ได๋ฝากถึงต้าร์ ชาติหน้าก็ยังเป็นเพื่อน!


ได๋ฝากถึงต้าร์ ชาติหน้าก็ยังเป็นเพื่อน!


เคยมีข่าวกิ๊กกั๊กกับ "นาวิน ต้าร์" หรือ นาวิน เยาวพลกุล แถมยังถูกฝ่ายชายปฏิเสธความสัมพันธ์จนน้ำตาท่วมมาแล้ว และเมื่อฝ่ายชายมีข่าวกิ๊กกับสาวคนไหน ก็ไม่วายที่ "ได๋" ไดอาน่า จงจินตนาการ จะต้องโดนสื่อรุมทึ้ง ถามคำถามบาดใจตลอดเวลา  

แถมล่าสุดในงาน "ซีพีเอ็น เยียร์ อิด เซลล์
2010" ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งคู่ต้องมาร่วมงานกัน เลยถูกสื่อรุมทึ้งถาม อยากรู้ว่า ณ วันนี้เธอเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์กับว่าที่ดร.หนุ่มนั้นไปถึงขั้นไหนแล้ว

 
ต้องมาร่วมงานกับ นาวิน ต้าร์ วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง
 
จริงๆ วันนี้ไม่ได้มาร่วมงานกับต้าร์  แต่มาในฐานะพิธีกร ปกติดาราอาจจะรับงานเป็นแพ็กคู่ แต่วันนี้มาทำงานให้ทางซีพีเอ็น แล้วเขามาเดินแบบ ก็ไม่ได้มารับงานคู่

@ ทราบไหมว่าต้าร์ มาร่วมงานนี้

 ทราบ ก็คุยกันปกติ ก็...เอาอย่างนี้ละกัน ก่อนที่พี่ๆ จะถามอะไร ไหนๆ หนูก็รู้อยู่แล้ว ว่าพี่ๆ คงมีคำถามคาใจ หนูเลยขอพูดก่อน
เพราะว่าตั้งแต่มีข่าวต่างๆ นานาออกมา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่หรือเพื่อนๆ ที่อยู่รอบข้างหนู ก็จะถูกพี่ๆ ถามคำถามตลอดเวลา อยากฝากพี่นักข่าวไปบอกกับทุกๆ คนด้วย ว่าถ้ามีอะไรก็ให้มาถามได๋เอง อย่าไปถามคนรอบข้าง เพราะหนูเกรงใจ ในเมื่อทุกคนอยากจะรู้ ก็จะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเลยละกัน ว่ามันเป็นอย่างไร อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงที่มาที่ไป แล้วจะได้ไม่ต้องวิจารณ์ต่างๆ นานาอีก
 
หนูกับ ต้าร์ รู้จักกันมานาน 18 มีนาคม ปี 2010 จะครบสิบปีพอดี ที่เราเป็นเพื่อนกัน เรารู้จักผ่านพี่ต้น ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัว เป็นคนที่แนะนำให้รู้จัก เราสนิทกัน เพราะวิสัยทัศน์เดียวกัน คือถ้าไม่รักดีชีวิตก็จะไม่ดี ตอนนั้นอยู่ในวัยเรียน ก็ให้กำลังใจเรื่องการเรียน เขามาสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ให้ได๋ ในขณะที่ได๋ก็สอนภาษาอังกฤษให้เขา เพราะตอนนั้นเขากำลังจะไปเรียนต่อ พอไปอยู่ที่โน่น เราก็เป็นกำลังใจเรื่องการเป็นนักศึกษาที่อยู่เมืองนอก เพราะว่าเราต่างคนก็ต่างอยู่คนเดียวเหมือนกัน และคอยดูแลกันมากกว่า คือเขาไม่ได้กินข้าว เราก็ทำกับข้าวฝากไปให้ หรือว่าถ้าเราต้องนั่งรถเมล์ไปซื้อของเขาก็ขับไปส่ง เพราะฉะนั้นมันเป็นการดูแลกันและกัน แล้วอาจมีบางช่วงที่เราอาจรู้สึกว่าเอ๊ะ มันคืออะไร แต่ท้ายที่สุด เราก็คือเพื่อนกัน แล้วความรู้สึกนั้น มันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เราก็จะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต จะห้าปี สิบปี ยี่สิบปี หรือชาติหน้าก็แล้วแต่ ความรู้สึกนี้ก็จะไม่เปลี่ยน เราก็จะเป็นเพื่อนกันตลอดไป
 ในส่วนของการให้กำลังใจเขา  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน หรือเรื่องอะไรก็ตาม และไม่ว่าเขาจะประสบความสำเร็จอะไรก็ตามในชีวิต ก็พร้อมให้กำลังใจ แต่เรื่องส่วนตัวของเขา ก็ขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา อย่าถามได๋เลย เพราะคงไม่สามารถให้คำตอบใครได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของได๋

