ใครว่า หยาดทิพย์ ขาลง!

ตั้งแต่เริ่มโตเป็นสาว นางเอกชื่อดัง หยาดทิพย์ ราชปาล ก็ตกเป็นข่าวโน้นข่าวนี้แทบไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว

โดยเฉพาะเรื่องของความรัก ควงใครแต่ละทีก็มักจะได้รับความสนใจจากสื่ออยู่เสมอ ๆ วันนี้ “ดาวต่างมุม” จึงชวนเธอมาเปิดใจข่าวค(ร)าวต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องงานไปจนถึงเรื่องหัวใจของเธอ



*ช่วงนี้ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง
 
-ช่วงนี้ทำงานเยอะเหมือนกัน เพิ่งปิดกล้องละคร “ทางช้างเผือก” ไป แล้วตอนนี้ก็กำลังถ่ายละคร “สุดแดนหัวใจ” และ “ผู้การเรือเร่” นอกจากนี้ก็มีงานประจำเป็นพิธีกรรายการ “สีสันบันเทิง” งานโชว์ตัว แล้วก็งานถ่ายแบบและเดินแบบเรื่อย ๆ ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่หนักมาก ตอนนี้  “ทางช้างเผือก” ยังไม่ปิดกล้อง มีงานซ้อนกันหลายเรื่อง  แต่ก็สนุกดีได้ไปกองถ่ายหลาย ๆ กอง ก็เหนื่อยบ้าง เพราะบางทีวันนึงต้องเดินทางไปโน่นไปนี่หลายที่ แต่เวลาเหนื่อยเราก็จะเหนื่อยไม่นาน ถึงเหนื่อยแต่ก็สนุก


*ทำงานติดต่อกันมานานแค่ไหนแล้ว

 
-ทำงานติด ๆ กันแบบนี้มา 3 ปีแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย ปีนึงได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัดประมาณ 2 ครั้ง  ๆ ละ 2-3 วัน  เช่น ช่วงสงกรานต์ แล้วเวลาไปหยาดก็จะไม่ทำอะไรเลย เอาแต่อยู่โรงแรมอย่างเดียว เลือกที่วิวสวย ๆ นอนเล่นอย่างเดียว


*คิดว่าเราทำงานหนักเกินไปมั้ย

 
-หยาดเพิ่งอายุครบ 21 ค่ะ ช่วงเวลานี้หลายคนอาจจะเรียนหนังสืออยู่ แต่สำหรับหยาดก็ไม่รู้สึกว่าหนักไปนะ ชินแล้ว เราทำงานตรงนี้มานานแล้ว และงานตรงนี้ให้อะไรกับเราหลาย ๆ เรื่อง บางทีถ้าทำงานน้อยลงเราอาจจะเบื่อก็ได้



*มีวิธีเลือกรับงานอย่างไร
 

-เรื่องรับงานจะให้แม่ดูให้ แล้วก็ช่วย ๆ กันตัดสินใจ แต่ถ้าละครก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ทางช่อง 3 หยาดไม่เคยปฏิเสธ อยู่แล้ว เพราะเรามั่นใจว่าผู้ใหญ่เขาต้องเลือกงานดี ๆ ให้กับเรา ส่วนงานอื่น ๆ จะดูตามความเหมาะสม แต่หยาดว่าหยาดโชคดีกว่าคนอื่นนิดนึงตรงที่เรามีโอกาสทำงานครบเกือบทุกแขนงแล้ว ไม่ว่าจะเป็น งานพิธีกร ถ่ายแบบและเดินแบบ เพราะมีหลาย ๆ งานที่ตัวเราไม่กล้าที่จะทำ เราก็ได้ทำ หยาดต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทางช่องมาก ที่ทำให้หยาดได้ร้องเพลงใน  “The Album” แล้วก็ได้ทำงานพิธีกรรายการ “สีสันบันเทิง” เพราะตอนแรกเลย หยาดปฏิเสธ ไม่อยากทำ เพราะเรารู้ว่าตัวเราพูดอะไรงง ๆ ร้องเพลงก็ร้องไม่รู้เรื่อง แต่ผู้ใหญ่ก็บอกว่าอยากให้ลองทำดูเพราะเขามั่นใจว่าเราน่าจะทำได้


