โอ๋ ภัคจีราเผยก่อนวิวาห์ตื่นเต้นเฟี้ยตชวนร่วมหอ

นับถอยหลังไม่กี่วัน โอ๋-ภัคจีรา วรรณสุทธิ์ นักแสดง-พิธีกรสาวจากรายการ "ตีท้ายครัว" ทางช่อง 3

กำลังเข้าสู่ประตูวิวาห์กับ เฟี้ยต-มธุกร พสวงศ์ ทายาทร้านทองฮั่วเซ่งเฮง หลังจากบ่มรัก 3 ปี กำลังเข้าสู่ประตูวิวาห์ 22 พ.ค. โรงแรมโอเรียนเต็ล "ทีมข่าวบันเทิง" คว้าว่าที่เจ้าสาวโอ๋ เปิดใจหมดเปลือก

ย้อนวันวานปิ๊งปั๊งกับว่าที่เจ้าบ่าวได้ยังไง

"เจอกันเพราะว่าโมซึ่งเป็นน้องสาวของพี่เฟียตจะโดนทักว่าหน้าเหมือนโอ๋ แล้วโอ๋เจอน้องเค้าก่อนก็คุยกัน เนี่ยๆมีแต่คนทักว่าหน้าเหมือนกัน หลังจากนั้นไปกินข้าวที่เดิมบ่อยๆที่ประจำเลย ไปเจอกัน พอเจอกันก็เลยคุยกันมาเรื่อยๆ กว่าจะสนิทสนมเป็นแฟนกันประมาณปีนึง"เฟี้ยตโรแมนติกมั้ย "ก็ดีนะ ปกติของคนโรแมนติกบ้างแล้วแต่โอกาส" เหตุการณ์ ไหนที่รู้สึกประทับใจ "ตอบยากนะ จริงๆ พี่เฟี้ยตเป็นกำลังใจให้โอ๋คนนึง เหมือนเพื่อน เหมือนพี่ คือจริงๆโอ๋เป็นคนมีโลก ส่วนตัวเหมือนกัน โอ๋จะสนิทกับคนที่สนิทจริงๆ แฟนก็เป็นคนนึงที่เข้ามาอยู่ในชีวิต โอ๋มีแฟนเหมือนมีเพื่อน ช่วยคิดทุกๆเรื่อง เราเข้าวงการตั้งแต่เด็กๆ คนอื่นจะมีพ่อแม่มาด้วย แต่เราไม่ได้มีตรงนั้น"



ตอนคบกันแฟนรู้มั้ยโอ๋เป็นดารา

"รู้สิ ใครไม่รู้บ้าง ไม่มีหรอก" กลัวมั้ยเค้าอาจจะแค่คบเล่นๆ "ไม่หรอก เวลาโอ๋คบใครก็อยู่ที่เซ้นส์ โอ๋ว่าผู้หญิงทุกคนแหละ ดวงชะตา ฟ้าลิขิตให้เราไปเจออะไรอยู่แล้ว เซ้นส์เราจะรู้คนนี้เป็นคนแบบนั้น เราก็มีเซ้นส์ใครจะมาหลอกเรา ซึ่งตัวเราไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว เราต้องรู้เค้าเป็นใคร เขาก็ต้องรู้เราเป็นใคร ไม่ใช่อยู่ดีๆเดินข้ามถนนมารู้จักกันซะเมื่อไหร่ ต่างคนต่างรู้คนนี้แบ็กกราวด์เป็นยังไง โอ๋รู้จักกับโมว่าเขาเป็นทายาทร้านทอง และรู้จักครอบครัวเค้ามาก่อน รู้จักคุณลุงเค้ามีชื่อเสียง ใครบ้างไม่รู้จัก อยู่มาตั้ง 50 ปี คนรอบข้างโอ๋รู้จักกับครอบครัวนี้ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ แต่สิ่งแปลกใหม่คือพี่เฟี้ยต กับโมเราก็รู้เค้าเป็นใคร"

มีเอ่ยปากขอแต่งงานเหมือนในหนังป่ะ

"ไม่มีเลย (หัวเราะ) ตอนแรกพี่เฟี้ยตมีคิดไว้น่าจะขอแต่งงานที่นั่นที่นี่ แต่พอดีมันยุ่ง เรื่องการแต่งงานจริงๆคุยกันมาตลอด พี่เฟี้ยตอยากแต่งงาน มีครอบครัว เราถือว่าโชคดีมีผู้ชายอยากแต่งงาน โอ๋ถือว่าตัวเองโชคดีมาตลอดชีวิตนะตั้งแต่เข้าวงการ มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ถึงแม้จะล้มลุกคลุกคลาน แต่โอ๋ถือว่าสุดท้ายชีวิตของผู้หญิงทุกคนอยากได้สิ่งนี้ถือว่าเราโชคดี" คนอื่นมองโอ๋อาภัพรัก "โอ๋ไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นนะ แค่ตอนแรกรู้สึกบ้างคบแล้วเลิก ทุกครั้งที่โอ๋มีปัญหาทั้งแฟนคลับ น้องๆมีแต่คนให้กำลังใจ เราก็ไม่ได้รู้สึกอาภัพรักนะ แม้แต่คนที่เราเลิกไปโอ๋เลือกจำแต่สิ่งดีๆ ในเมื่อคบกันไม่ได้ก็เลิกกัน ดีกว่าเราแต่งงานต้องมาเลิกกันภายหลัง แต่อันนี้ด้วยระยะเวลามันโอเค ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกันก็จบด้วยการแต่งงาน"



