ไกสรเปิดใจ หลังเทปลับหลุด

โดยหลังจากภาพการทะเลาะเบาะแว้งของครอบครั้วทั้งสองฝ่ายออกไป ได้มีข่าวว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวว่าเป็นร่าง ทรงของพุ่มพวงดวงจันทร์ได้โทรศัพท์ไปหานายไกรสร พูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าไม่สบายใจที่เห็นพี่น้องทะเลาะกัน ทั้งยังแนะนำให้นายไกรสร ถือศีลกินเจ สำรวมกิริยา กายวาจา แล้วเรื่องราวจะค่อย ๆ คลี่คลายไปเอง

และไม่ใช่แค่เท่านั้น เพราะหลังจากที่เกิดเรื่องได้ไม่นานก็มีการเผยแพร่เทปลับซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเทปที่ "พุ่มพวง" ได้บันทึกเสียงของตัวเองไว้ก่อนจะเสียชีวิตออกมา ซึ่งเนื้อหาภายในเทปดังกล่าวนั้น ค่อนข้างที่จะแสดงถึงความรู้สึกอัดอั้นตันใจกับชีวิตของเธอ (ในขณะนั้น)

"ไม่รู้จะพูดยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความรู้สึกว่าตัวเองไม่สบายหนัก แต่ว่าสามีไม่ค่อยใส่ใจ เรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ เกิดอายัดเงิน อายัดทองกันเข้า แต่ว่าถ้าไม่ทำมันก็ไม่ถูก  เพราะว่าเราป่วยมาเป็นปี เขาไม่เคยใส่ใจ เขาไม่เคยดูแล ดูเหมือนกัน แต่ดูแบบ ตายก็ดี อยู่ยังไงก็ได้ ซึ่งในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์อายัดกันเข้า ซึ่งได้ทำใจไว้แล้ว ถามแล้ว ว่าอยากให้หายหรืออยากให้ตาย รู้ไหมคำตอบเขาบอกว่าไง แล้วแต่จะคิด แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่า จะทำให้จุดชนวนที่เราจะต้องเลิกกัน เพราะเรามีลูก แต่เหตุการณ์มันก็หนักขึ้นๆ ในเมื่อคนป่วยนอนป่วยอยู่ที่นี่ แต่ก็ผู้ป่วยไม่เคยได้เห็นลูก คนพูดนี้คือ ดิฉัน พุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นนักร้อง ทุกคนคงพอรู้จัก"

ซึ่งเมื่อเทปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานามากมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และมีกระแสข่าวลือมาด้วยว่า ช่วงที่พุ่มพวงเสียชีวิตใหม่ ๆ นายไกรสร ได้ขู่เอาไว้ว่าใครที่เอาเทปลับนี้ไปเผยแพร่จะแจ้งความจับหมดทุกคน

โดยรายการวิทยุชื่อดัง "แฉแต่เช้า" ก็เป็นสื่อปืนไว ได้ทำการต่อสายตรงสัมภาษณ์กับนายไกรสรหลังจากที่มีเทปลับนี้ถูกเผยแพร่ออกไป

ซึ่งนายไกรสรก็ยืนยันว่าเสียงที่ได้ยินนั้น เป็นเสียงของพุ่มพวงจริง แต่เจ้าตัวไม่ขอออกความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะถือว่าเรื่องนี้ผ่านมานานกว่า 17 ปีแล้ว พร้อมกับปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ใจร้ายไม่ให้เงินพุ่มพวงไปรักษาตัว จนลุกลามไปสู่การเสียชีวิตของเธอในที่สุด

