ไม่เสียน้ำตากับเรื่องไร้สาระวาทะเด็ดจากเจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ

จากบทบาทน้องสาวของแอน ทองประสม ในละครเรื่อง สายรุ้ง เป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้รู้จักหน้าค่าตาของนักแสดงสาวตาโต หน้าตาบ้องแบ๊ว กระทั่งถึงวันนี้ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักชื่อของเธอ เจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ


นางเอกที่ขายดีที่สุดคนหนึ่งของช่อง3 ยามนี้เธอโดนข่าวโจมตี
 

ทั้งเรื่องเป็นมือที่สาม ของ "ผิง" พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์ และ"แอริณ" สิรีภรณ์ ยุกตะทัต รวมถึงข่าวเกาเหลาข้ามช่องกับ"แตงโม" ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ เรา"บันเทิง คม ชัด ลึก" ขออาสาพาไปเปิดใจถึงข่าวคราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอ...


นางเอกณ วิก 3

กระแสตอบรับสะใภ้ลูกทุ่ง


คนดูเขาก็ว่าแปลกดีตอนแรกที่คนดู เขาจะคิดว่ามันจะเหมือนกับเรื่อง "รักนี้หัวใจเราจอง" หรือเปล่า แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่ ก็จะคนละแนวกัน อะไรที่เจนี่ยังไม่เคยทำก็ได้เห็น ในเรื่องก็จะมีขี่ควายด้วย แล้วเจนี่ก็ตกควายด้วย ตกนอกบท ไม่ใช่ในบทด้วยนะ แล้วก็มียิงปืน ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยยิง เป็นเหมือนสาวบ้านนอกหน่อย เข้ามาทำงานในเมือง เพราะเป็นคุณหมอรักษาคน ก็ถือว่าเป็นบทคอมเมดี้อีกแบบหนึ่ง ออกแนวโหดๆ หน่อย เป็นผู้หญิงดุๆ นิดหนึ่ง


ผลงานชิ้นต่อไปล่ะ


เรื่องต่อไปค่อนข้างที่จะเครียดมี "หยกลายเมฆ" เล่นกับ โฬม (พัชฏะ นามปาน) บทบาทไม่หนัก แต่ต้องมีไปถ่ายทำที่ฮ่องกงด้วย เพราะในเรื่องต้องมีญาติเป็นคนฮ่องกง ค่อนข้างชอบเหมือนกันกับบทบาทนี้ และชอบที่ได้กลับไปร่วมงานกับพี่ๆ ที่บรอดคาซท์อีก เป็นครั้งที่สาม พี่ๆ ทุกคนน่ารักมาก ก็ต้องขอบคุณพี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธ์) ที่ให้มารับเล่นเรื่องนี้ นอกจากนี้ก็มีเรื่อง "น้ำผึ้งขม" เล่นกับ พี่นก (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) แต่เรื่องหลัง เจนี่ยังไม่แน่ใจนะ ว่าจะร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า ซึ่งน้ำผึ้งขมก็ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ซีเรียส บทหนัก และมีนักแสดงหลายท่านเคยเล่นมาก่อนแล้ว




จากบทบาทละครเรื่องแรก"สายรุ้ง" มาถึงทุกวันนี้ มีพัฒนาการอย่างไรบ้าง


ก็ถือว่าต่างกันมากเลยนะสำหรับบทบาทในการแสดง เจนี่ยังโชคดี ที่ได้รับบทบาทที่แตกต่างกันมากๆ มีทั้งคอมเมดี้ มีทั้งเศร้า มีหลายแบบมาก โชคดีที่ผู้ใหญ่คอยดูงานให้ และคอยดูเรื่องบทให้ด้วย ส่วนเรื่องพัฒนาการทางการแสดง เจนี่มองว่าตัวเองเรื่อยๆ ยังถือว่าได้ครึ่งเดียว เพราะเรายังมีอีกหลายบทที่อยากจะเล่น และยังไม่ได้เล่น ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลอง ก็หวังว่าคงจะได้เล่น


