ไส้แห้ง!!! ฉลอง สูญ งบ 10 ล้าน “ทิวลิปทอง” โต้แตกคอเมียหนีไปเปิดบริษัทใหม่

"ฉลอง ภักดีวิจิตร" ยกบริษัทอินทรีย์ฯ ให้เมีย ออกมาเปิดบริษัทใหม่สบายใจ เผยไร้ปัญหาแค่ไม่อยากมีหุ้นส่วน ไม่ชอบความยุ่งยาก รับเงินลงทุนละคร "ทิวลิปทอง" 10 ล้านหมดแล้ว เสมอตัว ไม่เหลือใช้ ได้ความภูมิใจแต่ไส้แห้ง โวต่อไปจะไม่ระเบิดกระท่อม แต่จะหันมาระเบิดเฮลิคอปเตอร์

หลังจากเปิดกล้องละครฟอร์มยักษ์ "ทิวลิปทอง" ที่นอกจากจะระเบิดภูเขา เผากระท่อม เฮลิคอปเตอร์บินว่อนทั่วทุ่งทิวลิปภายใต้การผลิตของ บริษัท อินทรีย์ ออดิโอ วิชั่น จำกัด ซึ่งถือหุ้นร่วมกับภรรยา "เล็ก พิมพ์สุภัค" ล่าสุดผู้สื่อข่าวบันเทิง MGR Online ได้เจอผู้กำกับมือฉมัง "ฉลอง ภักดีวิจิตร" เลยสอบถามความคืบหน้าเรื่องละคร ซึ่งอาหลองเผยว่าใช้งบเกือบ 10 ล้านตอนยกกองไปถ่ายทำกันที่เนเธอร์แลนด์ และจ่ายค่าดอกทิวลิปไปเกือบ 100 ดอก ตกดอกละ 5 ยูโร พร้อมแจงว่าตอนนี้ได้เปิดบริษัทใหม่ "โกลด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ลิมิเต็ด" ซึ่งมีตัวเองผู้ถือหุ้น ส่วนบริษัทอินทรีย์นั้นยกให้ภรรยาและผู้ถือหุ้นอีกคนดูแลไป ยันไม่มีปัญหากับภรรยาแน่นอน

"ตอนนี้ถ่ายทำไปประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว เพราะถ่ายทุกวัน อย่างตอนไปถ่ายที่เนเธอร์แลนด์ก็ไม่มีอุปสรรค ควักเงินอย่างเดียว (ยิ้ม) ดอกทิวลิป ดอกละ 5 ยูโร และยูโรหนึ่งก็ตก 40 บาท แต่เราไม่ได้ระเบิดดอกทิวลิป แต่แค่มอเตอร์ไซค์มันล้มทับ (ยิ้ม) คนร้ายถูกยิง มอเตอร์ไซค์ล้ม แล้วก็คว่ำ ไถลไปตามทุ่งทิวลิป ก็โดนไปหลายร้อยดอก ถามว่ามันคุ้มมั้ย ก็เราทำเพื่อประชาชน"

"ต้องไปเมืองนอกเพราะเมืองไทยมันจะมีเป็นหย่อมๆ แล้วบรรยากาศทุกอย่างไม่เหมือนกัน โลเกชั่นมันสวย ทุ่งสุดลูกหูลูกตา ทุ่งสีเหลือง เมืองไทยไม่เหมือน ทุ่งทิวลิปที่จะได้เห็นคือของจริงหมด ก็หมดงบไปเยอะ 10 ล้านไม่เหลือ เฉพาะแค่ไปเนเธอร์แลนด์ 10 ล้านไม่เหลือ ยังไม่ได้รวมที่ไทย (ขาดทุนมั้ย?) เรื่องนี้เสมอตัว ยังได้กินได้ใช้ แล้วก็ไม่มีเงินเหลือ (ยิ้ม) ต้องเอาคำของพี่ ส.อาสนจินดา มาพูด เป็นความภูมิใจที่ไส้แห้ง คำนี้พี่ ส.ผมจำไว้เลย คือได้ชื่อเสียงจริง แต่ไม่มีเงินเลย (หัวเราะ)"

รับออกมาเปิดบริษัทใหม่ เพราะไม่อยากมีหุ้นส่วน ลุยทำเองดีกว่า ส่วนบริษัทเก่าให้ภรรยาดูแล ปล่อยมุกไม่ระเบิดกระท่อมแต่จะระเบิดเฮลิคอปเตอร์แทน
"เปิดบริษัทร่วมกับภรรยาไม่ขาดทุน อันนั้นบริษัทอินทรีย์ หุ้นกัน 3 คน มีอา มีภรรยา และหุ้นส่วนอีกคน แต่ตอนนี้อาตั้งบริษัทใหม่แล้ว ชื่อว่าโกลด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ลิมิเต็ด ส่วนบริษัทอินทรีย์ก็ให้ภรรยากับหุ้นส่วนอีกคนไปบริหาร ส่วนเรามาเปิดบริษัท โกลด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ลิมิเต็ด คือเราไม่อยากมีหุ้นส่วน เพราะมันยุ่งยาก มันลำบาก ทำเองดีกว่า คือการสร้างหนัง สร้างละคร ขั้นแรกมันต้องลงทุนตลอด จ่ายตลอด ไม่มีรับ ทีนี้คนที่เขามาเข้าหุ้นด้วย คงไม่เข้าใจ ว่าเราจะเอาเงินไปใช้จ่ายที่อื่น และด้วยความที่เราเป็นคนทำงาน เราก็ทุ่มเทและเต็มที่กับตรงอยู่แล้ว"

"ภรรยาเขารู้ เขาติดตามตลอด ไม่ได้มีปัญหากัน ส่วนบริษัทอินทรีย์ก็ให้เขาไป ส่วนโกลด์เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ก็จะมีเรื่องใหม่ เพราะชื่อโกลด์เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ก็จะรู้ทันทีว่าเป็นของฉลอง ภักดีวิจิตร ก็ต้องสร้างละครที่ยิ่งใหญ่อีกเรื่อง เพื่อที่จะให้โกลด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์เป็นที่ประทับใจของผู้ชมทั่วประเทศ จะไม่มีระเบิดกระท่อมแล้ว จะระเบิดเฮลิคอร์ปเตอร์ (ยิ้ม)"

 

ที่มา: MGR Online