ได้ตัวแล้ว แก๊งแอบถ่าย โฟร์-มด

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ได้ตัวแล้ว แก๊งแอบถ่าย โฟร์-มด

หลังจากที่ตำรวจ ปดส.สืบสวนหาต้นตอคลิปวีดิโอฉาว สองสาวดูโอโฟร์-มดมานาน ในที่สุดตัวการถ่ายคลิปก็ถูกนำมาเปิดเผยตัว พร้อมกับเจ้าของโรงแรม ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 ก.ย.

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ ได้นำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายคลิปวีดิโอฉาวของนักร้องสาวดูโอชื่อดัง “โฟร์- มด” มาเปิดเผย โดยมี นายเสรี ชยามฤต หัวหน้าข่าวบันเทิงหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และนายธิติ พูนนิติพร เจ้าของโรงแรมรื่นรมย์ ขอนแก่น จ.ขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวด้วย แต่ไม่มีตัวแทนจากบริษัทอาร์เอสฯ ต้นสังกัดของนักร้องสาวมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ นายเสรีกล่าวว่า ตนรู้เรื่องคลิปวีดิโอโป๊ของนักร้อง สาววัยรุ่นสองคนนี้มานานพอสมควร จึงให้เพื่อนสนิทที่เป็นตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนั้นนำเรื่องไปปรึกษากับบริษัทอาร์เอสโปรโมชั่น ต้นสังกัดของนักร้องสาวคู่หู พร้อมทั้งประสานงานกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯมานานประมาณ 1 เดือน โดยนายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายบริษัทอาร์เอสฯ ก็ขอให้ช่วยตรวจสอบในเรื่องนี้และสืบหาตัวผู้กระทำผิด ในทางลับ เนื่องจากไม่ต้องการให้เป็นข่าว เกรงว่านักร้องสาวทั้งสองคนจะได้รับความอับอาย

ทั้งนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิปวีณาฯลงไปสืบสวนหาข้อเท็จจริง ปรากฏว่าเกิดมีคลิปวีดิโอของโฟร์-มด เผยแพร่ออกมาจนเป็นข่าวครึกโครมและโด่งดังไปทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดมูลนิธิปวีณาฯก็สามารถสืบสวนจนรู้ตัวผู้กระทำความผิดและผู้ร่วมขบวนการ มีทั้งหมด 6 คน แต่เข้ามอบตัวตอนนี้ 3 คน คือ นายรุ่งโรจน์ หรือตี๋ ตันศิริ อายุ 32 ปี รปภ.โรงแรมรื่นรมย์ ขอนแก่น นายวิชาญ หรือโด้ ปะกิระนันท์ อายุ 34 ปี กุ๊กประจำโรงแรมรื่นรมย์ ขอนแก่น และนายธีรชัย หรืออู๊ด มูลรัตน์ อายุ 28 ปี เจ้าของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก นายธิติ พูนนิติพร เจ้าของโรงแรมรื่นรมย์ ขอนแก่น นำตัวบุคคลทั้ง 3 เข้ามอบตัวกับนางปวีณา เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อไป ด้าน นายธีรชัย มูลรัตน์ เจ้าของโทรศัพท์มือถือ เปิดเผยถึงเรื่องราวที่สร้างความเสื่อมเสียแก่นักร้องสาวโฟร์-มด อ้างว่าเหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 50 โดยโฟร์-มดไปเปิดการแสดงคอนเสิร์ตที่ผับแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น และทีมงานได้จองห้องพักที่โรงแรมดังกล่าวไว้ 3 ห้อง

ภายหลังเสร็จสิ้นการแสดง ประมาณ 01.00 น. โฟร์-มดได้กลับเข้าห้องพัก หลังจากนั้นนายปิยะนัส หรือเนม กาบละคร อายุ 21 ปี พนักงานบริการของโรงแรม ได้ยืมโทรศัพท์มือถือของตนไป บอกว่าจะนำไปถ่ายคลิปโฟร์กับมด

ตนจึงให้ยืมไป โดยไม่ได้ คิดอะไรส่วนนายวิชาญ กุ๊กของโรงแรม อ้างว่าขณะที่นายเนมกำลังยืนถ่ายคลิปวีดิโออยู่บนเครื่องคอมเพรสเซอร์ แอร์ด้านหลังห้องพักวีไอพี ตนหันไปเห็นพอดีจึงเดินไปดู ถามว่าทำอะไร นายเนมไม่ตอบแต่ส่งสัญญาณชี้นิ้วปิดปากห้ามส่งเสียง เพราะกำลังแอบถ่ายนักร้องสาว 2 คนซึ่งกำลังอาบน้ำ จึงปีนขึ้นไปแอบดูด้วย จังหวะนั้นนายโต ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง พนักงานโรงแรมอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา จึงเรียกให้สลับกันขึ้นไปแอบดูอีกคน และหลังจากเข้าไปทำงานต่อในห้องครัว ก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้นายตี๋ รปภ. ของโรงแรมฟัง นายตี๋จึงรีบออกไปปีนดูนักร้องสาวทั้งสองคนด้วย กระทั่งถ่ายคลิปวีดิโอกันเสร็จ นายเนมมือถ่ายคลิป และนายตี๋ รปภ.ได้นำคลิปวีดิโอมาเปิดดู แล้วคืนโทรศัพท์มือถือให้เจ้าของ

