‘พุฒ-จุ๋ย’ ปลื้มไปแสวงบุญอินเดีย รอฤกษ์ดีบอกงานแต่ง

พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน ควงคู่มากับ จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหาให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ ถึงเรื่องที่ไปแสวงบุญที่อินเดียมา

โดย จุ๋ย เผยว่า "ดีมากๆ ค่ะ จริงๆ หลายปีที่ผ่านมา มีคนชวนแล้วหลายครั้ง แต่ว่าไม่ได้มีโอกาสสักครั้ง ก็ติดงานมั่ง ไม่สามารถเคลียร์ได้ แต่คราวนี้ จริงๆ อธิษฐาไว้เมื่อตอนต้นปี ถ้าปีนี้ได้มีบุญ ขอให้ได้ไปอินเดียสักครั้ง เพราะว่าปีนี้มีความรู้สึกว่าอยากไป แล้วจังหวะพี่ตา-ปัญญา ชวนพอดี ว่าไปด้วยกันไหม ให้ชวนพุฒ ไปด้วย ก็เลยลองชวนเขาดู ให้เขาคิดคิว แล้วก็สามารถไปได้(ยิ้ม) จริงๆ เขามีงาน แต่เขาเคลียร์มันได้ค่ะ ถ้าเราได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ จิตใจช่วงหนึ่งเราว่าง เราไม่คิดอะไร ไม่คิดร้ายกับใคร เราไม่คิดไม่ชอบใคร ไม่เกลียดใคร นินทาใคร ในช่วงนี้นเราไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เลย มันก็จะเป็นภาวะจิตที่ได้อานิสงส์ เพียงแค่ชั่วครู่ของลมหายใจที่เราสงบได้ ก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆแล้ว หลวงพ่อบอกว่า การสวดมนต์ก็เป็นการช่วยได้ คือเราจะจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือ ก็ทำให้ใจเรานิ่งได้ เป็นเหมือนการขัดเกลาจิตใจของเรา เราเจอสังคม เราเจอผู้คน อาจจะมีอะไรมาแตะใจเรา ที่จิตเรา ด้วยได้ใจที่มีกิเลสเล็กๆ บางๆ มาเกาะกิน ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ก็เป็นการที่เราทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ก็จะดีมากๆ

"สำหรับตัวเรา จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อินเดียก็ได้ แต่จุ๋ยกับพุฒโชคดีที่ได้ไปดินแดนพุทธภูมิ ในสถานที่ที่เราไป จะมีพุทธประวัติจริงๆ อยู่ตรงนั้น เราก็รู้สึกว่าพอฟังแล้วมันอินค่ะ (ยิ้ม) รู้สึกว่าเราได้อยู่ในสถานที่จริง เรารู้สึกขอบคุณ ในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงแสดงธรรม มีพระธรรมให้เราได้ไกลจากความทุกข์ เมื่อไม่มีความทุกข์เราก็สามารถปล่อยวางได้ เรารู้สึกปีติ อิ่มเอมใจเมื่อได้ไปทริปนี้ค่ะ" จุ๋ยกล่าว

พุฒ "ไปกัน 5 วันครับ ที่ไปอินเดีย ไปครั้งแรกทั้งสองคน ไปถึงวันแรกก็ได้สวดมนต์ ได้ฟังธรรม ทุกวันเราได้อยู่กับธรรมะ พอจบ 5 วัน เราก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ทำให้เราได้จุดประกาย เหมือนมีคนมานำทางบุญ สู่ประตูธรรมครับ"

แพลนต่อไปที่ไหนกันอีก
พุฒ "มีครับ วันที่ 8 เมษายนนี้ เราไปที่ขอนแก่น เหมือนเป็นการเอาบุญมาบอกต่อๆ กันให้กับเพื่อนๆ ให้มาร่วมบุญกัน เพราะว่าเพื่อนผมบางคน เขาอาจจะไม่ค่อยเข้าวัดทำบุญ ก็เผื่อว่า เราไปบอกแล้วเขายินดีที่จะมาร่วมบุญ บางทีการร่วมบุญต้องมีคนบอกด้วย ถึงจะได้บุญครับ ฝากบอกต่อๆ ด้วย (ยิ้ม) ต้องกระจายบุญ คนที่เขาได้รับข่าว เขาก็จะกระจายข่าวต่อๆ กันไป"

