‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์

“ความรัก” มีพลังอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะต้องไกลห่างกันสักขนาดไหน

ความรู้สึกของคำว่า “รัก” นี่แหละ ก็จะทำหน้าที่เหนี่ยวรั้งและผูกมัดใจ ของคนสองให้กลับมาอยู่ใกล้กันได้เสมอค่ะ

    เฉกเช่นความรักของคนดังคู่นี้ค่ะ “ฮาน่า -ทัศนาวลัย จักรพงษ์” กับสามี “คุณเล็ก” หรือ “ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์” ที่ ณ เวลานี้แม้ทั้งคู่จะอยู่ไกลกันคนละซีกโลก แต่เรื่องราวชีวิตคู่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติของความสุข... ความสุขที่ก่อเกิดมาจากความรัก ความเข้าใจ การเสีย สละ และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน จนพวกเราชาว “LIVE” ชื่นชม และก็ต้องหาโอกาสเก็บเอาความน่ารักและเรื่องราวชีวิตในรั้ววังจักรพงษ์อันร่มรื่นของ “ฮาน่า-ฮิวโก้” มาตีแผ่ให้คุณผู้อ่าน ได้ซึ้งไปกับความรักของพวกเขา รวมทั้งการเผยโฉม “น้องฮาเปอร์-ทัศนจักร จักรพงษ์​” ลูกชายวัย 5 เดือนเศษๆ ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนทั้งคู่ให้ได้เห็นกันชัดๆ เป็นครั้งแรกด้วยค่ะ 



เป็นยังไงบ้างคะการเป็นคุณแม่มือใหม่
    “เหนื่อยค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าเราเลี้ยงเองตั้งแต่ตอนคลอดน่ะค่ะ ก็เลี้ยงกับ ‘คุณเล็ก’ สองคน แล้วตอนแรกก็หวงลูกมากไม่อยากให้ใครจับ ใครอุ้มเลย เพราะว่าเค้าตัวเล็กมาก เราก็อยากจะทำเองทุกอย่าง เพิ่งจะมีช่วง 2-3 เดือนหลังนี่เองที่ให้พี่เลี้ยงอุ้มบ้าง แล้วก็ให้มานอนเป็นเพื่อนลูกตอนกลางคืนบ้าง” 

“พี่ฮาน่า” เองรู้สึกยังไงบ้างคะที่ตอนนี้เราได้เป็นแม่คนจริงๆ แล้ว
    “ตอนแรกก็คิดว่าทำไม่ได้นะ เพราะว่าเราไม่ได้คิดว่าการเป็นแม่มันยากเย็นขนาดนี้เลย ก็นึกว่าง่ายๆ ใครๆ ก็มีลูกกัน แต่พอมีแล้วมันยาก มากเพราะต้องทุ่มเทมากๆ แล้วก็เหนื่อยมากในช่วงเดือน 2 เดือนแรก เพราะว่าเราจะให้นมเอง แล้วลูกก็จะทานนมทุก 2-3 ชั่วโมง เราก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน แล้วหลังจากนั้นพี่มีปัญหาคือลูกพี่เป็นโคลิกน่ะค่ะ
    
โคลิกก็คืออาการร้องไห้โยเยในช่วงเวลาเดิมทุกวันๆ เด็กคนอื่นเค้าจะร้องกันประมาณ ทุก 6 โมงเย็น ร้องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง แต่ลูกพี่ร้องตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ร้องเยอะมาก คือร้องแล้วพอให้ทานนมก็จะหยุด แล้วก็อีกสักพักก็ร้อง เป็นแบบนี้ เหมือนท้องเค้าไม่สบาย เค้าเป็นอย่างนี้เกือบ 4 เดือนค่ะถึงจะหาย เราก็เหนื่อยมากเพราะว่าแบบต้องอุ้มเค้าตลอด เพราะหมอ บอกว่าเด็กที่เป็นโคลิกต้องให้ตัวเค้าอยู่ในระดับตรงๆ วางแล้วท้องเค้าไม่สบาย เค้าจะร้อง เราก็ต้องอุ้มเค้าตลอด ค่อยๆ เหวี่ยงให้เค้ารู้สึกว่าเออ...สบายท้อง  
    

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


แล้วเราก็ไปไหนไม่ได้เลย 2-3 เดือนแรก เพราะต้องอยู่กับเค้าตลอดเวลา แล้วลูกพี่ก็ไม่นอนกลางวันเลยนะ จะนอนครั้งละ 5 นาทีถึง 10 นาที นอนน้อยมากตอนกลางวัน แต่โชคดีที่เค้ายังนอนกลางคืน แต่ว่าตอนที่ ‘คุณเล็ก’ เค้าอยู่เมืองไทยเค้าก็ช่วยทุกอย่าง ตอนนอนดึกๆ ลูกพี่จะต้องตื่นมา เค้าก็จะอุ้มจากเตียงมาให้พี่ให้นม เราเองก็สงสารเค้าเหมือนกัน เพราะเค้าก็ไม่ได้นอนไปพร้อมๆ กับเรา พอลูกตื่นเค้าก็ตื่นด้วย แต่เค้าทำหน้าที่พ่อได้ดีมาก เรายังไม่คิดเลยว่า ‘คุณเล็ก’ เค้าจะเปลี่ยนผ้าอ้อมเป็น เช็ดอึน้อง อาบน้ำให้น้อง ทำให้หมดเลย เหมือนเค้ารู้ว่าเวลาที่เค้าอยู่กับลูกจะน้อย เค้ามีเวลาไม่เยอะมาก เพราะฉะนั้น 24 ชั่วโมงเค้าก็จะทุ่มเทให้ลูกหมดเลย เพื่อนเค้าก็จะไม่ได้เจอเลยเพราะว่าเค้าอยาก ใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด 
    