และยอมรับว่า เงินมรดกของพุ่มพวงนั้นได้หมดสิ้นไปแล้ว ส่วนหนึ่งใช้เป็นเงินค่าเลี้ยงดูลูก อีกส่วนหนึ่งก็หมดไปกับธุรกิจที่เคยทำร่วมกัน พร้อมกับยืนยันว่าการสร้างหุ่นพุ่มพวงที่ผ่าน ๆ มานั้นเขาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ เลย พร้อมยืดอกบอกได้เลี้ยงดูลูกเพชรมาอย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนกรณีที่ญาติ ๆ ติดใจที่พระลูกเพชรบวชแต่ไม่ยอมบอกพ่อ แต่เจ้าตัวอ้างว่าได้แจ้งไปทางภรรยาใหม่ของพ่อแล้วนั้น ทางด้านนายไกรสรยืนยันว่า ไม่มีการแจ้งเรื่องใด ๆ สามารถเช็คที่โทรศัพท์มือถือได้เลย แต่สำหรับโทศัพท์บ้านนั้นเสียนานแล้ว

ก่อนจะฝากถึงลูกชายว่าให้คิดใหม่ คิดทบทวนดูดี ๆ อย่าเชื่อคำคนอื่น อย่าให้ใครมาจูงจมูก พ่อรวมทั้งญาติพี่น้องยินดีต้อนรับกลับเสมอ พร้อมยืนยันรักลูกเหมือนเดิม ต่อให้ลูกไม่มีใครพ่อคนนี้ยินดีเลี้ยง

ในขณะเดียวกันทางรายการก็ได้มีการเชิญให้ "น้องอ้อย" ที่ถูกระบุว่าเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของลูกเพชร ซึ่งเจ้าตัวได้เอ่ยขอบคุณทางรายการที่ทำให้มีโอกาสได้ออกมาพูดบ้าง

โดยเจ้าตัวกล่าวว่า ที่หลาย ๆ คนเข้าใจว่าตนเองกับลูกเพชรนั้น คบหากันผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นไม่เป็นความจริง เพราะที่จริงแล้วรู้จักกันเพราะ ฝ่ายหญิงเคยไปฝึกงานที่บริษัทอาร์เอส ในขณะที่ฝ่ายเองก็เป็นศิลปินฝึกหัดอยู่ แต่ก็ยอมรับว่าในช่วงแรก ๆ ไม่ได้สนิทสนมกันนัก แต่ยืนยันไม่ได้รู้จักกันผ่านอินเทอร์เน็ตแน่

ซึ่งหลังจากนั้นก็มีข่าวว่าลูกเพชรได้หนีออกจากบ้านมาอยู่กับตนซึ่งตรงนี้เจ้าตัวกล่าวว่า ทางด้านน้าของฝ่ายชายเองก็เป็นพยานได้ว่า ลูกเพชรไม่ได้มาอยู่กับตนแต่อยู่กับน้า โดยมีการพูดคุยกันโดยที่มีสื่อหนึ่งเป็นพยาน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางด้านน้าสาวของฝ่ายชายเคยกล่าวว่าจะลงข่าวแก้ให้ แต่สุดท้ายก็ไม่มี

โดย "น้องอ้อย" กล่าวว่า ก่อนหน้าที่ลูกเพชรจะมาคบหากับตนนั้น สมัยที่ลูกเพชรอยู่ที่เชียงใหม่ทั้งกินเหล้า สูบบุหรี่

มีเรื่องผู้หญิงซึ่งเรื่องตรงนี้ทางด้านคุณพ่อของลูกเพชรก็ทราบเรื่อง แต่พอมาอยู่กับฝ่ายตนนั้นลูกเพชรไม่ได้กลับไปทำตัวเช่นนั้น และยอมรับว่าตอนนี้พระเพชรมาอยู่กับตนแล้ว โดยที่คุณแม่ของฝ่ายหยิงเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง พร้อมยืนยันว่าวันที่เพชรออกจากบ้านมาไม่มีเงินติดตัวมาเลย และปัจจุบันนี้ทางบ้านฝ่ายหญิงก็เป็นฝ่ายเลี้ยงดู

สำหรับกรณีที่พระเพชรเกิดมีปากเสียงกับทางญาติ ๆ นั้นเจ้าตัวกล่าวว่าถ้าได้เห็นภาพเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น (ภาพที่ถูกเผยแพร่เจ้าตัวอ้างว่ามีการตัดต่อ) จะทราบว่าทำไมพระเพชรถึงหลุดอาการสำรวม