จุ๋ย "ไปวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ และก็สร้างระฆังด้วย ก็คงจะเป็นเดินทางสายนี้ไปแล้ว แล้วการทำบุญคนเดียวไม่ดีนะ เราต้องกระจายบุญไป เหมือนเทียนเล่มหนี่งไฟยังไม่ดับไป แต่เราสามารถต่อเทียนไปได้อีกหลายๆ เล่ม ก็จะสว่างขึ้น พื้นที่ตรงนั้นก็สว่างขึ้น การบอกบุญก็เป็นคล้ายๆ ลักษณะนี้"

งานบุญผ่านไปแล้ว งานแต่งงานว่ายังไงบ้าง
พุฒ "งานแต่งตอนนี้ยังไม่มีอะไรอัพเดตเพิ่มเติมเลย เหมือนเดิมทุกอย่าง เรื่อยๆ เฉื่อยๆ พี่ๆ สื่อ อาจจะคิดว่าไม่แต่งกันแล้ว (หัวเราะ) เราแต่งครับ แต่ว่าเรามีเวลา มีฤกษ์สะดวกที่เรายังไม่สามารถบอกได้ บอกสื่อมวลชน บอกแฟนคลับ บอกประชาชนครับ"

ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยหรือ
จุ๋ย "ก็มีวางรากฐานไว้ทั้งหมดค่ะ พอถึงเวลาจุ๋ยคิดว่ามันน่าจะไปของมันได้เอง แต่พอดีเรามีฤกษ์การบอกสื่อมวลชนด้วยค่ะ"

เป็นช่วงเวลาตามที่ตั้งใจไว้ใช่ไหม
จุ๋ย "เป็นตามช่วงเวลาที่ตั้งใจไว้ค่ะ แค่ว่าลงระยะเวลา การบอกเป็นเรื่องเป็นราวค่ะ เรามีฤกษ์ มีจังหวะในการบอก มีการเตรียมเอาไว้ แต่ยังไม่ได้ติดต่อ อะไรเลย"

กลัวเวลาเลื่อนไหม
พุฒ "ไม่ครับ สบาย (หัวเราะ) คือเรามีการพูดคุยกันไว้ เดี๋ยวเรามีช่วงเวลาที่เราลุยทุกอย่างได้ครับ ก็เตรียมปุ๊บน่าจะได้"

คิดธีมแบบไหน อยากได้แบบไหน
จุ๋ย "จุ๋ยยังไงก็ได้ ไม่อยากให้เขาต้องใช้ตังค์เยอะ"

เต็มที่เลย ไม่อั้นใช่ไหม
พุฒ "มีเท่าไหร่ ใส่เท่านั้นเลยครับแต่ตอนนี้ก็เก็บตังค์อยางเดียวเลย (หัวเราะ) เป็นไปตามความเหมาะสมแหละครับ ส่วนเรื่องพูดคุยกับทางผู้ใหญ่ คือเรามีคุยกันบ้างนิดหน่อย คือพ่อแม่ผม เพิ่งจะไปเจอกับพ่อแม่ของจุ๋ยมาเมื่อไม่นานมานี่เองครับ ถามว่าเป็นการไปสู่ขอเลยไหม เรียกว่าไปเที่ยว ไปทำความรู้จักกันมากกว่า"

ที่บอกว่าได้ฤกษ์แล้ว แต่ยังไม่บอกเพราะว่าถือเคล็ดหรือเปล่า
จุ๋ย "ใช่ๆ รอฤกษ์บอก มีฤกษ์บอกสื่อมวลชนด้วย อะไรแบบนี้"
พุฒ "ใช่ครับ เรื่องสู่ขอก็จะมีฤกษ์ด้วย เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั่นครับ"

Cr::: khaosod.co.th