เค้าก็ช่วยเราเลี้ยงอยู่ประมาณ 2 เดือน แล้วก็บินกลับไปนิวยอร์ค แล้วก็ทุกเดือนเค้าจะหาเวลากลับมาเยี่ยมลูก สมมุติว่าห่างกันไปแต่พอจะครบเดือนเค้าก็จะบินกลับมา 4-5 วัน บางทีก็อาทิตย์หนึ่ง แต่พี่ก็สงสารเค้านะ เค้าอยู่นิวยอร์ค บินมาใช้เวลา 24 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ แล้วก็เวลา ที่นู่นกับที่นี่จะต่างกัน เช้าเป็นดึก ดึกเป็นเช้าไง เค้ามาเค้าก็ Jet Lag ยังไม่ทันหาย Jet Lag ก็ต้องบินกลับอีกแล้ว เค้าต้องไปทำงาน”
    
“พี่ฮาน่า” ก็ต้องเข้มแข็งมากๆ เพราะต้องดูแลลูกคนเดียว สามีก็อยู่ไกล    
    “คือเราพยายามที่จะดูตัวอย่างจากคนรอบข้างเรา ที่เค้าแบบแย่กว่าเรา แต่เค้าก็ยังดำเนินชีวิต ยังเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีได้ เราก็เลยคิดว่าเรา ยังโชคดีนะที่ยังมีสามี ถึงแม้จะไกลกันแต่เราก็ยังเจอ เล่น Skype, Face Time กัน ได้เห็นหน้ากัน แล้วเค้าก็ยังพยายามหาทางกลับมาหาครอบครัว คิดแบบนี้ก็เลยทำให้ไม่เครียดมาก ก็จะคอยซัพเฟอร์กับตัวเอง เพราะถ้าไปคิดถึงสิ่งที่รันทดก็จะยิ่งแย่ เพราะแค่เลี้ยงลูกเราก็เหนื่อยแล้วนะ เหนื่อยมาก บางทีก็แอบร้องไห้ ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้  ทำไมลูกเป็นแบบนี้ เมื่อไหร่ลูกจะหาย
    แต่มันก็มีโมเม้นท์หนึ่งที่แบบ โอ้ย! ถ้าพ่ออยู่ เราจะได้แชร์ความรู้สึกกัน ได้บอกเค้าว่าวันนี้มันเป็นแบบนี้ๆ อะไรประมาณนี้ แต่ก็ได้แต่โทร. หากัน บีบีบอกเค้า ส่งรูปให้เค้าดู คือบางช่วงเรา ก็อาจจะมีความรู้สึกหวั่นไหว เพราะเราก็เห็นเค้า ไปทำงาน แต่ตัว ‘คุณเล็ก’ เองเค้าก็ไม่อยากจาก ลูก เค้าบอกว่าการจากลูกมันแย่มากนะ ไม่รู้จะพูดยังไงเลยนะ การจากคนรักมันก็จะรู้สึกเศร้า แต่มันไม่เศร้าเท่ากับการจากลูก ก็เลยยิ่งสงสาร และก็ไม่อยากทำให้เค้าเครียดไปอีก” 

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


แล้วทุกวันนี้ “ฮาเปอร์” เป็นยังไงบ้าง
    “น้องเป็นเด็กแข็งแรงมาก เป็นเด็กพัฒนา การดีตั้งแต่ 2 เดือน คือเด็ก 2 เดือนปกติจะคอไม่แข็งนะ และก็ยังจับยังอะไรไม่ได้ แต่พอเราพาไปหาหมอ หมอบอกว่า อุ้ย! ทำไมน้องคอแข็ง แล้ว นี่มันเป็นพัฒนาการของเด็ก 4 เดือน 5 เดือน แล้วก็หมอบอกว่าต้องให้เค้าออกกำลังกายแบบนี้ แล้วก็จับขายืดขาให้ดู แต่พอหมอจับขา เค้าถีบมือหมอเลย หมอก็โอ้โห...กล้ามเนื้อเค้าแข็งแรงมาก เราก็ยิ่งดีใจ หมอบอกมาแบบนี้เราก็ยิ่งรู้สึกดี เพราะว่าหนึ่งนะเราเป็นคนเลี้ยงลูกเอง หลายๆ คนบอกฮาน่ามาว่าเราเลี้ยงลูกกับพี่เลี้ยงเลี้ยงลูก มันไม่เหมือนกัน พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกเองจะทำให้ลูกมีพัฒนาการมากกว่าให้พี่เลี้ยงเลี้ยง เพราะเหมือนเราใส่ใจเค้า พี่เลี้ยงอาจจะไม่ใส่ใจเค้ามากเท่าเรา 
  
  เราเองเราก็ต้องศึกษาอะไรเยอะในการที่จะทำให้ลูกมีพัฒนาที่ดีได้ ฉลาด หรือแข็งแรงได้ เราต้อง ใส่ใจมากๆ เราต้องรู้ว่าตอนนี้ช่วงเดือนนี้เราต้องกายบริหารเค้ายังไง เราต้องนวดให้เค้าไหม เราต้องอ่านหนังสือให้เค้าฟัง หรือต้องหาเพลงอะไร ให้เค้าฟัง มันละเอียดอ่อนมากเลยค่ะ 
   