*คิดว่าฝีมือการเล่นละครของเราเป็นอย่างไรบ้าง

 
-โตขึ้นนะ อย่างเมื่อก่อนตอนที่เริ่มกลับเข้ามาทำงานในวงการอีกครั้ง ตอนอายุ 15-16 ปี เราก็จะเล่นได้แต่บทใส ๆ  แต่พอโตขึ้นมาเราก็ได้งานอะไรที่แตกต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็น  นางเอกแบบร้าย ๆ ในละคร “เล่ห์กุหลาบ” หรือ รับบทเด็กใจแตกใน “รังนกบนปลายไม้” รู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ แต่กว่าเราจะมาถึงวันนี้ได้เราก็ต้องเพาะบ่มทักษะทางการแสดงมามากพอสมควร


*จากวันแรกที่เข้าวงการจนถึงวันนี้ คิดว่าวงการบันเทิงเปลี่ยนไปมากแค่ไหน

 
-ก็เปลี่ยนไปมากพอสมควรนะ อย่างเมื่อก่อนตอนที่กลับเข้ามาวงการอีกครั้ง ช่วงแรก ๆ หยาดจะไม่ชอบเวลาที่ต้องตกเป็นข่าว อารมณ์ประมาณว่า เฮ้ย!เราไม่ได้ทำนะ เขาไม่น่ามาเขียนถึงเราแบบนี้เลย กลัวคนอื่นจะเข้าใจผิด แต่ตอนนี้เราคิดอะไรได้เยอะขึ้นทำใจได้แล้ว บางคนเจอหนักกว่าเราอีก ขณะเดียวกันวงการนี้ก็ทำให้เราเจอคนหลากหลายรูปแบบ สอนให้เรามองคนเป็นมากขึ้น 



*หยาดมักตกเป็นข่าวเยอะ มีวิธีรับมืออย่างไร  
 
-หยาดก็จะตอบความจริง แต่เราก็จะบอกเลยว่าเราตอบได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก เพราะบางเรื่องมันเป็นเรื่องส่วนตัวจริง ๆ ก็อาจจะขอเก็บไว้เป็นส่วนตัวบ้าง แต่ที่สำคัญเลย หยาดจะไม่โกหก ตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็จะเงียบไปเลยดีกว่า แต่อย่างบางทีเจอข่าวที่ใช้อักษรย่อ แล้วเขียนแบบเสีย ๆ หาย ๆ หยาบคายเกินไปหยาดก็จะเลี่ยงโดยการไม่อ่าน เพราะ ณ ตรงนั้น เราทำอะไรไม่ได้ ยิ่งอ่านก็ยิ่งเครียด อย่างเวลาเราอ่านเรื่องของดาราคนอื่น ยังรู้สึกสงสารเขาเลย ส่วนใหญ่มันก็คงไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดหรอก ใครจะมารู้ชีวิตเราได้ตลอด 24 ชม. เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาเขียน ๆ กัน มันก็ไม่มีทางเป็นจริง ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว


*ข่าวไหนที่ทำให้เราเสียใจมากที่สุด

 
-หยาดเริ่มทำใจได้แล้วค่ะ เมื่อก่อนจะไม่ชอบมากเวลาที่ต้องตกเป็นข่าวมือที่ 3 ไปเกี่ยวข้องกับชีวิตรักของคนอื่น เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ดี และที่สำคัญเราไม่เคยไปยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้ว ถ้าโตมาหน่อยก็คงเป็นข่าวที่บอกว่าเราไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เราไม่ชอบเลย  เวลาจะนอนยังไม่มีเลย จะเอาเวลาที่ไหนไปสำมะเลเทเมา หยาดคิดว่ามันแรงมาก เรามีความรู้สึกว่าเรื่องติดยาเสพติดมันเป็นอะไรที่รุนแรงเกินกว่าที่จะมากล่าวหากัน  