มีหลักในการทำงานอย่างไร


ต้องมีความรับผิดชอบต่องานคือต้องทำการบ้านในเรื่องของบทที่เราได้รับ ตรงต่อเวลา อย่างเรื่องทำการบ้านถือว่าสำคัญมาก เพราะวันหนึ่งที่เราถ่ายละคร ก็จะต้องถ่ายหลายฉาก และก็จะเป็นฉากที่คละกันด้วย ถ้าเกิดถ่ายฉากข้ามไปข้ามมา ถ้าเราไม่ทำการบ้านมา เราก็จะงงว่ามันฉากไหน แต่อย่างเจนี่ ก็จะมีวิธีของตนเอง คือจะจดเลกเชอร์ย่อๆๆ แต่ละบท ถ้าเจนี่ต้องถ่ายฉากที่ข้ามไปข้ามมา ก็จะมาเปิดดูที่จดไว้ว่าเราผ่านเหตุการณ์อะไรมาแล้วบ้าง ก็เหมือนกับการที่เราเรียนหนังสือ แล้วเราต้องสอบ แต่อันนี้มันยิ่งกว่านั้น เพราะข้อสอบยังมีอาจารย์คนเดียวที่เห็น แต่อันนี้มันมีคนดูอีกตั้งกี่ล้านที่รอดูเราในจอทีวีอยู่ เราก็เลยต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิม


แปลว่าอาชีพนักแสดงไม่ง่าย


ไม่ง่ายเลยยาก คืออาจจะเข้ามาง่าย แต่ว่าจะทำยังไง ให้มันคงทน มันเป็นอาชีพที่เราต้องทำด้วยใจรัก ถ้าทำไปโดยที่ใจเราไม่รัก เราอาจจะทำด้วยความไม่เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เจนี่ทำตรงนี้ เพราะใจเรารักจริงๆ ไม่ว่าจะละคร หรือถ่ายโฆษณา หรือถ่ายแบบอะไรก็ตาม ทำให้มันเต็มที่ ทำให้มันดีที่สุด ถ้าเมื่อไรที่เจนี่ทำแล้วรู้สึกเหนื่อย แสดงว่าได้ผล ถ้าเราเหนื่อย แสดงว่าเราก็ทำงานงานหนึ่งที่อยากจะให้มันดีที่สุด




ทำไมถึงรักอาชีพนักแสดง


เจนี่ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่เด็กตอนแรกที่เข้ามาก็ยังงงๆ อยู่ว่ามันคืออะไร ดาราก็ยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไร แต่พอมาทำงานแล้วก็รู้สึกว่า ยิ่งทำยิ่งมีอะไรให้ศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา มันเหมือนกับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เข้ามาแล้วก็รู้สึกว่าเริ่มผูกพันกับมัน พอเป็นความเคยชิน ก็รู้สึกว่ารักมัน ด้วยความที่เจนี่เป็นคนที่ไฮเปอร์ ต้องทำอะไรตลอดเวลา ต้องทำงานตลอด อยู่เฉยไม่ค่อยได้ ต้องรับงานให้เยอะที่สุด พอเข้ามาได้ปีสองปี ก็เริ่มรู้ว่าชอบอะไรแบบนี้ แต่ไม่ใช่ความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก แต่มันคือทำแล้วรู้ว่าคือสิ่งที่เรารัก


อาชีพนี้ท้าทายอย่างไรบ้าง


ก็ท้าทายนะมันก็มีหลายอย่างให้เรียนรู้ และเป็นอะไรที่ถ้าพลาดแล้วก็พลาดเลยเหมือนกัน ถ้าเกิดใครเห็นเราแสดง หรือว่าเห็นเราถ่ายแบบที่ไม่ดี ถ้ามันพลาด มันออกไปแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ก็อย่าไปคิดมาก ถ้าอะไรที่พลาดไปแล้ว ให้ลุกขึ้นมาทำด้วยความตั้งใจของเราใหม่ ซึ่งเวลาทำงาน เจนี่ถึงต้องคิดแล้วคิดอีกค่อนข้างมาก




13 ฝนคนบันเทิง

มีเรื่องอะไรที่ประทับใจบ้างในวงการบันเทิง


รู้สึกว่าดีใจที่มีรุ่นพี่นักแสดงหลายๆท่านคอยให้คำแนะนำ คำสั่งสอนที่ดีกับเจนี่ เพราะเจนี่ถือว่าตัวเองเป็นเด็กที่ค่อนข้างโชคดี มีผู้ใหญ่คอยให้สิ่งที่ดีกับเรามาตลอด