 และเราก็ต้องใส่ใจด้วยว่าอายุเดือนนี้เค้าจะต้องทำอะไรได้บ้าง อย่าง ‘ฮาเปอร์’ 5 เดือน เค้าต้องพลิกคว่ำพลิกหงาย และก็ต้องพูดได้บ้าง ต้องมอง ต้องรู้จักชื่อตัวเอง เราก็ต้องพยายามเรียกชื่อเค้าให้เค้ารู้ว่าเค้าชื่อนี้นะ และก็ทดสอบประสาทสัมผัสเค้า คือเรียกชื่อเค้าให้เค้าหันมองเราน่ะว่าหูเค้าได้ยินทั้งสองข้างไหม เราก็เล่านิทานให้เค้าฟัง เพราะจริงๆ แล้วเค้าบอกว่าเด็ก สามารถเรียนรู้ทุกอย่างได้ตั้งแต่แรกเกิดเลย และที่สำคัญที่สุดสมองเด็กเค้าจะพัฒนาตั้งแต่แรก เกิดจนถึง 3 ขวบ ถ้าพ่อแม่ใส่ใจเค้าแล้วป้อนสิ่งที่ดีๆ ให้เค้า พัฒนาการเค้าจะดีมาก และเราก็ต้องให้เค้ารู้จักเวลา พ่อแม่บางคนเค้าจะแบบโอ้ย! ยังเด็กตอนนี้เค้ายังไม่รู้เรื่องอะไรหรอก รอให้เข้าอนุบาลแล้วค่อยสอนเค้า มันไม่ทันแล้ว เพราะตอนนั้นเค้าจะเป็นตัวของตัวเองแล้วไง จะเริ่มดื้อ ต้านเรา ไม่ฟังเรา  
  
  พี่ฮาน่าก็จะฝึกเค้าทุกวันเลยว่าเค้าจะต้องอาบน้ำตอนนี้นะ พออาบน้ำเสร็จก็จะเป็นสัญญาณให้รู้เลยว่าเดี๋ยวต่อไปเค้าต้องกินนม แล้วก็เข้านอน ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนน่ะ คุณแม่ทุกคนคลอดลูกแล้วเค้าจะให้หยุดเป็นเวลา 3 เดือน ถ้าภายในเวลา 3 เดือนแรกพยายามให้นมแม่ให้ได้มันจะดีที่สุดเลย และพี่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะพยายามให้นมลูกทานให้นานที่สุดเท่าที่จะทำ ได้ค่ะ ก็ต้องรอดูว่าจะทำได้ไหม”

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


 ฝ่ายคุณพ่อให้กำลังใจคุณแม่บ้างรึเปล่า
    “ก็ให้กำลังใจตลอดนะคะ เค้าก็จะคอย อุ๊ย... ซูเปอร์มัม ฮาน่าเป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลก (หัวเราะ) คือเค้าก็จะพยายามชมเราตลอด และก็จะชอบบอกที่ ‘ฮาเปอร์’ เป็นแบบนี้เพราะมีแม่ที่ดี เค้าก็ จะพยายามให้กำลังใจมากๆ เพราะเค้าก็รู้ว่าเราไกลกันด้วย แล้วพี่ต้องเลี้ยงลูกลำพัง บางทีเค้าอยู่ เค้าเห็นเค้าก็สงสารเรา ก็จะฮาน่าไม่ต้องให้นมลูกแล้วก็ได้นะ เหมือนแบบหลายๆ คนเค้าก็ให้กันถึง 3 เดือนเอง นี่ให้มาตั้งเท่าไหร่แล้ว คือเค้าเห็นเรานอนๆ อยู่เดี๋ยวก็ลุกขึ้นมาปั๊มนม แต่ถ้าอยากทำ ผมก็ให้กำลังใจนะ
    แต่ที่สำคัญนะคะต่อให้คุณแม่จะเป็นยังไง อะไรก็ตามแต่ แต่อย่าอารมณ์ไม่ดีกับลูก บางทีเราเหนื่อย เครียด โมโห ไม่สบาย นอนไม่พอ อาจจะแบบมีอารมณ์หงุดหงิด ลูกเค้ารับรู้อารมณ์เราทุกอย่างน่ะ ถ้าเราหงุดหงิดอารมณ์ไม่ดีเค้าก็จะเป็นอย่างนั้นไปด้วย เพราะฉะนั้นถึงจะเหนื่อย แค่ไหนก็จะต้องดี๊ด๊ากับลูก อารมณ์ดีลั้ลลากับลูกมากที่สุด ‘ฮาเปอร์’ เลยกลายเป็นเด็กอารมณ์ ดีมาก...” (ลากเสียงยาว)

 ภูมิใจไหมคะ เพิ่งจะเป็นคุณแม่มือใหม่ แต่ก็เลี้ยงน้องออกมาได้แข็งแรงดีขนาดนี้
     “ภูมิใจค่ะ ตอนแรกพี่ฮาน่าไม่คิดอยากจะมีลูกเลย แต่ที่มีก็เพราะอยากรู้ว่าหน้าตาจะเป็นยังไง ฮาน่าบวก ‘ฮิวโก้’ ลูกออกมาหน้าตาจะเป็น แบบไหนนะ แต่พอมีแล้วเรากลับรู้สึกโหย...พอมีแล้วมันเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดเลยที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีได้ เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราไม่มีตอนนี้เราคงรู้สึกเสียใจเสียดายในชีวิต เพราะเรา 30 แล้ว (หัวเราะ) เราจะไปมีลูกตอนอายุเลย 34-35 มันก็อันตรายสำหรับผู้หญิงด้วยเพราะว่ามันต้องเช็คเยอะ ต้องเจาะน้ำคร่ำเพื่อดูว่าลูกเป็นดาวน์
ซินโดรมไหม และการที่ลูกออกมาครบ 32 เราก็ถือว่านี่เป็นของขวัญจากพระเจ้าแล้วว่าลูกเราครบถ้วนไม่มีปัญหาอะไร” 
    