ต่อมาวันรุ่งขึ้น แฟนสาวของนายเนม คนแอบถ่ายคลิปนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้นำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไปขอโหลดคลิปวีดิโอโฟร์-มดลงในเครื่อง

จนกระทั่งประมาณต้นเดือน ก.ย.51 ทราบข่าวคลิปวีดิโอแอบ ถ่ายโฟร์-มดอาบน้ำ ในห้องพักโรงแรมดังกล่าวแพร่ระบาด และเป็นข่าวครึกโครม ทั้งนี้ ขณะแถลงข่าวยอมรับสารภาพ ทั้ง 3 คนได้ ยกมือไหว้ขอโทษนักร้องสาวโฟร์-มดผ่านสื่อ พร้อมกับกล่าวแสดงความเสียใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังชี้ภาพถ่ายนายปิยะนัส หรือเนม บ๋อยโรงแรม ตัวการถ่ายคลิปฉาว ให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนนายธิติ พูนนิติพร เจ้าของโรงแรมรื่นรมย์ ขอนแก่น กล่าวว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน และไม่ทราบว่าห้องดังกล่าวมีช่องที่สามารถให้กลุ่มถ้ำมองทั้งหลายกระทำความชั่วได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ก็จะดำเนินการซ่อมแซมใหม่ สำหรับพนักงานทั้งหมดที่ร่วมกันทำความผิด ก็คงจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง หลังจบคดี

สำหรับนายปิยะนัส หรือเนม มือถ่ายคลิปวีดิโอ นั้น มีรายงานว่า ขณะนี้เป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่จังหวัดยะลา

เจ้าหน้าที่ บก.ปดส.อยู่ระหว่างประสานต้นสังกัดนำตัวมาดำเนินคดี ทางด้านนางปวีณา หงสกุล กล่าวว่า ได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. แล้ว ซึ่งพยานและหลักฐานทั้งหมดทางมูลนิธิปวีณาฯจะรวบรวมส่งให้ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้หญิงเกิดความหวาดกลัว ระแวงในความไม่ปลอดภัยที่จะเข้าพักตามโรงแรมในต่างจังหวัด จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบผู้ใดมีพฤติกรรมเช่นนี้ก็ขอให้ดำเนินคดีไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เพราะถือเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายกับผู้หญิงและสังคมเป็นอย่างยิ่ง

ในขณะเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชนและสตรี (บก.ปดส.) พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. กล่าวถึงกรณีที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นำผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ลงมือถ่ายคลิปวีดิโอของโฟร์-มด จำนวน 3 คน มาเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ไม่น่าจะเป็นผู้กระทำความผิดตัวจริง แต่น่าจะเป็นการวางงานเล่นละคร โดยมีตัวละคร 5 ตัว แต่แสดงได้ไม่เนียน เหมือนละครเรื่องบ้านทรายทอง เดี๋ยวตนจะจับตัวจริงให้ดู เท่านั้นยังไม่พอ หากทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปดส. อาจจะต้องถูกดำเนินคดี หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการแจ้งความเท็จและช่วยเหลือผู้อื่นให้ไม่ต้องรับโทษทางอาญา

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้จะมีการดำเนินคดีกับมูลนิธิปวีณาฯด้วยหรือไม่ ผบก.ปดส.ตอบว่า ทางมูลนิธิไม่เกี่ยวข้อง ตนเป็นตำรวจมากว่า 30 ปี คดีเช่นนี้มั่นใจว่ามีการวางงานเกิดขึ้น ตนไม่หมูจะมาหลอกกันง่ายๆ

คิดดูว่าโทษทางคดีหนักถึงขั้นจำคุกแล้วทำไมอยู่ดีๆ ผู้กระทำความผิดกล้าแสดงตัวออกมาให้การว่าเป็นคนลงมือ คงต้องรอให้ตำรวจ ปดส.สอบปากคำบุคคลทั้ง 3 ก่อน แล้วจะทราบว่าอะไรเป็นอะไร แต่มั่นใจ 100% ว่าเป็นการวางงานแน่นอน รู้สึกสงสารนางปวีณาที่ถูกคนกลุ่มนี้หลอก จะหลอกใครก็หลอกได้ แต่จะมาหลอกตนไม่มีทาง ต่อข้อถามว่า เหตุใดจึงมั่นใจว่า ไม่ใช่ตัวจริง พล.ต.ต.วิสุทธิ์ตอบว่า จากประสบการณ์ทำงานสืบสวนสอบสวน และการรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้ทำมาก่อนหน้านี้ มีการส่งตำรวจเข้าไปตั้งแต่ทราบเรื่อง จึงมั่นใจว่าผู้ที่แสดงตัวไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ

