‘แม่’ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ‘บอย-เจมส์’ - เปรียบมวย

คนเราจะเกิดมาเป็นคนได้ดีจนถึงทุกวันนี้ เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากแรงสนับสนุนของครอบครัว โดยเฉพาะจาก “แม่” วันนี้ “เปรียบมวย” ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 2 ดาราดัง

เรื่องการวางตัวที่ดีในสังคม เป็นสิ่งที่แม่คอยบอกบอยและ น้อง ๆ อยู่เสมอ
 
เนื่องจากลูกเป็นบุคคลสาธารณะ ไม่ว่าจะทำอะไรให้นึกถึงใจเขาใจเราให้มาก ๆ ที่สำคัญถ้าตั้งใจจะทำอะไรแล้วให้ทำให้เต็มที่ เหตุนี้เองจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม บอยจึงกลายเป็นที่รักของทั้งผู้ใหญ่ในวงการ เพื่อนร่วมงาน แฟนคลับ แฟนละคร รวมถึงสื่อมวลชนด้วย

“หลายคนจะชอบบอกว่าแม่ผมดุ แต่ผมว่าสิ่งที่คุณแม่ทำ เพราะต้องการให้เราเป็นคนมีระเบียบวินัย ตอนเด็ก ๆ คุณแม่จะเข้มงวดในเรื่องนี้มาก ท่านต้องการให้ลูก ๆ อยู่ในกรอบที่ดีงามของสังคม แต่พอเราโตขึ้นเราสามารถรับผิดชอบดูแลตัวเองได้แล้ว ท่านก็เริ่มปล่อยให้เราเรียนรู้อะไรเองมากขึ้น แต่ก็ยังคอยดูเราอยู่ห่าง ๆ” บอยบอกเล่าถึงการเลี้ยงดูของคุณแม่

 “สำหรับผมคำว่า “แม่” มีความหมายที่ยิ่งใหญ่มาก แม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของลูก เป็นผู้ให้ที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน เริ่มตั้งแต่ให้ชีวิต ให้ความรัก ดูแลเอาใจใส่ คอยอบรมสั่งสอนและคอยอยู่เคียงข้างลูกตลอดเวลา ไม่ว่าลูกจะไปไหนทำอะไร แม่ก็จะคอยตามไปดูแลตลอดทั้งในยามที่เรา   จะสุขหรือทุกข์ก็ตาม ที่สำคัญเวลาเราทำในสิ่งที่ผิดพลาดแม่ก็สามารถให้อภัยลูกได้ทุกครั้งและพร้อมที่จะก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้น เพื่อเริ่มต้นใหม่ไปพร้อม ๆ กับลูกได้ตลอดเวลา” 

สำหรับในเรื่องการแสดงความรักต่อแม่นั้น บอย เปิดเผยว่า แรก ๆ ก็รู้สึกเขินที่ต้องกอดและบอกรักแม่ แต่พอทำ  บ่อย ๆ  ก็ไม่เขินแล้ว และยังแนะนำมายังลูกทุกคนว่า อย่าไปเขินกับการแสดงความรักต่อแม่ เพราะการกอดหอม หรือบอกรักแม่เป็นสิ่งที่เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดของแม่แล้ว

ซุป’ตาร์คนดัง เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข โด่งดังในวงการบันเทิงได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเจมส์นั้นเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก คุณแม่ต่าย-โชติกา ตั้งศรีสุข ที่ทั้งผลักและดันจนเจมส์ได้มายืนตรงจุดนี้  การได้รับรางวัลลูกกตัญญูในครั้งนี้ สร้างความดีใจให้กับเจมส์อย่างมาก ถือเป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูล เป็นความภาคภูมิใจ เขาไม่เคยคาดหวังรางวัลใด ๆ เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของหัวใจล้วน ๆ ที่มอบให้กับคุณแม่ 