@ วันนี้ดูเหมือนได๋ มาระบายความอัดอั้นตันใจหรือเปล่า

 
จริงๆ แล้ว ก็ไม่ได้อัดอั้นตันใจอะไร แต่พี่เข้าใจไหม ว่าคนสมัยนี้หลายคนจะเสพข่าวอย่างเดียว โดยไม่เชื่อ ไม่อยากจะรู้ ไม่แคร์ว่าความจริงเป็นอย่างไร หนูก็เข้าใจพี่ๆ นักข่าวทุกคนว่า เวลาจะให้ข่าวเนี่ย ต้องมีการพาดหัวข่าว อย่าง ได๋โต้ ได๋กัดฟันยิ้ม  ต้าร์หักหน้าได๋ หรืออะไรก็แล้วแต่ คือคนบางคนเขาไม่อ่านเนื้อข่าวด้านในว่าเป็นอย่างไร และเขาคิดการพาดหัวข่าวนั้นคือข่าวและมันคือความจริง สำหรับพี่มันเป็นแค่การเสนอข่าว แต่สำหรับได๋แล้วมันคือชีวิตที่ต้องอยู่ด้วยทุกวัน ได๋ก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับตัวเองเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นอยากให้มันเคลียร์ๆ กันไปเลยว่าเราเป็นเพื่อนกัน เป็นเพื่อนกันมานาน 10 ปีแล้ว แล้วพี่จะพยายามให้ตีกัน ทะเลาะกัน มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะว่าอย่างไรเราก็เป็นเพื่อนกัน ไม่ว่าในชีวิตเขาจะมีใคร ในชีวิตเราจะมีใคร เราก็พร้อมที่จะให้กำลังใจกัน



ได๋ฝากถึงต้าร์ ชาติหน้าก็ยังเป็นเพื่อน!


@ เรียกได้ว่าข่าวที่ผ่านมากระทบจิตใจมากพอสมควรหรือเปล่า
 แรกๆ ไม่กระทบจิตใจอะไร เพราะได๋รู้สึกว่าเจอมาเยอะแล้ว แต่ว่าเพิ่งเข้าใจเมื่อไม่นานมานี้ว่าสังคมทุกวันนี้เสพข่าว จริงๆ แล้วบางคนไม่ถาม แต่เขาแซว
เขาไม่รู้ว่าคำแซวเหล่านั้นเราเก็บไปคิด ซึ่งงานเราก็เยอะแล้วยังต้องไปคิดคำพวกนี้ แล้ววันๆ ต้องไปตอบคำถามพวกนี้อีก หนูเหนื่อย...ย หนูเลยขอพูดเคลียร์ๆ ตรงนี้เลยว่า หนูพร้อมให้กำลังใจเขาทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเรียน เพราะว่าตอนนี้เขากำลังจะได้เป็นว่าที่ดอกเตอร์ คำว่าว่าที่ตรงนี้หมายความว่ายังไม่ได้เป็น ดังนั้นช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤติ เป็นช่วงที่เขาทำงานหนัก เขาต้องการกำลังใจ และคนเห็นใจมากๆ เพราะฉะนั้นถ้าใครจะมาเป็นกำลังใจหรือเป็นความสุขให้เขาเราก็ดีใจด้วย เท่านั้นเอง@ แล้วข่าวกับ "กอฟ" อัครา อมาตยกุล ล่ะค่ะ ตกลงว่า ณ วันนี้คืออย่างไรเอ่ย
กับกอฟ ก็เป็นเพื่อนที่ดี กับหลายๆ ข่าวที่ออกมา หนูก็ยอมรับว่าคงทำให้เขาปวดหัว รวมไปถึงคนใกล้ๆ ตัวเขาก็คงปวดหัวเหมือนกัน
รวมไปถึงคนที่อยู่รอบตัวได๋ด้วยทุกคนก็รู้สึกปวดหัวกับข่าว คือมันเหมือนกับว่าได๋พูดความจริง ทุกคนก็ไม่เชื่อว่าความจริงมันคืออะไร จนในที่สุดเลยรู้สึกว่าขอพูดครั้งหนึ่งให้มันจบไปเลยละกัน แล้วไม่ต้องเรียกได๋ไปออกรายการอะไร ไปสัมภาษณ์หนังสืออะไร หรือพยายามที่จะจับมาชนกันในงานอีเวนท์อีกแล้ว เพราะอันนี้คือความจริง ได๋บอกหมดแล้วไม่มีอะไรให้พูดอีกแล้ว 



ได๋ฝากถึงต้าร์ ชาติหน้าก็ยังเป็นเพื่อน!


ได๋ฝากถึงต้าร์ ชาติหน้าก็ยังเป็นเพื่อน!


ได๋ฝากถึงต้าร์ ชาติหน้าก็ยังเป็นเพื่อน!


ได๋ฝากถึงต้าร์ ชาติหน้าก็ยังเป็นเพื่อน!

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์