จุดที่ทำให้รู้สึกได้ว่าเราแต่งงานกันเหอะ

"คบกันเราก็รู้ว่าเขาอยากแต่งงานมีครอบครัว คนเราคบกัน ทุกคนก็วางแพลนชีวิต สุดท้ายเราคบกันเพื่ออะไร คบกันแล้วไปด้วยกันไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป ตั้งเป้าในชีวิตคบเป็นแฟน ก็อยากแต่งงาน พอวางแผนและเป็นไปตามแผนมันเลยไม่มีอะไรขัดแย้ง แต่งก็แต่ง เราพร้อมก็แต่งไม่มีข้อแม้ เค้าโอเคไม่เจ้าชู้ นิสัยดี รักครอบครัวและรักครอบครัวเรา ที่เราวางสเปกไว้ชีวิตเราไม่อบอุ่น เราก็มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสามีที่ดูแลเราได้มันก็โอเค" เตรียมชุดแต่งงานไปถึงไหนแล้ว "ชุดแต่งงานโอ๋ตัดกับอาไข่ บูติก เพียงตอนนี้อยากให้ร่างกายเราเพอร์เฟกต์ ไม่อยากให้ใครมาติ และรูปถ่ายมันต้องเก็บไว้ตลอดชีวิต"

รูปแบบงานแต่งในฝัน

"ตอนเช้าเป็นพิธีจีน ยกน้ำชา จะเป็นภายในครอบครัวและเพื่อนสนิท ซึ่งเพื่อนเจ้าสาวที่เป็นคนในวงการจะมี 3 คน มิลค์ เขมสรณ์, แหม่ม วิชุดา และจ๋า ยศสินี ชุดเพื่อนเจ้าสาวก็มีตรีมเป็นสีโอลด์โรส เห็นจากงานหมั้นพี่แบม ที่เพื่อนบ่าว-สาว มีโทน โอ๋ว่ามันดูสวยดีนะ ส่วนชุดทำพิธีตอนเช้าออกทองๆเรียบๆ กับชุดกลางคืน ด้วยความที่เราใส่ชุดในละครมาเยอะ บวกกับเรานิสัยโอ๋เป็นคนชอบอะไรเรียบๆ แต่นั่งคิดปรึกษาอาไข่ เดี๋ยวจะจมไป จากเรียบๆก็กลายเป็นฟู ก็ดีเหมือนกันใส่ครั้งเดียวในชีวิตจริงๆ"



คบกับทายาทร้านทองเลยได้ฉายาโอ๋ตกถังทอง

"โอ๋ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน เราอยู่ในวงการมา 10-15 ปี ไม่ได้มาตัวเปล่าเล่าเปลือย โอ๋รู้สึกว่าสิ่งไหนที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีก็จะทำ ไม่ได้เป็นสำมะเลเทเมา ซื้อบ้านให้แม่ ฐานะโอ๋ปานกลาง แต่เราก็มีสิทธิ์เลือก ถึงบอกว่าโอ๋มีแพลนในชีวิต โอ๋รู้สึกดีกับคนที่ดีกับโอ๋ เขาน่ารักที่จะมาดูแลพ่อของลูกเราได้ ดูแลเราได้ ไม่จำเป็นต้องรวย แต่ก็โชคดีที่บ้านเค้ามีกิจการที่มั่นคง สมมุติโอ๋คบกับคนที่มีฐานะปานกลาง แต่ตรงตามสเปกที่เราตั้งไว้ก็โอเค ถึงบอกว่าอันนั้นเป็นเรื่องทางบ้านเค้า ไม่ใช่อยู่ดีๆเราตกถังทอง เหมือนสิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนั้น"

นับถอยหลังตื่นเต้นหรือเหนื่อย

"ตอนนี้ยังไม่ตื่นเต้น มีพูดกับแฟน ใกล้ๆแล้วนะ ยังไม่รู้ แต่วันนั้นคงตื่นเต้น ปลายปีคงฮันนีมูนเพราะช่วงทำงานไม่ค่อยไปไหน ไม่เคยหยุดยาว หลังแต่งงานก็หยุดแค่ 7 วัน เพราะหลังจากนั้นต้องกลับมาทำงาน" หลังแต่งจะต้องย้ายเข้าไปอยู่ บ้านเจ้าบ่าว "คงอยู่ กันเอง คุณแม่ซื้อให้แล้ว เป็นคอนโดฯไปก่อน หลัง จากนี้ค่อยว่ากัน มันเป็นความคิดของโอ๋ด้วย ไม่รู้ จะรีบทำไม ยังไม่มีลูก อยู่กันแค่สองคน เรียนรู้ กันไปก่อน" ฝันเป็นจริงได้เป็นเจ้าสาว "ทุกคนคงมีฝันอะไรแบบนี้ ตอนนี้อยากบอกเลยยุ่งมาก แฟนยังบอกเลยว่าการแต่งงานมันยุ่งจริงๆ" เร่งมือปั๊มทายาท "รอปีหน้าก่อนค่อยว่ากัน ค่อยตัดสินใจอีกที ปีนี้เหลือไม่กี่เดือน อยากเที่ยว อยากฮันนีมูน ใช้ชีวิตคู่สองคนก่อน เพราะก่อนหน้านี้เราใช้ชีวิตเป็นแฟนมา 3 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าลูกจะมาทันเราหรือเปล่า ไม่รู้แต่งจะมีเลยหรือเปล่า ถ้าแต่งมีลูกเลยก็ถือว่าลักกี้ไป" แค่ เนี้ย! สาวๆก็อิจฉาทั้งเมืองแล้วล่ะ.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์