“สำหรับผมคิดว่าลูกกตัญญู คือลูกที่เอาใจใส่พ่อแม่ คอยดูแลเชื่อฟังคำสั่งสอนและไม่ทำให้ท่านเสียใจ ซึ่งคุณแม่ผมก็ไม่เคยเรียกร้องว่า ผมจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันก็คือสิ่งที่คุณแม่อยากให้เป็นแบบนี้ ผมสัญญาว่าจะดูแลชีวิตตัวเองให้ดีที่สุด และจะดูแลคุณแม่อย่างนี้ตลอดไป ก็อยากบอกคุณแม่ว่าไม่ต้องห่วง ผมต้องเป็นคนดีให้ได้อยู่แล้ว อยากให้คุณแม่สบายใจตรงนี้ได้เลย เพราะคุณแม่เขาจะเป็นห่วงว่าอนาคตเราจะเป็นยังไง ต่อไปเราจะทำอะไร คือด้วยความเป็นแม่ก็ย่อมห่วงลูกเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”

เจมส์ เล่าถึงความผูกพันในครอบครัวว่า ค่อนข้างผูกพันกับคุณแม่และครอบครัว เพราะอยู่ด้วยกันมาโดยตลอด

คุณแม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต “แม่” คือผู้ให้และผู้เสียสละที่ดีที่สุด ท่านให้ทุกอย่างทั้งให้กำเนิด ให้ความรัก ความอบอุ่นและคอยเลี้ยงดูจนเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม แม่เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไม่เคยเบื่อและไม่ทอดทิ้งเจมส์ไปไหน ไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็พร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปเสมอ และสอนให้เราเป็นคนดีของสังคม

“ผมว่าสิ่งเดียว ที่ลูก ๆ       ทุกคนควรกระทำกับแม่      คือ การทำความดีและกตัญญูต่อแม่มาก ๆ เท่าที่จะทำได้ เราไม่รู้หรอกว่าบางทีที่เขาบ่นหรือว่ากล่าวตักเตือนเรานั่นเพราะเขาเป็นห่วงเรามากเช่นกัน ถ้าท่านไม่รักและเป็นห่วงก็คงไม่ได้มาสนใจเราขนาดนั้น เพราะฉะนั้นผมว่า ลูก ๆ ทุกคนควรจะดูแลท่านให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ในตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่”

ในส่วนของเรื่องการแสดงออกทางความรักนั้น เจมส์เป็นคนขี้อ้อนแม่อยู่แล้ว
 
การกอดหรือหอมแก้มถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้เขินอายอะไร เจมส์ฝากถึงลูกที่คิดว่าการแสดงความรักอย่าง เช่น การกอดหรือหอมแก้มคุณแม่ เป็นสิ่งที่คนที่โตแล้วไม่ค่อยทำ โดยเฉพาะลูกผู้ชาย แต่เจมส์มองว่าการที่แสดงความรักกับแม่เวลาที่คนอื่นมองมาแล้ว มันให้ความรู้สึกอบอุ่นอบอวลไปด้วยความรัก บางทีตอนที่เริ่มทำแรก ๆ อาจจะเขินบ้าง แต่พอนาน ๆ ไปเราจะรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก และสิ่งที่เจมส์ปรารถนาที่สุดตอนนี้ก็คือ การมีเวลาให้แม่เยอะ ๆ 

คำว่า ’แม่“ มีความหมายมากมายและมีบุญคุณมหาศาลที่เอ่ยถึงได้ไม่รู้จบ วันแม่ปีนี้ เชื่อว่า ลูก ๆ หลายคนคงต้องหาโอกาสอยู่กับแม่ กอดแม่ กราบแม่ แต่อย่าทำดีกับแม่แค่วันเดียว จงทำทุก ๆ วันให้เป็นวันของแม่ เพราะสำหรับแม่ ทุกวันคือวันของลูกเสมอ.

มยุรี วนะสุขสถิตย์