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


หลายคนบอกว่าการมีลูกมันช่วยเติมเต็มชีวิตคู่ให้สมบรูณ์มากขึ้น เห็นด้วยไหม
    “เห็นด้วยนะ เพราะมันทำให้ชีวิตมันมีครบ ได้ทุกรสชาติ มีลูกมันก็เป็นอีกรสชาติหนึ่ง ที่จะทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำเพื่อใคร ทั้งฮาน่าและ ‘คุณเล็ก’ เพราะเมื่อก่อนรู้ว่ามีกันสองคนเราก็ทำงานกันไป เราอยากทำก็ทำ ไม่อยากทำเราก็ไม่ทำ เราไม่ได้แคร์อะไรมากมาย แต่ตอนนี้เรารู้แล้วล่ะว่าเราต้องทำอะไรไปเพื่อใคร เราต้องอยู่เพื่อใคร เมื่อก่อนพี่ขับรถเร็วมากๆๆ แต่ตอนนี้พี่รู้เลยว่าพี่จะต้องห้ามเจ็บ ห้ามตาย ห้ามป่วย ไม่อย่างนั้นแล้วใครจะเลี้ยงลูก ก็จะขับรถช้าแล้วก็แบบอุ๊ย! ใครจะแซงก็แซงไปเลย ใจเราเย็นๆ เมื่อก่อนจะใจร้อน ขี้หงุดหงิด  
   
 อย่างตอนแรกๆ ลูกร้องพี่จะประสาทเสีย ลูกร้องอีกแล้วทำยังไง แต่ตอนนี้นิ่งมากจนเพื่อนยังทักฮาน่าเธอใจเย็นขึ้นมาก ใช่ตอนนี้ฉันไม่สะทกสะท้านแล้ว พอลูกร้องๆๆ เราก็ไม่อยากจะทำตัวเองให้เครียดหรืออารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวลูกจะอารมณ์ไม่ดีด้วย ก็เลยต้องทำให้เค้าใจเย็น เพราะลูกพี่เองก็เป็นคนใจร้อนแบบว่าเค้าจะเอาอะไรเค้าต้องได้ อย่างเวลาเค้าหิวเค้าก็ต้องเอานมกินให้ได้ เด็กล่ะนะเค้าก็ยังไม่มีความอดทน เราก็ช่วยเค้าปรับ เปิดเพลงเบาๆ เพลงโมสาร์ทให้เค้าฟังเพื่อสร้างไอคิวและก็ทำให้เค้าใจเย็นลงด้วย และเราก็ต้องหาเทคนิคเยอะแยะเลยว่าจะต้องทำอะไรยังไงบ้าง เหนื่อยนะเพราะว่าชีวิตอยู่กับลูกเราต้องทุ่มเทให้เค้า ตอนนี้พี่ฮาน่าก็ทำงานน้อยลงเยอะมาก จากที่เคยบ้างาน อยากจะทำงานทุกอย่างที่ทำได้ แต่ตอนนี้เหลืออยู่อย่างเดียวคือรายการ ‘วันไนท์โอนลี่’ ค่ะ นอกนั้นก็เลิกทำหมดเลย ไม่ได้ไปไหนเพราะไปก็จะคิดถึงลูก
    

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


ขนาดนอนพี่แยกห้องนอนกับน้อง คือบางคนก็ไม่ยอมแยกห้องนอนกับลูก ให้ลูกนอนกับเราด้วย ตอนแรกพี่ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน  ‘คุณเล็ก’ บอกว่าไม่ได้ฮาน่า เราจะต้องฝึกเค้าตั้ง แต่ตอนนี้เลย คือ 3 เดือนแรกเราก็นอนด้วยกัน เพราะว่าฮาน่าให้เค้ากินนมจากฮาน่าตลอด 24 ชั่วโมง จนคุณหมอบอกว่าพอหลังเดือนที่ 2 แล้วให้เค้ากินนมขวดได้บ้างนะ ก็เลยเริ่มให้ไว้บ้าง แล้วตอนกลางคืนก็แยกกันนอนคนละห้อง ก็ยังเอารูปเค้ามาดูเลย อุ๊ย! คิดถึงเค้าขนาดแค่เค้านอนหลับนะ อยากจะรีบๆ ตื่นเพื่อที่จะได้ไปเจอหน้าลูก บ้ามาก จนเพื่อนบอกว่าฮาน่าตอนนี้ลูกก็หลายเดือนแล้ว ออกมาดูหนังบ้าง มาทานข้าวกับเพื่อนบ้าง คุณย่าคือ ‘แม่คุณเล็ก’ น่ะค่ะ ท่านก็บอกว่าไม่ได้นะลูก ลูกต้องให้ความสุขตัวเอง ให้ชีวิตอันเดิมของเรากลับมาด้วย ไม่ใช่มีลูกแล้วเราจะลืมความสุขตัวเองไป”
    
แล้วในมุมชีวิตคู่ระหว่างสามี-ภรรยาล่ะ
    “ชีวิตคู่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และก็รู้สึกว่ามีความมั่นคงทางด้านจิตใจและอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น ด้วยการที่มีลูกนี่แหละมันเหมือนกับเป็นการผูกมัดให้เรามีความเป็นครอบครัวมากขึ้น เมื่อก่อนเราก็รู้ว่าเราอยู่กันสองคน เรามีกันสองคน เรารักกัน เราทำอะไรให้กัน แต่พอมีลูกเรารู้ว่าเราต้องรักกันมากขึ้น เราต้องใส่ใจกันมากขึ้น
    แต่บางทีพี่ก็เป็นเหมือนกัน ตอนแรกๆ ที่มีลูกพี่ไม่ใส่ใจ ‘คุณเล็ก’ เลย จะอะไรก็ลูกอย่างเดียว บางทีหงุดหงิดใส่ลูกไม่ได้ก็จะมาหงุดหงิดใส่คุณพ่อแทน เพราะมันเหนื่อยไม่รู้จะไปฟาดงวงฟาดงาใส่ใครก็ไปลงกับพ่อ คนอื่นก็จะทักไม่ได้นะ บางคนเลิกกันก็เพราะว่ามีลูกนะ จากเพื่อนๆ พี่ก็มีประสบการณ์มาหลายคนที่พอมีลูก ก็รักลูกจนลืมสามี สามีก็แบบว่าน้อยใจนี่นั่น หรือบางทีก็โอ๋ลูกมากเกินไป คิดว่ามีลูกรักลูกแล้วไม่ต้องมีสามีก็ได้ หรือบางอย่างก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องลูกนี่แหละ ความคิดเห็นไม่ตรงกัน เราก็ต้องมานั่งค่อยๆ ปรับกัน เธอคิดอย่างนี้ ฉันคิด อย่างนี้แล้วมันถูกไหม อ้าว! ลองทำแบบเธอซิ มันโอ.เค.ไหม แบบเธอไม่โอ.เค.ก็ต้องทำแบบฉันนะ คือเลี้ยงลูกเราต้องทำให้ดีที่สุด การใช้ชีวิต คู่ของเราก็ต้องดำเนินต่อไปอย่างดีด้วย” 
    