มีสิ่งที่แย่บ้างไหม


แย่ที่สุดเหรอ(คิด) คือเจนี่เป็นคนที่ไม่ค่อยอยากคิดเรื่องอะไรที่เป็นแง่ลบสักเท่าไร ชีวิตคนเรา ถ้ายิ่งคิดอะไรในทางลบๆ มันก็จะทำให้เราจิตใจไม่ดี มีกำลังใจไม่ดี พูดง่ายๆ ก็คือเจนี่เป็นคนไม่ชอบย่ำอยู่กับที่ ไม่ชอบย่ำถอยหลัง มองอะไรเจนี่ก็จะมองไปทางข้างหน้า จะไม่มองอยู่กับที่ ไม่ย้ำคิดย้ำทำ ไม่ว่าเกิดอะไรที่มันไม่ดีปั๊บ ให้คิดไปในแง่ที่ดี ถ้าเกิดเรายิ่งทำให้มันไม่ดี มันก็เหมือนร้อนกับร้อนปะทะกัน มันก็จะไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย แต่ถ้าเกิดเราใจเย็น มองอะไรที่มันดี มันก็จะดี


มรสุมข่าวที่เกิดกับเจนี่ เวลานี้ หนักขนาดไหน


รู้สึกว่าค่อนข้างหนักเหมือนกันแต่เจนี่เลือกที่จะไม่เปิดรับสื่อ และเลือกที่จะตั้งใจทำงานอย่างที่ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า เพราะมันร้อยคนก็ร้อยความคิด นานาจิตตัง ถ้าเราไปเอาความคิดของทุกคนมาใส่ความคิดเรา เจนี่คงปวดหัวตายกันพอดี ก็ทำงานให้ดีที่สุด และคอยอยู่กับครอบครัว แค่นั้นก็ดีแล้ว




เลือกที่จะไม่อ่านข่าวเลย


เจนี่ไม่ค่อยได้ซื้อหนังสือพวกนั้นเลยนะเพราะสื่อสมัยนี้ บางครั้งเห็นก็รุนแรงเกินไป คำพูดบางคำก็เป็นคำพูดที่เรายังไม่เคยได้ยินเลย มันคืออะไรเหรอ มันรุนแรงเกินไปที่เด็กสมัยนี้จะรับ บางคนอ่านไปก็เอ๊ย มีคำใหม่ๆ ออกมาด้วยเหรอ เจนี่อยู่ในช่วงสมัยที่สื่อยังไม่รุนแรง ยังมีการประนีประนอมกัน ยังช่วยเหลือกันได้บ้าง แต่เจนี่ก็เลือกที่จะอยู่เฉยๆ เรายังมีอะไรดีๆ ที่ต้องทำอีกเยอะ


ใครเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุด


คุณแม่ค่ะท่านจะไม่เคยพูด ไม่เคยทัก เพราะท่านคงรู้ว่าเจนี่เป็นยังไง แต่เจนี่จะรู้สึกแคร์และเป็นห่วงความรู้สึกของคุณแม่ ไม่อยากจะให้เขาคิดมาก ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ เจนี่ว่าเขาก็คิดมามากแล้ว ถึงได้บอกว่าสื่อเดี๋ยวนี้รุนแรงซะจนเจนี่สงสารคนรอบข้าง แทนที่จะมาสงสารตัวเอง


เคยเสียน้ำตากับเรื่องข่าวบ้างไหม


เจนี่ไม่เสียน้ำตากับเรื่องที่มันไร้สาระ


มีข่าวว่าผู้ใหญ่ทางช่องจะแบน


เจนี่ว่าคนที่อยู่ใกล้ชิดเขาจะรู้ว่าอะไรที่ใช่กับอะไรที่ไม่ใช่ ไม่มีใครพูดอะไรมาก ไม่มีใครพูดอะไรด้วยซ้ำไป ถ้าผู้ใหญ่จะแบนเจนี่ก็คงแบนไปนานแล้ว คนโตๆ กันแล้ว ถ้าเป็นความจริง มันคงมีอะไรออกมาบ้าง แต่นี่ก็ไม่เห็นมีอะไรออกมาเลย มีแต่คำพูดของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเจนี่ว่าตัวเองควรจะอยู่เฉยๆ มากกว่า เหมือนกับเราเป็นรุ่นพี่ของทุกๆ คนด้วย ไม่ควรจะออกไปพูดให้มันยืดเยื้อ เจนี่ไม่อยากพูดตั้งแต่แรก และจะไม่พูดทำร้ายบุคคลที่สอง บุคคลที่สาม เจนี่จะไม่พูดเลย และจนถึงวันนี้เจนี่ก็ไม่ได้พูด