*เวลาตกเป็นข่าวเสีย ๆ หาย ๆ พ่อแม่ว่าอย่างไรบ้าง

 
-เขาก็เข้าใจเรา ไม่ค่อยพูดอะไร อย่างแม่จะอยู่กับเราตลอดเวลา ก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนคุณพ่อไม่ค่อยได้อ่านหนังสือพิมพ์เท่าไหร่ เขาไม่สนใจเรื่องบันเทิงอยู่แล้ว โชคดีที่ทางบ้านเราเข้าใจ เขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนยังไง และอะไรที่มันจริงและไม่จริง แม่ก็จะแนะนำว่า ให้เรารู้จักวางตัวให้เหมาะสม มีความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัย แต่แม่จะอยู่กับหยาดแทบตลอดเวลาอยู่แล้ว เวลามีอะไรก็จะเตือนเราทันที



*คิดว่ามันคุ้มกันมั้ย 
 
-ถ้ามองในแง่ไม่ดีก็คงไม่คุ้ม เพราะแลกกับชื่อเสียงของเราไปเยอะเหมือนกัน แต่หยาดจะพยายามคิดแค่ว่า ยังไงเราก็เข้ามาแล้ว หน้าที่หลักของเราก็คือ ต้องทำงานให้ดีที่สุด และหยาดก็ยังมั่นใจว่า คนส่วนใหญ่น่าจะอยากรู้จักดาราในแง่ของผลงานมากกว่า และคนส่วนใหญ่เขาคงมีวิจารณญาณมากพอเวลาอ่านข่าว เขาคงไม่เชื่อทั้งหมดหรอก ถ้ามัวแต่มองมุมแย่ ๆ เดี๋ยวจะเครียดไปกันใหญ่


*วงการนี้ให้อะไรกับเราบ้าง

 
-ให้เยอะนะ อย่างแรกเลยคือ ให้ประสบการณ์ ถ้าเป็นเด็กรุ่นเดียวกัน เขาคงยังไม่เจอเพราะยังไม่ถึงวัยทำงาน นอกจากนี้วงการยังสอนให้เราปรับตัวกับคนในสังคมได้เป็นอย่างดี แต่ก็อาจจะเสียชีวิตวัยรุ่นไปบ้าง เพราะไม่ค่อยได้ไปไหนกับเพื่อน แต่พอเรามีเพื่อนในวงการ แล้วงานอย่างเราก็ได้ไปโน่นไปนี่บ่อย ๆ มันก็เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ เราก็ได้ทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย ถามว่าเหงามั้ย ก็ไม่ค่อยเหงานะ เพราะเวลาไปตามกองถ่ายก็จะมีเพื่อนอยู่ที่นั่น อาศัยมีเพื่อนตามกองถ่ายตรงโน้นทีตรงนี้ที


*แล้วเรื่องความรัก

   
-ตอนนี้ยังไม่อยากมีใคร ทำงานก่อนดีกว่า เป็นโสดมาเกือบปีแล้ว แต่ไม่เหงานะ มีเพื่อนเยอะ ทุกวันนี้เวลาพักผ่อนแทบไม่มี เวลาว่างก็ไปอยู่กับเพื่อนทันที



*ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะมีข่าวแต่กับไฮโซ
 
-จริง ๆ เดี๋ยวนี้คนชอบมองว่าดาราอยากเป็นข่าวกับไฮโซ หยาดยังไม่รู้เลยว่าเขาตัดสินคำว่า “ไฮโซ” ตรงไหน คือคนรวยเหรอ มันก็ไม่ใช่ แล้วทำไมไม่คิดว่าไฮโซอาจจะอยากเป็นข่าวกับดาราบ้างก็ได้ และที่จริงหยาดก็ไม่ได้เป็นข่าวกับใครมากมาย แค่ พี่กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ และ พี่โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร เท่านั้น ของหยาดเนี่ยเป็นข่าวกับพวกไฮโซน้อยมาก นอกนั้นจะเป็นข่าวกับเพื่อน ๆ นักแสดงด้วยกันมากกว่า


*รู้สึกยังไงเวลาที่คนมองว่าดาราเป็นของเล่นไฮโซ

 
-แล้วแต่มุมมองของคนมาก กว่า ทำไมไม่มองว่าไฮโซเป็นของเล่นดารามั้งล่ะ (หัวเราะ) คือวงการมันวนอยู่แค่นี้แหละ เราไม่ได้เป็นของเล่นเขาหรอก ไฮโซไม่ได้เป็นอะไรที่พิเศษที่จะสามารถเอาดาราไปเป็นของเล่นได้ เราทำงานของเรา หาเงินเองได้ก็เยอะ ไม่จำเป็นต้องไปเป็นของเล่นของใคร เรายืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองได้