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าพี่ทั้งสองคนจะมาแต่งงานกันได้  
    “ใช่ เพราะเราคบกันมาแบบเงียบๆ ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน จริงๆ เราคบกันมา 4 ปีกว่าแล้ว แต่เพิ่งจะมามีข่าวตอนหลังๆ เพราะเราไปงานแต่งงานเพื่อนด้วยกัน จริงๆ การอยู่ใน วงการมันก็มีทั้งข่าว ทั้งอะไรเยอะแยะ การที่ให้คนอื่นรู้มากเดี๋ยวมันก็จะมีกระแสนู้นกระแสนี้มารบกวนจิตใจทั้งเราทั้งเค้า และมันก็อาจจะทำให้เราเสียความรู้สึกไปบ้าง บางทีเราก็ไม่อยากฟัง ไม่อยากรู้ หรือไม่อยากเป็นข่าว ก็เลยคิดว่าเราก็ไม่ต้องเป็นข่าวได้นี่ ไม่ต้องมีใครมารู้เยอะ เราก็คบกันสองคน เราก็ตัดสินใจด้วยตัวเรา เอง แล้วเราก็ไม่ได้คบกันเพื่อสร้างกระแสหรือต้องการออกงานอีเว้นท์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องไปแคร์ใครเลย เราก็อยู่กันไปสองคน อยู่กันแบบเงียบๆ ซึ่งพี่ว่ามันก็ดีนะ หลายๆ คนที่อยู่ ในกระแสอยู่ในข่าว หลายๆ คู่สุดท้ายแล้วก็ต้องเลิกรากันไป พี่ฮาน่าก็คิดแต่ว่าถ้าจะมีข่าวกันก็คือข่าวที่ว่าเราจะแต่งงานกันแค่นั้นจบ” 
    
แต่ดูเหมือนคนละสไตล์กันเลย มีอะไรที่เหมือนหรือต่างกันบ้างไหมคะ
    “จริงๆ แล้วนิสัยเราคล้ายกันหลายอย่างมาก ชอบทานอาหารเหมือนกัน ชอบดูหนังสไตล์เดียวกัน ความคิดอะไรหลายๆ อย่างใกล้เคียงกัน แต่ก็มีหลายๆ อย่างที่ต่างกัน ซึ่งพี่ว่ามันก็ดีเพราะสิ่งที่ต่างของเค้ากับเรามันทำให้เหมือนเค้าให้ความรู้เรา เราให้ความรู้เค้าในสิ่งที่เราไม่ได้เป็น แล้วหลายๆ อย่างที่เราเหมือนกันมันก็ช่วยทำให้เราเข้ากันได้” 
  

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


  “พี่ฮิวโก้” ใครๆ ก็จะบอกว่าเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก จริงรึเปล่า
    “จริงๆ แล้ว ‘คุณเล็ก’ มีนิสัยที่มีโลกส่วนตัวสูงแต่ไม่ใช่กับคนรักเค้า คนรักคือคนที่อยู่ในโลกของเค้า ซึ่งเค้าบอกกับเราแบบนี้ พอได้ยินอย่างนี้เราก็สบายใจว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในโลกของเค้า เราอยู่ในนั้น เค้าพูดเลยว่าเค้าจะไม่แคร์ คนอื่น เค้าแคร์เฉพาะคนที่เค้ารักเท่านั้น มีเรา มีลูก มีแม่เค้า มีแม่เรา ซึ่งพอคำว่ามีแม่เราปุ๊บ เราดีใจมากเลย เพราะว่าการที่เราได้เป็นแม่คน เรารู้สึกแฮปปี้มาก แล้วการที่เค้าเอาแม่เราไปในความรักของเค้าด้วย มันเป็นการให้เกียรติเรา ยิ่งทำให้เรารู้สึกดีเพราะเรารักแม่เรามากๆ
    จริงๆ ถ้าแม่เราไม่เอาเค้า เราก็คงไม่ได้แต่งงาน ถ้าแม่ไม่ยอมรับ ‘คุณเล็ก’ และถ้า ‘คุณเล็ก’ ไม่ยอมเปลี่ยนมาเข้าศาสนาอิสลาม แม่เราก็คงไม่ให้เราแต่งงาน เราก็คงจะไม่แต่งเพราะ เราก็รักแม่เรา อะไรที่ทำให้แม่เราไม่มีความสุข  เราก็คงไม่ทำอยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกดีเพราะว่าเค้าน่ะมีโลกส่วนตัวที่สูงมากๆ เราไม่ต้องยุ่มย่ามกับโลกส่วนตัวเค้า เค้าก็ไม่ยุ่มย่ามในโลกส่วนตัวเรา เพราะพี่ฮาน่าก็มีโลกส่วนตัวของพี่ฮาน่าเหมือนกัน มันก็เลยคล้ายๆ กัน คือเรารู้ว่าเราจะอยู่ด้วย กันแบบไหน”