เมื่อถามว่า เรื่องนี้ต้นสังกัดของนักร้องสาวทั้ง 2 คน น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ตอบว่าไม่ทราบ แต่ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ 3 คนนี้ คนร้ายตัวจริงก็มี 3 คน แต่ไม่ใช่กลุ่มนี้ และขอยืนยันว่าจะจับกุมผู้กระทำความผิดตัวจริงให้ได้ โดยจะใช้คำให้การของทั้ง 3 คน สืบสวนขยายผลไปยังผู้กระทำความผิดที่แท้จริงต่อไป งานนี้ยังไม่จบง่ายๆแน่นอน ส่วนกรณีที่ระบุว่า ยังมีผู้เกี่ยวข้อง อีก 2 คน คือ นายเนม กับแฟนสาว ที่อ้างว่าเป็นผู้ถ่าย คลิปวีดิโอ แต่ยังไม่ได้เข้าพบนางปวีณา เนื่องจากไปเกณฑ์ ทหารอยู่ที่ จ.ยะลา นั้น น่าจะเป็นเพียงการกล่าวอ้าง ส่วน แฟนสาวที่เป็นผู้นำคลิปวีดิโอไปโหลดลงคอมฯก็น่าจะเป็น เพียงการกล่าวอ้างลอยๆ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผู้แสดงตัว ว่าก่อเหตุไม่ได้กระทำความผิดจริง จะออกมายอมรับเพื่อ เหตุผลใด ผบก. ปดส. กล่าวว่า อาจจะทำไปเพื่อปกปิดตัว คนผิดที่แท้จริงก็เป็นได้

ต่อมา เย็นวันเดียวกัน นางปวีณา หงสกุล ได้นำผู้ที่เข้ามอบตัว และเจ้าของโรงแรมรื่นรมย์ ขอนแก่น ไป ออก รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ทางช่อง 3 โดยยืนยันกับพิธีกร สรยุทธ สุทัศนะจินดา ว่า ไม่ได้เป็นการจัดฉาก

แต่เรื่องเริ่มมาจากเดือนที่แล้ว นายเสรี หัวหน้าข่าวบันเทิง นสพ. เดลินิวส์ นำข้อมูลมาให้มูลนิธิสืบต่อ แต่ขอร้องอย่าให้ เป็นข่าว เพราะกลัวจะเสียชื่อเสียง กระทั่งฝ่ายทำงานของ ตนไปขอความร่วมมือกับเจ้าของโรงแรม เพื่อสืบเสาะเรื่อง ราวไปเรื่อยๆ กระทั่งมีพยานหลักฐาน และเป็นช่วงที่มี ข่าวขึ้นมาพอดี ณ วันนี้ ทุกคนพร้อมจะมาให้มูลนิธิพา ไปมอบตัวกับ ผบก.ปดส. ตนไม่ใช่ตำรวจ ไม่ได้จับบุคคล กลุ่มนี้ แต่ขอร้องให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมูลนิธิฯ พร้อมเป็นตัวกลางในการประสานงาน ปดส. ขอยืนยันว่า ตนไม่ได้แย่งตำรวจทำงาน ซึ่งเรื่องคลิปวีดิโอนี้ ทางบริษัทอาร์เอสฯ ไม่ได้ติดต่อกับมูลนิธิฯ

ต่อมาเวลา 19.20 น. นางปวีณา หงสกุล ได้พาผู้เกี่ยวข้องกับการถ่ายคลิปวีดิโอโฟร์-มด เข้าพบพนักงานสอบสวน ปดส. โดยมี พ.ต.อ.นวพล กันคล้อย ผกก.ฝป.4 บก.ปดส. เป็นผู้รับมอบ จากนั้นนำตัวไปสอบปากคำ นางปวีณากล่าวว่า อยากให้ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ใจเย็นๆ คดีนี้ท่านยังไม่ได้สอบปากคำใคร จึงยังไม่อยากให้ด่วนสรุป ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้อาจฉุกละหุกไปนิด แต่ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด จึงอยากให้ ปดส.สอบปากคำและขยายผลต่อไปถึงผู้ที่นำไปเผยแพร่ ขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาจะแย่งงาน หรือเป็นการฉีกหน้าตำรวจ การทำงานของมูลนิธิปวีณาฯเสมือนเป็นการช่วยงานตำรวจอีกทางหนึ่ง ที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกันมาโดยตลอด

ด้าน พ.ต.อ.นวพลกล่าวว่า เบื้องต้นจะสอบปากคำทั้งหมดไว้ในฐานะพยานเข้าให้ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ แต่หลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว จะนำมาประมวลพยานหลักฐานต่างๆ หากพบว่าเข้าข่ายความผิดตามข้อกฎหมาย จะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป ส่วนคลิปวีดิโอที่ถูกระบุว่าถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น N72 ตำรวจต้องตรวจสอบให้แน่ชัด โดยนำคลิปวีดิโอไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่า เป็นการถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ หรือถ่ายจากกล้องวีดิโอ

เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