จะสบายใจ แล้วถ้าเกิดเขาไม่ได้ดู ก็จะร้องเอา”

ถามเรื่องหัวใจ ตอนนี้มีใครมาจีบมั้ย ?
แอนนี่ : “ไม่มีเลยค่ะ ไม่กล้าหรอกค่ะ ไม่มีใครกล้าเขามา แล้วแอนก็ไม่เปิดด้วย คือตอนนี้มุมมองความรักมันเปลี่ยนไปแล้ว มันอาจจะเนื่องด้วยว่า มันเกิดความผิดพลาดในชีวิต ผิดพลาดในความรัก เราเลยระวังมาก คือตอนนี้หัวใจรองรับความเสียใจ อีกมั้ย ทุกคนมันก็รองรับได้หมด แต่เราไม่พร้อมตอนนี้ ตอนนี้มีผู้ชายอยู่ในใจคนเดียวพอแล้ว”

ถึงบรรทัดนี้ คุณเลือกที่จะให้กำลังใจเธอหรือซ้ำเติมเธอ เหมือนที่มีผู้ชายคนหนึ่ง ทำกับเธอ ก็สุดแท้แต่จะพิจารณา แต่สำหรับ “ทีวี อินไซด์” เราอยากให้เธอ “ลัคกี้ อิน เลิฟ” และ “ลัคกี้ อิน เกม” เข้าสักวัน