จริงๆ พี่ทั้งสองคนไปรักกันตอนไหน
    “เรารู้จักกันก่อนหน้าที่จะมาคบกัน 8 ปี เราเคยเล่นหนังเรื่องเดียวกัน คือ ‘คุณเล็ก’ เค้าเล่นหนังเรื่อง ‘999 ต่อติดตาย’ แล้วฮาน่าพอดีมีเพื่อนที่ทำหนัง เพื่อนก็ให้ไปรับเชิญไปเล่นหนังเรื่องนั้น ก็เลยได้เจอกันในกอง หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอเค้ามาอีกประมาณ 8 ปี แล้วก็มาเจอในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เป็นงานเลี้ยงตอนนั้นมีประกวดมิสยูนิเวิร์สที่เมืองไทย ก็มีการเลี้ยงขอบคุณ แล้วฮาน่าไปในงานนั้น ‘คุณเล็ก’ ก็ไปในงานนั้นก็เลยได้เจอกัน เจอกันก็คุยกันตามประสาเพื่อน เพราะเราก็ไปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ พอเจอกันในวันนั้นเค้าก็เลยขอเบอร์ฮาน่าไว้แบบไปแฮงค์เอาท์กัน ไปกินข้าวด้วยกัน เราก็ได้ไม่มีปัญหา เพราะเราก็มี ‘พี่โก้-ธีรศักดิ์’ มีใครต่อใคร เพื่อนๆ ที่เฟรนด์ลี่อยู่แล้ว ก็เลยเมสเสจคุยกันประมาณเกือบเดือนถึงจะโทรศัพท์คุยกัน ซึ่งตอนนั้นเราก็เคยได้ยินว่าเค้าเป็นศิลปิน อารมณ์แปรปรวน พวกนี้จะเข้าถึงยาก มีโลกส่วนตัวสูงอะไรทำนองนี้ ก็กลัวว่าจะคุยภาษาเดียวกันรึเปล่า (หัวเราะ)  
    

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


แต่ดูจากเมสเสจแล้วมันไม่ใช่เลยนะ เค้าเป็นคนน่ารักมาก เค้าเป็นคนมีอารมณ์ขัน เฟรนด์ลี่มาก ผิดกับที่เรามองภาพเค้าไว้เลยนะ  พอเห็นเมสเสจเราก็รู้ว่าเค้าอยากคุยกับเรา  และเค้าก็มีความพยายามมากเมสเสจมาทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่เมสเสจมาเลย และก็เมสเสจมาหลายครั้ง มาถามว่าเราทำอะไร จนเราก็เลยนัดเจอกินข้าวกัน พอมากินข้าวกันเราก็ยังคุยเป็นเพื่อนกันเลยว่า เออ..ไม่เป็นไร เพราะตอนนั้นเค้ากำลังรู้สึกแย่กับชีวิต เรื่องวงของเค้าหลายๆ อย่าง ก็ให้คำปรึกษาและก็คุยกันนับตั้งแต่นั้นมาค่ะ” 
   
 ผู้ชายคนนี้โรแมนติกไหมคะ
    “ก็จะโรแมนติกตามเทศกาลน่ะ เหมือนกับเราอย่าไปคาดหวังว่าเราจะต้องไปเอาอะไรจากเค้า แต่อยู่ดีๆ เค้าก็จะทำให้เราเองโดยที่เราแบบ คิดไม่ถึง จะเป็นประมาณนั้นมากกว่า แต่จริงๆ ฮาน่าก็ไม่ได้เป็นคนซีเรียสเรื่องอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่พอเค้าทำให้ก็ดีใจ ปลื้มใจที่เค้าคิดได้น่ะ คือแบบเราอยู่ไกลๆ กันเค้าก็จะแบบทำอะไรให้ ส่งรูปหรือทำอะไรที่แบบให้รู้สึกว่าเค้ายังไม่ลืมนะ ทุกวันสำคัญเค้าก็จะทำให้เรารู้สึกดีๆ แบบนี้ค่ะ”⁠ 

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


     ห่างกันแบบนี้ บอกรักกันบ่อยไหม
    “คือเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าเราสองคนเป็นยังไง รักกันอยู่แล้ว แต่ว่าก็จะมีบอกรักกันนะคะ ถามว่าเกือบทุกวันไหม ก็น่าจะถ้าพี่ไม่ลืม (หัวเราะ) ก็มีบ้างที่บางวันเลี้ยงลูกเหนื่อยก็จะไม่ได้โทร.หาเค้า แต่เค้าจะโทร.มาตลอด ‘คุณเล็ก’ เค้าดีมาก ตั้งแต่เราคบกันจนถึงตอนนี้น่าจะ 7 ปีแล้ว เค้าทำเหมือนเดิมทุกอย่าง แม้จะไกลกัน ตื่นเช้ามาเค้าจะโทร.หาเรา และก่อนเข้านอนเค้าก็จะต้องโทร.มาหาเราต่อให้เวลาจะต่างกันแค่ไหน และเค้าก็ไม่ลืมที่จะบอกรักเราทุกวัน
    และที่สำคัญเราไว้ใจกัน จริงๆ อยู่ไกลกัน ถ้ามันจะทำให้ความสัมพันธ์เราสะเทือน มันต้องเกิดจากความระแวง แต่พี่ไม่มีความรู้สึกนั้นเลย ทั้งที่ไกลกันมากอยู่นิวยอร์คกับเมืองไทย นิวยอร์คมีแต่คนสวยๆ มีแต่นางแบบ แล้วเค้าอยู่ในวงการแบบนั้นแล้วเค้าต้องเจอ แต่พี่ฮาน่าไม่คิดอย่างนั้นนะ ถ้าเค้ารักเรา เค้าก็รักเรา ถ้าวันหนึ่งเค้าจะไม่รักเรา ต่อให้อยู่ด้วยกัน นอนเตียงเดียวกัน อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง เค้าก็ไม่รักเราได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ไว้ใจเค้าก็ถือว่าเราไม่ให้เกียรติเค้า ถ้าคิดมาก ระแวงมาก เราเองนั่นแหละที่จะเป็นทุกข์ที่สุด
    แล้วเราก็จะไปทำให้เค้าปวดหัวอีกในสิ่งที่ไปจับผิดอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งๆ บางทีเค้ายังไม่ได้ทำเลย ผู้หญิงจะเป็น บางคนที่เราเห็นรักกันมาเป็นสิบปียี่สิบปี อยู่ดีๆ เลิกกันก็มี แต่บางคนบางคู่อยู่ไกลกัน กว่าจะได้เจอกันแต่ละที แต่เค้าก็ยังรักกันอยู่ด้วยกันจนแก่จนเฒ่า ทุกอย่างมันไม่มีความแน่นอน เราต้องคิดว่ามีค่าพอเท่านั้น เค้าเองเค้าก็ต้องคิดว่าเค้าก็มีค่าพอที่จะทำให้เรา ซื่อสัตย์ และเราก็เชื่อใจเค้าได้อย่างนี้ค่ะ”
   