*ช่วงนี้มีข่าวน้อยลง คนเลยมองว่าเป็น  “หยาดขาลง”

 
-แล้วแต่คนคิดมากกว่า แต่ถ้าจะบอกว่าขาลงคงไม่ใช่ เพราะงานเยอะกว่าเดิม ทุกวันนี้ทำงานจนไม่มีเวลานอนแล้ว แต่ถ้าเป็นในแง่ที่ว่าข่าวซาลง หยาดดีใจนะ เพราะเมื่อก่อนมีข่าวเยอะจนปวดหัว มีข่าวน้อย ๆ บ้างก็ดี



*เพราะหยาดเป็นคนพูดตรงหรือเปล่า คนเลยชอบปั้นข่าวเพื่อให้แก้
 
-คือถ้าเขาถามอะไรมาเราก็ตอบไปอย่างนั้น ก็ไม่รู้ทำไมมีข่าว ออกมาเรื่อย ๆ ตอนนี้หยาดพยายาม ปรับตัวพูดให้น้อยลง เมื่อก่อนพูดตรงกว่านี้และไม่ชอบให้คนมากล่าวหา ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ใครทำไม่ดีกับเรา เราก็จะพูด แต่ตอนนี้เราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะการที่เราพูดตรงไป นอกจากเขาจะไม่เขียนแก้ให้เราแล้ว ยังจะต่อว่าเราด้วย เราก็พยายามตอบได้เท่าที่ตอบ แล้วถ้าข่าวไหนที่ไม่ใช่เรื่องจริงก็เลี่ยงไม่อ่านเลย


*ล่าสุดมีข่าวกับ พี่ต่าย-ณัฐพล ลียะวณิช ด้วย

 
-คงเป็นเพราะเราสนิทกันมานานแล้ว เล่นละครด้วยกันหลายเรื่อง  ก็ยอมรับว่าสนิทกัน แต่อาจเป็นเพราะว่าพี่ต่ายไม่มีใคร หยาดไม่มีใคร คนเลยจับคู่ให้ ส่วนเรื่องที่คนมองว่าเป็นการจับคู่โปรโมตนั้น ก็ไม่จริงหรอกค่ะ หยาดเล่นละครกับใครก็โดนจับคู่ประจำ บอกตามตรงเหนื่อยนะที่ต้องมานั่งตอบคำถาม อย่างเรื่องพี่ต่าย ตอบคำถามมาหลายเดือนแล้ว และก็ไม่เห็นจะโปรโมตอะไรได้เลย ถามว่ากับพี่ต่ายมีโอกาสพัฒนามั้ย จริง ๆ ทุกคนมีโอกาสทั้งนั้น ถ้าอยู่ในเวลาที่เหมาะสมและเป็นคนที่ใช่ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีอะไร เป็นพี่น้องแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็ดีอยู่แล้ว
 
*หนุ่มแบบไหนที่สามารถพิชิตใจหยาดได้

 
-ชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่ คนที่เทคแคร์ดูแลเราได้ คนรุ่นเดียวกันจะไม่ค่อยเอาใจเรา ไม่มีใครมาโอ๋ เรื่องหน้าตา ถ้าเป็นแต่ก่อนจะชอบคนตี๋ ๆ ขาว ๆ เดี๋ยวนี้เริ่มไม่ชอบตี๋ เพราะมีเยอะมาก ชอบผู้ใหญ่มากกว่า จะเป็นคนในหรือนอกวงการก็ได้ ขอให้เป็นคนดีก็พอ เวลาหยาดเลือกคบใครเราไม่ได้มองตรงนั้น แต่ถ้าเป็นคนในวงการด้วยกันก็น่าจะดีกว่า เพราะเขาจะเข้าใจการทำงานของเรา
 
ถึงแม้จะอายุยังน้อย แต่ความคิดความอ่านของสาวหยาดไม่ธรรมดาเลยทีเดียว งานนี้เราก็ต้องรอดูกันต่อไปชีวิตเธอจะดำเนินต่อไปอย่างไรและใครจะเป็นหนุ่มที่พิชิตหัวใจของเธอ.



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์