ถ้าเวลามีปัญหาเลือกจะจัดการด้วยวิธีไหน


ก็อยู่เฉยๆกับมัน เพราะมันไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้า ตาต่อตา ฟันต่อฟันอะไรขนาดนั้น อย่างนั้นมันดูโหดร้ายรุนแรงเกินไปหรือเปล่า เพราะเราเกิดมาอยู่บนโลกใบเดียวกัน เจนี่ว่ามิตรภาพคือสิ่งที่ดีที่สุด คนเราจำเป็นจะต้องจองเวรจองกรรมขนาดนี้เลยเหรอ เจนี่ว่ามองอะไรที่มันบวกๆ บ้าง มันก็จะทำให้เรารู้สึกสบาย และเบาขึ้นเยอะ


น้อยใจไหมที่เราต้องโดนโจมตีฝ่ายเดียว
 

ก็ไม่เป็นไรอาจจะด้วยความที่เจนี่ไม่พูด มันก็เหมือนกับเราโดน แต่ว่าคนเรามันจะโดนได้สักเท่าไรล่ะ (ยิ้ม)


กลัวคนที่ไม่รู้จักเราเข้าใจผิดตามข่าวไหม


ก็ต้องมีบ้างที่คนจะเข้าใจผิดแต่จะให้เจนี่ไปอธิบายหรือว่าทำให้เขามาเข้าใจถูก มาอยู่ข้างเจนี่ ก็คงไม่ใช่ อะไรที่มันเป็นความจริง เดี๋ยวคนก็ต้องเห็นอยู่ดี เจนี่ว่าความยุติธรรมยังมีอยู่บนโลกใบนี้




หัวใจไร้คนจอง

สวยขนาดนี้ไม่มีหนุ่มมาขายขนมจีบเลยเหรอ


ไม่มีนะก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเข้าถึงยากพอสมควร เพราะส่วนใหญ่เจนี่จะอยู่กับเพื่อนจริงๆ ไม่ได้ออกไปเจอใคร ไม่ได้ออกไปอยู่กับใคร ติดเพื่อน คนรอบข้างเจนี่มีน้อยที่เรารู้สึกว่าเราไว้ใจได้ รักเขาจริงๆ และเขาก็รักเราจริงๆ


ทุกวันนี้ยังคุยกับพี่บั๊ด (ลวรณ แสงสนิท) อยู่ไหม


ก็คุยกันตลอดเวลาเราก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน เราไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดกัน แต่จะกลับมาคบกันไหม มันเป็นเรื่องของอนาคต เจนี่ไม่อยากจะพูดอะไรมากกับเรื่องของวันข้างหน้า การที่เราพูดไป มันคือการที่เราคิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้น ซึ่งเจนี่ไม่รู้อนาคตว่ามันจะเป็นยังไง เราไม่สามารถทำนายอนาคตเราได้ ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า


ความรักกับพี่บั๊ดสอนอะไรบ้าง


ก็สอนเยอะมากมันทำให้เราโตขึ้นมาได้เยอะมาก เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ด้วย


มุมมองความรัก


ถึงแม้วันนี้เจนี่ก็ยังมองความรัก ว่าเป็นสิ่งที่ดี ไม่ว่าจะรักน้อง รักพ่อแม่ รักเพื่อน หรือยังไงก็ตาม คนเราอยู่ได้ด้วยความรัก ไม่ว่าจะรูปแบบไหน มันก็เป็นความรักที่มหัศจรรย์อยู่ดี


เชื่อว่าหนุ่มๆคงอยากเข้าคิวรับความรักอันมหัศจรรย์จาก เจนี่ เป็นทิวแถวเลยแหละ...อิอิ


เธอคนนี้ชื่อ...เจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ

วันเดือน ปีเกิด...11 มีนาคม 2524 ที่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

การศึกษามัธยม...โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)

อุดมศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ผลงานชิ้นแรก...มิวสิกวิดีโอเพลง โอนลี่ ยู ของ เจอาร์ วอย

ผลงานสร้างชื่อ...ละครทางผ่านกามเทพ

ผลงานปัจจุบัน...ละครสะใภ้ลูกทุ่ง



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์