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


 ถามจริงๆ ทำไมพี่ถึงยอมให้ “พี่ฮิวโก้” ไปทำงานไกลๆ แบบนั้นด้วย ทั้งทีก็เพิ่งจะแต่งงานและก็เพิ่งจะมีลูกกัน
    “ก็คิดอยู่ว่าการแต่งงานมันเป็นข้อผูกมัดทางจิตใจ แต่เราต่างไม่ใช่เจ้าชีวิตของกันและกัน พี่ก็ไม่ใช่เจ้าชีวิต ‘คุณเล็ก’ และ ‘คุณเล็ก’ ไม่ได้เป็น เจ้าชีวิตของพี่ ถ้าเราไปบังคับหรือห้ามไม่ให้เค้าไป ทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ แล้ววันหนึ่งเค้าต้องมานั่งเสียใจที่ไม่ได้ทำในสิ่งๆ นั้น หรือว่าเค้ามาห้ามไม่ให้เราทำในสิ่งที่เราอยากทำมากเลย เราก็จะรู้สึกเหมือนถูกบังคับ แล้วสักวันหนึ่งโอกาสนั้นมันหายไปแล้ว แล้วเรียกมันกลับคืนมาไม่ได้ พี่ก็จะโกรธเค้ามากเลยว่าทำไมทำให้ฉันเสียโอกาส เพราะฉะนั้นเราก็จะไม่เป็นอย่างนั้นกับเค้า และโอกาสมันก็ไม่ได้มีมามากนัก และเราจะพูดกันเสมอว่าไม่เป็นไรหรอก เราห่างกันแค่นี้ เดี๋ยวเราก็ต้องอยู่ด้วยกันไปจนจะตายจากกันอยู่แล้ว แค่ห่างกันแค่เวลาเท่านี้ เราต้องทำให้ได้” 
    
พอแต่งงาน “พี่ฮาน่า” ก็ต้องเข้าไปอยู่ใน วัง ชีวิตของเรามันเปลี่ยนไปจากเดิมมากไหม
    “ตอนที่เราแต่งงานเราก็ใช้ชีวิตของเรา เราอยู่คอนโดฯ ด้วยซ้ำนะ (หัวเราะ) เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในวังตอนที่มี ‘ฮาเปอร์’ เพราะว่าคุณย่าขอ คือ ‘หม่อมราชวงศ์หญิงนริศรา’ แม่ของ ‘คุณเล็ก’ น่ะ เหมือนท่านอยากจะให้ใช้พี่เลี้ยงที่เคยเลี้ยง ‘คุณเล็ก’ มาตั้งแต่เด็กๆ มาช่วยเลี้ยง เราเองก็มีคนมาช่วยดูแล ท่านเองก็จะรู้สึกสบายใจมากกว่าที่มาอยู่ที่นี่ แล้วก็จริงๆ ทำทุกอย่างเหมือนเดิมเลย พี่ฮาน่าก็เป็นเหมือนเดิม บางทียังคิดถึงยังอยาก กลับไปอยู่บ้านของตัวเองเลย (หัวเราะ)  
    แต่พี่ฮาน่าก็รู้สึกดีมากๆ นะที่ท่านเอ็นดูเรา และก็อยากให้เราสบาย มีคนคอยดูแล คอยช่วยเหลือทุกอย่าง แต่อีกใจหนึ่งก็อยากอยู่เป็นส่วนตัวของเรา พี่ฮาน่ากับ ‘คุณเล็ก’ เหมือนกัน ก็คือชอบความเป็นส่วนตัวมากๆ ไม่ชอบคนเยอะๆ ชอบอยู่กันสองคน แต่ก็คงทำไม่ได้เพราะเป็นสะใภ้ ต้องทำในสิ่งที่คุณแม่สามีอยากให้ทำ ‘คุณเล็ก’ เค้าก็สบายใจ เค้าก็อยากให้อยู่ที่นี่เพราะว่าเค้าก็เห็นว่ามีหลายๆ คนคอยดูแลพี่ แล้วพี่ก็จะได้ไม่เหงา แต่แม่พี่ก็มาช่วย มาอยู่ด้วยตลอดในช่วงที่ ‘คุณเล็ก’ ไม่อยู่” 

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์


     พอมาเป็นสะใภ้จ้าวแล้วเราต้องปรับต้องเปลี่ยนตัวเองไปด้วยไหม
    “ไม่เลย เพราะพี่ฮาน่าก็เป็นตัวพี่ฮาน่ามาแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มคบกับ ‘คุณเล็ก’ แล้ว แล้ว ‘คุณแม่คุณเล็ก’ ก็เห็นพี่ฮาน่าเป็นแบบนี้ พี่ฮาน่า ก็เลยไม่เคยต้องทำตัวเรียบร้อย ไม่ต้องประดิดประดอยหรือว่าทำอะไรในสิ่งที่เราไม่ได้เป็นน่ะ ธรรมชาติของเราเป็นยังไงเราก็เป็นแบบนั้น ตั้งแต่วันที่คบกันจนถึงวันนี้ เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ต้องเสแสร้งหรือว่าทำอะไรเลย เราเป็นแบบที่เรา เป็น เราชอบทานอะไร ทำตัวยังไง เราเหมือนเดิม ตลอด
    แล้วท่านก็เอ็นดูในสิ่งที่เราเป็น และท่านก็ชอบด้วยที่เราเป็นคนตรงๆ ท่านก็ยังบอกว่าหาได้น้อยคนนะผู้หญิงไทยที่ทำอะไรตรงๆ พูดตรงๆ ไม่เสแสร้ง ชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ และก็กล้าพูด กล้าทำ ท่านบอกว่าชอบ ผู้หญิงคนนี้ใจถึงดี ใจเด็ด” (หัวเราะ) 

แล้วเวลาอยู่ในวังจำเป็นต้องใช้คำราชาศัพท์ไหมคะ
    “ไม่ต้องเลยค่ะ เรียก ‘คุณแม่’ ท่านยังบอกให้เรียกแม่เหมือน ‘คุณเล็ก’ เรียกเลย แม่ก็จะบอกว่าเรียกแม่เถอะลูก คือคุณแม่เค้าเป็นคนสมัยใหม่มาก และก็เป็นคนที่แบบไม่ถือตัว เป็นคนเฟรนด์ลี่มากๆ ค่ะ เราก็สบายใจ เพราะพี่ฮาน่าถือว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาเป็นสะใภ้ของตระกูลนี้เพราะว่า ท่านเอ็นดูเรามากๆๆๆ เหมือน กับเราเป็นลูกสาวท่านเลย ท่านรักเรา มาก ทำอะไรให้เราสบายใจ เรายังคิดเลยว่าทำไมแม่ถึงดีกับเราขนาดนี้ เพราะหลายๆ คนแต่งงานไปก็มีปัญหาเรื่องแม่สามีกับลูกสะใภ้อะไรแบบนี้ แต่เราไม่มีปัญหาอะไรแบบนั้นเลย” 

ตอนนี้ “พี่ฮาน่า” ก็ช่วยท่านทำธุรกิจด้วย
    “ใช่ค่ะ ชื่อ ‘จักรพงษ์วิลล่า’ เป็นบูติกโฮเทล สามารถมาพักได้ สามารถมานั่งทานข้าวกันในบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลองโทรเข้ามาจองหรือเข้าไปในเว็บไซต์ดู และก็ลองเข้ามาได้ ใครๆ หลายคนที่อยากจะเข้ามาลองสัมผัสว่าวังจักรพงษ์เป็นยังไง สามารถเข้ามาได้เลยเพราะก็เปิดให้คนจองมาทานอาหารค่ำหรืออาหารกลางวัน ส่วนวิลล่าก็อาจจะเป็นในช่วงเวลาพิเศษ วาเลนไทน์ หรือวันครบรอบแต่งงานก็สามารถมาพักที่นี่ได้ ฮาน่าก็เหมือนกับพอมาอยู่แล้วก็มาทำหน้าที่เป็นพีอาร์ไปในตัวด้วยค่ะ”

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์

 “พี่ฮาน่า” ให้คำนิยามกับความรักยังไง
    “เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นสิ่งที่มีค่าในชีวิต ถ้าเรามีความรักที่ดีเราควรจะรักษามันไว้ให้นาน ที่สุด อะไรที่เสียสละได้เราก็ควรเสียสละเพื่อคนที่เรารัก แต่อย่าทำซะจนเราสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป และเมื่อเรามีความรักให้แก่กัน มันก็ไม่ได้แปลว่า เราเป็นเจ้าชีวิตเค้า หรือเค้าเป็นเจ้าชีวิต เรา แต่ความรักเราต้องซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน ต้องไว้ใจ การให้เกียรติกันเป็น สิ่งสำคัญที่สุด”

สุดท้ายแล้วอยากจะฝากบอกอะไรกับคนที่ติดตามข่าวคราวครอบครัวพี่บ้างคะ
    “ก็ฝากเรื่องอัลบั้มของสามีแล้วกันค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่เค้าทุ่มเทที่สุด เค้ายอมจากลูกเค้า จากครอบครัวเค้าเพื่อทำตามฝันและสิ่งที่เค้ารักมากที่สุด เค้าทุ่มเทมาก เค้าทำงานนี้มาก่อนที่เราจะแต่งงานกัน เค้าทุ่มเทกับมันมา 5 ปีเต็มๆ ซึ่งเราก็คอยให้กำลังใจ คอยซัพพอร์ตเค้าในทุกๆ ทาง ยอมทุกอย่าง และตอนนี้เค้าก็ทำสำเร็จแล้ว อัลบั้มเค้าเพิ่งจะวางแผงที่อเมริกาไปวันที่ 10 พ.ค. ที่เมืองไทยอัลบั้มก็ออกแล้ว ยังไงก็ขอให้ใครที่ชื่นชอบในผลงานของ ‘ฮิวโก้’ ก็อยากให้ช่วยสนับสนุนคนไทย ให้กำลังใจคนไทยด้วยกันค่ะ” 
   
 ไม่มีความสุขไหนจะทำให้หัวใจอิ่มเอมได้เท่ากับการมีความรัก...เราเห็นด้วยกับ “คุณฮาน่า”⁠ ค่ะ ว่าถ้าหากเรามีความรักดีๆ อยู่ ก็จงทะนุถนอมความรักนั้นให้เบ่งบานอยู่ ในหัวใจเราตราบนานเท่านาน

‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์

ขอบคุณข่าวจาก



‘ทัศนาวลัย จักรพงษ์’ เผยชีวิตรักในรั้ววังจักรพงษ์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์